🙏🏻>>>วัดอรุณราชวราราม Wat Arun.<<<🙏🏻
ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทักทายสายตาชาวโลก เป็นวัดอีกแห่งที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของเรามาอย่างยาวนาน
วัดอรุณราชวราราม (Temple of the Dawn, Bangkok) หรือวัดแจ้ง เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร
Violet_p
วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า "วัดมะกอก" ในบางตำนานกล่าวว่า “ ตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระราชประสงค์ย้ายราชธานีมาตั้ง ณ. กรุงธนบุรี โดยกรีธาทัพมาทางชลมารค และมาถึงหน้าวัดมะกอกเอารุ่งสางพอดี จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแจ้ง"
แต่ในวรรณกรรมเพลงยาวของ หม่อมภิมเสน วรรณกรรมสมัยอยุธยาที่บรรยายการเดินทางจากอยุธยาไปเพชรบุรี ได้ระบุชื่อวัดแจ้งตั้งแต่เวลานั้นแล้ว (คาดว่าน่าจะใช้ชื่อวัดแจ้งมาก่อนที่สมเด็จพระเจ้าตากจะเสด็จมาตั้งราชธานี ณ. กรุงธนบุรี)
จวบจนสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เถลิงถวัลยราชสมบัติ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ พระองค์เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 จึงทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ โดยพระราชทานนามวัดว่า "วัดอรุณราชวราราม" และกลายเป็นวัดประจำรัชกาลในพระองค์
ข้อมูล:Wikipedia
Cr.pic: thai.turismthailand.org
วิหารน้อย และโบสถ์น้อย
สันนิษฐานว่า วิหารน้อย (ซ้ายมือในภาพ) กับโบสถ์น้อย (ขวามือ) สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาคู่กับพระปรางค์องค์เดิม ก่อนสร้างพระปรางค์ขึ้นใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และสร้างต่อจนแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3
สันนิษฐานว่า วิหารน้อย (ซ้ายมือในภาพ) กับโบสถ์น้อย (ขวามือ) สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาคู่กับพระปรางค์องค์เดิม ก่อนสร้างพระปรางค์ขึ้นใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และสร้างต่อจนแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ รัชกาลที่ 3
พระประธานในโบสถ์น้อยเป็นพระปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย บนฐานชุกชีมีพระพุทธรูปขนาดน้อยใหญ่หลายองค์
Cr.Voicetv.co.th
ในโบสถ์น้อยมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประดิษฐานอยู่
Cr.pic:Voicetv.co.th
หน้าฐานชุกชีเป็นลับแลก่ออิฐถือปูน มีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงเครื่องพระมหากษัตริย์ ประทับห้อยพระบาท พระราชพงศาวดารกล่าวว่า เมื่อจวนสิ้นรัชกาล พระองค์ทรงผนวชและมาประทับ ณ โบสถ์แห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีศาลสถิตดวงพระวิญญาณ สร้างขึ้นพร้อมพระบรมรูป เมื่อปี พ.ศ. 2489 พระแท่นบรรทมของรัชกาลที่ 2 จัดแสดงให้ได้ชมอีกด้วยค่ะ
พระปรางค์วัดอรุณฯ
ด้วยความที่เราเดินมาจากทางเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเดินหลงทาง เข้าตรอกทะลุซอยตามเฮีย G สุดท้ายก็มาโผล่ที่วัดอรุณโดยความบังเอิญ แบบเหมือนจะตั้งใจ พอเดินเข้าไปในเขตวัดอรุณฯ สิ่งที่เราจะมองเห็นเป็นสิ่งแรกเลยนั่นก็คือ พระปรางค์ของวัดอรุณฯ ซึ่งตั้งโดดเด่นเป็นสง่า งดงามเห็นมาแต่ไกลเชียวค่ะ
เราสามาถเข้าชมพระปรางค์ ได้ 2 ช่องทางนะคะ จากทางหน้าวัด และทางท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่วันนี้เราโผล่มาทางหน้าวัด (ตามเฮีย G)
พระปรางค์ใหญ่วัดอรุณฯ ก่อสร้างโดยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญ บนพระปรางค์ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบและเครื่องถ้วยชามเบญจรงค์ที่นำเข้ามาจากจีน ซึ่งมีลวดลายงดงามเป็นของเก่าแก่และหายาก โดยได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5
บริเวณโดยรอบพระปรางค์ใหญ่ ประกอบด้วยพระปรางค์เล็ก 4 องค์ รอบ 4 ทิศ ภายในมีรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ กำแพงแก้วกั้น มีฐานทักษิณ 3 ชั้น มีรูปปั้นมารและกระบี่แบกฐานสลับกัน นอกจากนั้นมีซุ้ม 4 ซุ้ม มีพระนารายณ์อวตาร เหนือขึ้นไปเป็นยอดปรางค์ มีเทพพนมนรสิงห์เพื่อปราบยักษ์
