6 ส.ค. 2020 เวลา 06:23 • ท่องเที่ยว
🌻ย่านเก่าเล่าเรื่อง...เจริญกรุง🌻
ขึ้นชื่อว่าย่านเก่า ยิ่งแถวย่านเจริญกรุงด้วยแล้ว มีทั้งร้านอาหารเจ้าเก่า ที่มีฝีมือระดับเก๋าในตำนาน อยู่มากมายหลายร้าน ตามหรอกซอกซอยให้เราได้ตามค้นหา และแน่นอนว่าต้องมีอาคารบ้านเรือนเก๋ ๆ ให้เราได้รัวชัตเตอร์กันแน่นอนค่ะ
Violet_p
และวันนี้ โ-ส-ด-Journey จะพาไปเสาะแสวงหาสถานที่ ที่ว่ากันค่ะ...ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าเก่าอีกร้านในย่านนี้ สมัยยังทำงานแถวนี้แวะมากินร้านนี้บ่อยมาก
บ้านเก่า กับภาพกราฟฟิตี้สวย ๆ ด้านหลังเป็น The State tower
ซอยหลังโรงพยาบาลเลิศสิน ในซอยนี้มีร้านอาหารเจ้าเก่าอยู่หลายร้ายเลย อย่าขาหมู ไก่ตุ๋นยาจีน เป็ดย่างหอม ๆ ส้มตำแซบ ๆ ถ้าใครว่างลองแวะเข้าไปลิ้มลองกันดูนะคะ
ป้ายแรกของวันนี้คือ...
กองทัพต้องเดินด้วยท้องใช่มะดังนั้น เรื่องกินย่อมสำคัญ วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศมากินอาหารมุสลิมกันบ้างค่ะ
🏡>>ร้านอาหารมุสลิมบางรัก<<🏡
ตั้งอยู่ริมถนนปากซอยเจริญกรุง42 แยกบางรัก ฝั่งเดียวกับโรงเรียนอัสสัมชัญ
บรรยากาศของร้านจะคล้ายโรงน้ำชาทางภาคใต้ โปร่ง โล่ง สบายและเป็นกันเอง คนที่มาทานอาหารที่ร้านไม่ได้มีแค่ชาวมุสลิมนะ คนทั่ว ๆ ไปอย่างเราที่เข้าไปทานก็เยอะค่ะ ของเขาอร่อยจริง
ร้านเปิดเวลา 6.30-17.30 น.
Musum Restaurant
บรรยากาศโล่ง ๆ ดี มีคุณลุงแอบหันมามองกล้องด้วย
เป็นร้านอาหารมุสลิมของแท้ และดั่งเดิม คุณภาพฮาลาน เปิดมานานกว่า 70 ปี เมนูอาหารให้เลือกเยอะเลยค่ะ มีทั้งเนื้อแพะ เนื่อวัวและเนื้อไก่ ที่สำคัญราคาไม่แพงค่ะ
เมนูที่เราเลือกกินในวันนี้ก็คือ
มะตะบะไก่
มะตะบะไก่ คือเราไม่กินเนื้อวัวไงเลยเลือกเมนูนี้ ราคาก็ไม่แพงนะ 50 บาท/จาน เสริฟมาคู่กับแตงกวาดองกับพริกซอย รสชาติเปรี้ยวหวานนิด ๆ ตัดเลี่ยนของคาวได้ดีเลยค่ะ ส่วนรสชาติของมะตะบะไก่ อร่อมากบอกเลย หอมเครื่องเทศอ่อน ๆ รสชาติเข้มข้นกำลังดี แป้งมะตะบะบางกรอบ ฟิลสุด ๆ อยากกินโรตีด้วยแต่วันนี้ไม่มี 😭
มะตะบะไก่สักคำมั๊ยคะ
ต่อด้วยนมร้อน ตอนแรกอยากกินโยเกิร์ตแต่วันนี้ทางร้านไม่ได้ทำไว้เลยอดตามระเบียบ...อีกแล้ว 🤣
นมสดร้อน ๆ นมจะเป็นนมสดจืดนะคะ ถ้าใครชอบหวานสามารถเติมน้ำตาลได้นะ
หน้านมยั่ว ๆ จ้า ส่วนของหน้านมเป็นอะไรที่อร่อยนะแก!!
นมมีความหอมละมุน เติมน้ำตาลเล็กน้อยนี่อร่อยล้ำ ยิ่งหน้านมหวานมัน นี่แบบคือดีต่อใจมากค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมด 80 บาท
หลังจากเติมพลังพุงกันแล้ว เราก็ออกเดินชิลกันต่อ ป้ายต่อไปก็คือ...
