28 ก.ค. 2020 เวลา 12:20 • ครอบครัว & เด็ก
“The Seven Year Itch”
อาถรรพ์เลข 7 “รักสะบั้น” จริงหรือ?
ตอนสมัยวัยรุ่น เคยได้ยินรุ่นพี่เล่าถึงอาถรรพ์ 7 ปี ของคู่ที่รักกันว่า หากหนุ่มสาวคู่ใดตกลงใจคบเป็นคนรักกันมาถึง 7 ปี แล้วยังไม่แต่งงานกัน ส่วนใหญ่จะต้องเลิกรากันไป รุ่นพี่ก็เลยใช้เป็นเหตุผลให้ผู้บ่าวรีบๆ มาสู่ขอไวๆ ซะเหอะ
The Seven Year Itch / psychiczin
ตอนนั้นฟังก็ขำๆ ปนอิจฉารุ่นพี่นิดหน่อยๆ (ฮาๆ) ก็ตอนนั้นคบใครไม่เคยถึง 7 ปีซะที แยกย้ายไปซะก่อน
แต่พอได้นำเรื่องนี้มาคุยกับคุณน้าเจ้าของร้านดอกไม้ที่รู้จักกัน คุณน้าเล่าให้ฟังว่า “แถวบ้านน้า เขานับ 7 ปี หลังการแต่งงาน ไม่ใช่ก่อนการแต่งงานจ้า”
เออ...หรือเพราะสมัยก่อน ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่เขาเลือกให้ หรือหากโชคดีได้เลือกเอง ก็ไม่ได้มีเวลาใกล้ชิดกันสองต่อสองมากมายหรอก ถือว่ายังไม่ได้เข้าจุด Start คงประมาณนั้น
“หน้า 7 หลัง 7 จ้ะ ตัวเอง” คุณเพื่อนคนสนิทบอก
ห๊ะ!!!
“แม่เราบอกว่าเขานับทั้งก่อนแต่ง 7 ปี และอาถรรพ์จะวนมาอีกหลังแต่ง 7 ปี” คุณเพื่อนย้ำอีกรอบ
โอ้ว!!! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด… อ๊ะยะ!!
เป็นความเชื่อที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงจริงๆ และความเชื่อนี้ไม่ได้อยู่แค่คนไทยเท่านั้น ในชาวต่างชาติเขาก็มีความเชื่อเรื่อง “The Seven Year Itch” เช่นกัน
Phychiczin ขอยกตัวอย่างเคสที่ได้กรุณาให้ข้อมูลมา โดยใช้ชื่อสมมุติค่ะ
The Seven Year Itch / psychiczin
คุณกานดา วัย 33 ปี ขายอาหารอยู่ในตลาดแห่งหนึ่งเล่าว่า คุณกานดากับอดีตสามี เริ่มระหองระแหงกันตั้งแต่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันปีที่ 3 เป็นต้นมา ด้วยความสุดแสนเจ้าชู้ของสามี ทั้งที่ไม่หล่อ ไม่รวย แต่คารมดี มีสาวๆ นัดไปไหนต่อไหนกันอยู่เรื่อย
สาวบางคนก็มาหาถึงบ้านในวันหยุด แต่คุณกานดากว่าจะรู้ ก็หลังจากเก็บร้านตอนค่ำแล้ว เงินทองของสามีก็ไม่มีส่งเสียลูก อ้างว่าเงินเดือนน้อย ไม่พอใช้ มีแต่จะมาขอคุณกานดาเป็นบางครั้ง ก็ทะเลาะตบตีกันบ้าง พี่ชายคนโตและพี่สาวของสามี ช่วยเหลือจุนเจือบ้าง ในที่สุดจึงตัดสินใจอย่าร้างไปเมื่อครบ 7 ปี 2 เดือน
ถามคุณกานดา ว่าเชื่อเรื่อง อาถรรพ์ 7 ปี หรือไม่
คุณกานดา บอกว่า ไม่เชื่อว่าเป็นอาถรรพ์อะไร แต่เชื่อเรื่องบุญกรรมว่า สิ้นสุดกันแต่เพียงเท่านี้ สบายใจดี
ผศ.นพ. พันธุ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ แพทย์ผู้เชียวชาญทางด้านสูตินรีเวชวิทยา เคยกล่าวไว้ว่า..
