ทำไมไม่อ่าน : EP.0
ทำไมไม่อ่านคืออะไร ด้วยความที่ปัจจุบันนี้วิวัฒนาการเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก เทคโนโลยีล้ำสมัย เกือบทุกคนที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตและหาข้อมูล หรือสิ่งที่น่าสนใจได้จากในนี้เลย บางทีอาจจะทำให้เราลืมบางสิ่งบางอย่างไปอย่างเช่น การอ่านหนังสือดีๆ หรือหนังสือที่เราชอบสักเล่ม จริงๆแล้วเรามีหนังสือที่เคยซื้อมาแล้ว ได้อ่านบ้าง ไม่ได้อ่านบ้างเลยอยากจะหยิบเอาหนังสือเหล่านั้นมาเล่าสู่กันฟัง และอีกเหตุผลนั้นก็คืออยากให้เพื่อนที่อ่านเรื่องของเราได้กลับไปเปิดกรุหนังสือที่บ้านแล้วลองหยิบมาอ่าน แล้วมาแชร์ความคิดเห็นกันค่ะ
ย้อนไปในมัธยมวัยใส เรา (หรือเพื่อนๆอีกหลายๆคน) จะต้องมีช่วงฮิตอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะซื้อเอง เช่า หรืออ่านในห้องสมุดโรงเรียน เราชอบอ่านหนังสือมาก (ยกเว้นหนังสือเรียนนะ ToT) จะต้องเข้าห้องสมุดเพื่อไปอ่านนิยาย การ์ตูนทุกวัน
ขออธิบายบรรยากาศห้องสมุดโรงเรียนนิดหน่อยนะคะ ห้องสมุดที่นั่นค่อนข้างใหญ่ และมีหนังสือเกือบทุกประเภทที่เด็กสามารถอ่านได้ เราเริ่มจากหนังสือ Harry Potter (หนังสือในตำนานของใครหลายๆคน) แต่เริ่มจากเล่ม 4 แล้วค่อยมาอ่านเล่ม 1 2 3 ช่วงนั้นเรียกว่าคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ แต่อ่านได้แค่ 4 เล่มก็ไม่ได้ตามต่อ ในห้องสมุดก็จะมีหนังสือข้อมูลเกี่ยวกับ Harry Potter ค่อนข้างเยอะ ทั้งสัตว์วิเศษ คถา บลาๆๆ ห้องสมุดเราสามารถยืมกลับบ้านได้ หลังปกหนังสือก็จะลงชื่อเรา วันที่ยืม และวันที่ต้องคืนเอาไว้ ไม่คืนตามกำหนดอาจจะต้องโดนปรับ หรือถ้าไม่คืนเลยอาจจะไม่มีสิทธิ์สอบกันเลยทีเดียว (ซึ่งเราก็โดนปรับอยู่บ่อยๆ)ความสนุกจะอยู่ตรงที่เราจะลุ้นเวลาดูชื่อข้างหลังว่ามีใครอ่านแล้วบ้าง มีคนที่เราแอบชอบมาอ่านบ้างมั้ย หรือถ้าเล่มนั้นไม่มีชื่อลงไว้มันจะสนุกมั้ยนะ
หลังจากอ่านที่ห้องสมุดเสร็จ พอถึงเวลากลับบ้าน ก็จะต้องแวะร้านเช่าการ์ตูน เพื่อเช่าการ์ตูนตาหวาน (หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น มีใครเรียกแบบเราบ้าง 555) มาอ่านต่ออีก ร้านเช่าการ์ตูนที่เราไปเช่านั้นจะต้องทำการสมัครสมาชิกก่อนโดยใช้บัตรประชาชนหรือบัตรนักเรียน โดยมีค่ามัดจำ(เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว) ส่วนการเช่าการ์ตูนนั้นก็จ่ายค่าเช่าแยกต่างหาก สมัยนั้นค่าเช่าถ้าเป็นนิตยสารหรือนิยายจะอยู่ที่เล่มละ 5 บาท การ์ตูนตาหวานเล่มละ 3 บาทต่อวัน ซึ่งบรรยากาศในร้านที่เราไปเช่าจะแน่นมากทั้งหนังสือและผู้คน โดยเฉพาะนักเรียนที่เข้ามาอ่านในร้าน บางคนนั่งหรือนอนกับพื้นเลยก็มี
นิยายที่เราอ่านสมัยนั้นไม่ได้มีแค่ Harry Potter เท่านั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังจำได้ และมีเรื่องที่ชื่นชอบมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย เรื่องนี้เป็นนิยายแปลมีทั้งหมด 13 เล่ม ซึ่งในแต่ละเล่มนั้นเป็นเล่มแบบกระชับ ไม่หนา ไม่ใหญ่ ถ้ามีเวลาสามารถอ่านได้จนจบภายในวันเดียวเลยล่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราอ่านแล้วยังรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่อ่าน แม้จะจำเรื่องราวหรือตอนจบได้ แต่ก็ไม่เคยเบื่อ (ซึ่งเราเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหรือดูซ้ำเพราะเรารู้ตอนจบแล้ว มันไม่ตื่นเต้น)
ย้อนวัยมาไกล ใน EP.1 (ซึ่งไม่น่าจะเร็วๆนี้555) เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย เนื่องจากเป็นหนังสือในดวงใจเราจะเลือกเรื่องนี้พูดคุยกันว่าแต่ละเล่มกันจะมีเนื้อหายังไง เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ในมุมมองของเราเอง ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่มีมุมมองที่แตกต่างหรืออยากจะแนะนำ ติชม สามารถคอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะค้า
Cr. https://www.facebook.com/whoislemonysnicket/
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
