30 ก.ค. 2020 เวลา 03:26 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 9 ความเปราะบาง
“We are never so vulnerable as when we love.” – Sigmund Freud
ซิกมุนด์ ฟรอยด์เคยกล่าวเอาไว้อย่างนี้ มนุษย์นั้นไซร้เมื่อยามตกอยู่ในห้วงรัก เราจะทั้งเปราะบางและอ่อนไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“And yet never quite as strong either .” – Anonymous
และก็จะกลายเป็นผู้เข้มแข็งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน ใครซักคนกล่าวเสริม
ธนภพเป็นชายวัยกลางคนผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็ไม่ใช่น้อย แต่ตอนนี้...จิตใจของธนภพที่รักและทุ่มเทให้กับลูกสาวคนเดียวนั้นก็อ่อนไหวประหนึ่งเทียนที่โดนไฟลน เขามีความรักให้กับลูกสาวอย่างบริสุทธิ์ และความรักอันบริสุทธิ์นั้นเองที่กลายเป็นจุดอ่อนให้เด็กสาวผู้ใคร่กามโจมตีตรงหว่างกลางหัวใจนั้น รสรินทร์นาบทั้งหน้าอกและใบหน้าของตัวเองซบลงไปที่ต้นแขนของคุณพ่อ ลมหายใจดังฟืดฟาดที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายของเธอดังจนได้ยินชัด มืออีกข้างของเด็กน้อยก็ลูบไล้ไปมาที่ต้นขาอันแข็งทื่อของท่าน
ตาสองตาประสานกัน รสรินทร์บอกคุณพ่อไปทั้งหมดแล้วว่าตัวเองนั้นต้องการอะไรโดยที่ไม่ได้เอ่ยเป็นคำพูดออกมาแม้แต่คำเดียว และรสรินทร์ก็รู้สึกได้ถึงคำตอบของคุณพ่อในแววตาคู่นั้น
เด็กสาวลุกขึ้นยืน เดินถอยออกมาจากโซฟา สายตาธนภพก็ยังคงนั่งจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานนั้นไม่วางตา ดูร่างขาวผ่องนั้นค่อยๆ ขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวห่างเขาไปช้าๆ อย่างอ้อยอิ่ง สาวน้อยนั่นเล่าก็ส่งสายตาเหลือบมองมายังเขาอยู่เป็นระยะ ตาของธนภพก็มองตามไป แล้วเธอก็เดินขึ้นชั้นสองของบ้าน เสียงเปิดประตูห้องนอนของรสรินทร์ก็แว่วมา แล้วก็ตามด้วยเสียงบานพับที่ลั่นช้าๆ และมันก็ปิดลง
ธนภพลุกขึ้น
เขาขยับเท้าตามลูกสาวไปช้าๆ หัวใจเขาตอนนี้เต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ลมหายใจดังฟืดฟาดดั่งกระทิงเปลี่ยว เขาก้าวเดินขึ้นบันไดตามรอยของลูกสาวตัวเอง และเมื่อเขาเดินไปถึงหน้าประตูห้องของเธอ เขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ตาจ้องมองที่บานประตูไม้ราวกับกำลังคิดอะไรสักอย่าง แต่ในที่สุด ธนภพก็เอื้อมมืออันสั่นเทาของตนไปจับที่ลูกบิดประตู ออกแรงบิด...และเขาก็ดันบานประตูเปิดเข้าไป
โฆษณา