ซุ้มประตูมงกุฎ
ซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถ จะเห็นยักษ์ 2 ตน ยืนยืนเฝ้าอยู่ ทั้งงดงามและน่าเกรงขาม
ยักษ์ที่มีกายสีขาว มีชื่อว่า "สหัสเดชะ"
ยักษ์ที่มีกายสีเขียว มีชื่อว่า "ทศกัณฐ์"
เป็นยักษ์ปูนปั้นใช้ศิลปะแบบจีน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสี มือถือตะบองใหญ่เป็นอาวุธ ตรงบริเวณหน้าซุ้มทางเข้าพระอุโบสถ มีความเชื่อในการทำหน้าที่เป็นเทพพิทักษ์ ปกปักรักษาสถานที่สำคัญทางศาสนา
ทางเข้าซุ้มประตูมงกุฎจะมีรูปปูนปั้นยักษ์ 2 ตนยืนประจำการอยู่
เดินผ่านซุ้มประตูโค้งเข้าไปจะพบกับเสาหินสลักมังกรพันรอบ 2 ต้น เป็นศิลปะแบบจีน สวยงามอย่างลงตัว
บรรยากาศเงียบสงบต่างจากภายนอกเลยค่ะ
ใบเสมาหน้าพระอุโบสถ
พระอุโบสถ
พระอุโบสถ เป็นประดิษฐานพระประธานชื่อว่า "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก"
Cr.pic: th.m.wikipedia.org
พระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์
เล่ากันว่าหุ่นพระพักตร์ปั้นโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ส่วนพระวรกายปั้นโดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
และที่ฐานของพระพุทธธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยอีกด้วย
พระอุโบสถของวัดอรุณฯ เป็นแบบไทยสร้างในสมัยรัชกาลที่ 2 เครื่องไม้เดิมนั้นได้ถูกเพลิงไหม้เสียหายไป และซ่อมแซมใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5
พระอุโบสถ
ในวันที่ไปทางวัดมีงานนะคะ ภายในมีพระพิกษุจำนวนมาก กำลังสวดมนต์ เราเลยไม่กล้ารบกวนเลยได้แต่เก็บบรรยากาศภายนอกมาฝาก
พระอุโบสถวัดอรุณฯ
แผงหน้าบันพระอุโบสถ ประดับรูปเทวดายืนถือพระขรรค์อยู่ในปราสาท มีสังข์และคนโทน้ำวางบนพานข้างละพาน
รอบพระอุโบสถ
พระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ
บริเวรณทางเดินดูลึกลับ เงียบสงบ
รูปปั้นอับเฉา มีวางอยู่โดยรอบพระอุโบสถเลยค่ะ เป็นศิลปะแบบจีน บางชิ้นก็แตกหักไปค่ะ
พระวิหาร
วันที่ไปพระวิหารภายนอกได้มีการวางโครงเหล็กเอาไว้เพื่อทำการซ่อมบำรุงนะคะ เลยไม่ได้เก็บรูปมาฝาก แต่สามารถเข้าไปไหว้พระประธานภายในได้ค่ะ
พระวิหารหลวง สักการะพระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร พระประธานประจำพระวิหารหลวง และสักการะพระอรุณ หรือพระแจ้ง พระพุทธศิลป์แห่งล้านช้าง เวียงจันทน์ เมื่อปี พ.ศ.2401
พระพุทธชัมภูนุทมหาบุรุษลักขณาอสีตยานุบพิตร
และพระอรุณ หรือพระแจ้ง
มณฑปพระพุทธบาทจำลอง
วันที่ไปทางกรมศิลปได้กั้นพื้นที่เอาไว้ เพื่อทำการซ่อมบำรุงนะคะ อดเข้าไปชมเลย ได้แต่ยืนมองอยู่ไกล ๆ
🛥 เพิ่มเติม 🚗
วัดอรุณฯ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น.
(คนไทยเข้าชมฟรี นักท่องเที่ยวต่างชาติเสียค่าเข้าคนละ 40 บาท)
สำหรับการเดินทางมาวัดอรุณฯ สามารถมาได้โดย...
- รถเมล์ สาย 19, 57
- ทางเรือ ถ้ามาโดยใช้ BTS ให้ลงที่สถานีสะพานตากสิน สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเตียน หลังจากนั้นนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งพระนครมาลงท่าเรือหน้าวัดอรุณฯ ได้เลยค่ะ
- ทางรถยนต์ส่งนตัว ตั้ง GPD มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนอรุณอมรินทร์ ผ่านหน้าโรงพยาบาลศิริราช ตรงมาเรื่อย ๆ ยังกรมอู่ทหารเรือ จะเห็นทางเข้าวัดอรุณฯ อยู่ถัดไปไม่ไกลมากค่ะ
กระดิ่งใบน้อย แขวนห้อยหยอกล้อลม
จบแล้วสำหรับหลงทางทริป ถึงจะเดินเที่ยวท่ามกลางแสดงแดดอันร้อนแรง แซงรถสิบล้อ แต่สิ่งที่ได้รับคือ...เหนื่อย!! เอ้ย! ความสนุก ความประทับใจในการเดินทาง ซึ่งทุกครั้งของการเดินทางมันก็มีเรื่องราวที่สนุกประทับใจในระหว่างทางทุกที่นั้นล่ะหนาและที่นี่ก็เช่นกัน
แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า จะพาไปเดินงงในดงอะไรต่อไปนั้น โปรดตามติดค่า
@Violet_p
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