มีงานวิจัยศึกษาด้านความสัมพันธ์ของหญิงชายต่างประเทศ ซึ่งสำรวจคู่รักหลายพันคู่ ถึงช่วงระยะเวลาหวานชื่นของคู่รัก พบว่า ช่วงเวลา 7 ปี เป็น “ค่าเฉลี่ย” ของความรู้สึกหมดความอดทนถึงขนาดต้องเลิกรา เป็นระยะที่คู่รักจะไม่ทนต่อพฤติกรรมที่ไม่ดีอีกต่อไป
ที่นี้รู้แล้วว่า 7 ปี เป็นค่าเฉลี่ยนะคะ แล้วพฤติกรรมอะไรบ้างล่ะ ที่อย่ามาเกิดกับคู่ของเราเลยนะ
The Seven Year Itch / psychiczin
4 พฤติกรรมที่ทำให้ชีวิตคู่คลอนแคลน
1. พูดหักหน้า
ด้วยความที่สนิทใกล้ชิดกันที่สุด หลายๆ คู่เกิดปัญหาการเอาชนะกัน ที่เห็นได้ชัดคือ การเอาชนะทางความคิด ฉันถูกเธอผิด เริ่มแยก “เธอ” “ฉัน” ไม่ใช่ “เรา”
บางคนอาจคิดว่า แค่เรื่องเล็ก จริงๆ มันไม่เล็กเลยสำหรับบางคนที่ “ถูกข่ม” ต้องยอมเป็นฝ่ายแพ้อยู่ตลอด เก็บสะสมความรู้สึกนั้นไว้ ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว บางคนรู้ตัวว่าเถียงไปก็แพ้อยู่ดี เลยเลือกที่จะนิ่ง อีกฝ่ายอาจยิ้มย่องใจ โดยไม่รู้เลยว่า ระเบิดเวลาได้ถูกวางขึ้นแล้วทีละเล็กทีละน้อย
ดังนั้น การให้เกียรติซึ่งกันและกัน รับฟังความคิดเห็นและหาข้อสรุปร่วมกัน ไม่ใช่เธอต้องฟังฉัน ฉันแล้วแต่เธอ ก็จะช่วยลดปัญหาข้อนี้ไปได้นะคะ
2. ข้อเสียที่รับไม่ได้
ตอนคบกันใหม่ๆ น้ำต้มผักก็ว่าหวาน ก่อนจะตัดสินใจครองคู่กันก็เห็นคนรักของตนดีอย่างนั้นอย่างนี้ พูดแต่ส่วนที่ดีของอีกฝ่าย เพราะต่างแสดง “ภาพ” ให้อีกฝ่ายประทับใจ เก็บนิสัยส่วนที่ไม่ดีที่เป็นตัวตนจริงเอาไว้
บางคนตั้งใจว่า จะค่อยๆ ปรับตัวเองให้ดีขึ้น แต่บางคนก็แค่ซุกซ่อนไว้ก่อน เดี๋ยวใช้ชีวิตร่วมกันไป ก็ต้องรับกันให้ได้เอง
เมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมที่ซ่อนไว้นั้นถูกแสดงออกมา ต่างฝ่ายต่างต้องอดทนกับพฤติกรรมที่ไม่เคยชินจากครอบครัวที่ต่างฝ่ายต่างเติบโตมา หรือเป็นพฤติกรรมที่น่าผิดหวัง ที่หากรู้ก่อนคงไม่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมด้วย
อดทนนานวันเข้า ก็ถึงจุดที่อดทนไม่ไหวอีกต่อไป หลายคู่จึงเลือกที่จะปิดฉากความรักลงทั้งๆ ที่ยังรักกันอยู่ แต่ดีกว่าอดทนไปจนถึงวันที่ต้องเกลียดกัน
3. ไม่เพียงพอเรื่องเพศสัมพันธ์
แต่เดิมเคยมีคนกล่าวว่า ถ้าเรื่องบนเตียงโอเค สามี / ภรรยา ก็ไม่หนีไปหาใครที่ไหนหรอก เรื่องนี้ ขอเป็นจริง 50% นะคะ เพราะจริงๆ แล้ว นอกจากเรื่องอย่างว่าแล้ว เป็นที่จิตใจของคนๆ นั้น ด้วย
ถ้าหนักแน่น มีความรับผิดชอบพอ ก็จะไม่เปิดใจให้ใครเข้ามาง่ายๆ หรอก เว้นแต่ว่า มีปัญหาสะสมจากข้อ 1 - 2 มาก่อน จนถึงจุดที่เบื่อหน่าย อยากจะเปิดใจหาคนใหม่ซะแล้ว
ถ้าในเคสมีปัญหาสะสมจากข้อ 1 - 2 ทางที่ดี ลองหาทางออกร่วมกันนะคะ อย่าให้มาถึงจุดนี้เลย เพราะมีแต่เสียกับเสียค่ะ
แต่ถ้ามาจากความต้องการทางเพศที่อันลิมิต ขอให้นึกถึงตอนที่รักกันใหม่ๆ นะคะ ลองปรับจูนกัน เปิดใจคุยกัน ใจเขาใจเรา ถ้าพลังเหลือก็ปลดปล่อยไปกับการเล่นกีฬา ทำงานอดิเรก งานศิลปะ ฟังเพลง ร้องเพลง กิจกรรมต่างๆ ถ้ามีลูก ก็เลี้ยงลูก ทำกิจกรรมกับลูก ก็จะช่วยลดพลังในส่วนนี้ลงไปได้
4. เปลี่ยนนิสัยแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
ข้อนี้ ไม่ได้เป็นการเปิดพฤติกรรมที่ซุกซ่อนไว้ แต่เป็นการเปลี่ยนนิสัยไปเลย ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และอิทธิพลของสภาพแวดล้อม กลุ่มคนที่ใกล้ชิด เพื่อนร่วมงาน คนที่รู้จักผ่านออนไลน์ การใช้ชีวิต ต่างๆ ล้วนมีอิทธิพลต่อความคิดทั้งสิ้น
บางคนซึมซับสังคมใหม่จนเปลี่ยนไปแบบไม่รู้ตัว แบบนี้ก็รู้สึกเหมือนเขาไม่ใช่คู่ชีวิตคนเดิมของเราน่ะสิ ไม่ใช่คนที่เราเคยรัก ก็น่ากระอักกระอ่วนใจ
บางคนเมื่อเปลี่ยนสังคมจากเดิม เช่นจากที่ทำงานเดิม ที่อยู่เดิม ไปสู่สังคมใหม่ พบเจอคนใหม่ คุยกันถูกคอ ลามไปถูกใจ คุยกันบ่อย รู้สึกว่าใช่กว่าคนที่รอคอยอยู่ที่บ้านไปซะอีก
หรือการเลียนแบบพฤติกรรมของคนที่รายล้อม จากไม่เคยเที่ยวกลางคืน ไม่เคยเล่นการพนัน ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
แบบนี้ รักอย่างไรก็ไปต่อกันได้ยาก นอกจากจะกลับตัวกลับใจได้ซะก่อน
The Seven Year Itch / psychiczin
ฉะนั้น อย่าไปกังวลกับ 7 ปี เลยค่ะ
เพราะปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ตัวเลข
“ความเชื่อ ก็คือ ความเชื่อ” มีไว้เตือนให้เรามีสติ ไม่ประมาท และสร้างภูมิคุ้มกันอารมณ์ เพื่อเข้าใจสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
คู่ที่มีรักมั่นคง เดินบนเส้นทางแห่งความดี มีปัญหาก็คิดแก้ไขร่วมกัน ไม่แบ่ง “โน่นเธอ นั่นฉัน” จะเลข 7 หรือเลขอะไร ก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ
ด้วยรัก
Psychic Zin
โฆษณา