🛕>>วัดสวนพลู<<🛕
วัดสวนพลู ซ.เจริญกรุง (ซอยโรงแรมแชงกรีลา) ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานครฯ
เดิมทีวัดสวนพลูมีชื่อว่า “ วัดคลองล้อม “ ซึ่งเป็นชื่อตั้งตามสภาพสิ่งเวดล้อมในอดีต มีคลองน้ำใหญ่ล้อมรอบวัด ซึ่งเป็นคลองที่แยกมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เรียกทั่วไปว่า “ คลองสีลม “ สามารถผ่านไปตลอดถึงสวนลุม-ประตูน้ำ
จากคำบอกเล่าของคนเก่าคนแก่ที่อาศัยในละแวกวัดสวนพลู เล่าว่า บริเวณคลองล้อมวัดสวนพลูนั้นเป็นลำคลองที่มีขนาดใหญ่พอที่เรือของพ่อค้าชาวจีนสามารถกลับลำเรือได้
แต่ในปัจจุบันคลองดังกล่าวกลายเป็นถนนสีลมไปแล้วค่ะ
อุโบสถ
อุโบสถของวัดสวนพลูนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ศิลปภายนอกของอุโบสถเป็นงานปูนปั้นประดับกระจก
เครื่องบนของอุโบสถมีปูนปั้นเป็นรูปเทวดานางฟ้าประดับอยู่ดูสวยงามแปลกตา
หน้าบันประดับด้วยปูนปั้นเป็นรูปเทวดาและนางฟ้า
เรามีความรู้สึกว่าศิลปงานปูนปั้นภายนอกของวัดสวนพลูแห่งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น การเลือกใช้สีก็เหมือนกัน ถ้ามองดีๆ จะเห็นได้ว่าวัดมีสีฟ้าที่แปลก เนื่องจากการเลือกใช้กระเบื้องกระจกสีฟ้ามากกว่าสีทองคลาสสิกที่วันส่วนใหญ่เลือกใช้กัน ทำให้วัดสวนพลูแห่งนี้มีบรรยากาศที่สงบ
สงบจริงๆนะขนาดวัดตั้งอยู่ใจกลางย่านแห่งความโกลาหล โหวกเหวกจอแจทั้งจากเสียงเครื่องยนต์ และผู้คนที่หนาแน่นในแถบนั้น วัดยังเงี๊ยบเงียบ
พระอุโบสถวัดสวนพลู
ภายในพระอุโบสถไม่ได้เปิดให้เข้าชมแล้วนะคะ ทางพี่ยามเล่าให้ฟังว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมไม่ค่อยปฏิบัติตามกฏ มักจะใส่รองเท้าเข้าไปย่ำจนทำให้พื้นอุโสถสกปรก ท่านเจ้าอาวาสเลยงดให้เข้าไปค่ะ แอบเซงเหมือนกันนะคะ เราเลยพลอยอดไปด้วยเลย😢
ด้านหน้าทางเข้าพระอุโบสถ มีโรงเรียนอยู่ใกล้ ๆ ด้วยค่ะ แต่เด็ก ๆ ที่นี่เรียบร้อย ไม่ส่งเสียงดังเลยค่ะ
ศาลาการเปรียญ
ด้านหลังของศาลาการเปรียญ มีศาลาหลังเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางน้ำ ศาลานั้นคือ ศาลาพระโพธิสัตว์กวนอิมค่ะ
หมู่กุฎีสงฆ์
หมู่กุฏิของพระสงฆ์ในวัดแห่งนี้มีความโดดเด่นสวยงามด้วยลวดลายไม้ฉลุ ที่เรียกว่าลายขนมปังขิง ซึ่งประดับตกแต่งอยู่บนเรือนไม้สองชั้นทาด้วยสีเหลืองครีมคาดน้ำตาลเข้ม ฝาไม้ตีซ้อนเกล็ด โดยบริเวณชายคาก็ประดับด้วยไม้ฉลุที่แผงกันแดดเหนือทางเข้า ราวลูกกรงระเบียงชั้นบน และแผงกันแดดระหว่างเสาระเบียง
กุฎิขนมปังขิง
หมู่กุฎิภายหลังการบูรณะซ่อมแซมจากสีเหลืองอ่อน ๆ ตอนนี้เป็นสีแดงอิฐ สวยเด่น
ศาลาพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม
พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้สันนิษฐานกันว่าน่าจะมีการสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ เป็นพระมหากษัตริย์ในแผ่นดินรัตนโกสินทร์
ในช่วงนั้นได้มีชาวจีนจำนวนมากเข้ามาอาศัยภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ซึ่งชาวจีนเหล่านั้นมีความเคารพ ศัทธาเจ้าแม่กวนอิม ดังนั้นจึงได้มีการร่วมกันจัดสร้างเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ขึ้นเพื่อให้เป็นที่เคารพ และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจีนที่มาอาศัยในแถบนี้
ศาลาประดิษฐานรูปเคารพเจ้าแม่กวนอิม
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม
พระวิหารพระพุทธไสยาสน์
"วิหารพระพุทธไสยาสน์" มีพระพุทธไสยาสน์ซึ่งได้รับการบูรณะแล้วเป็นสีทองสุกอร่ามอยู่ด้านในสุด และมีพระพุทธรูปปางต่างๆ เช่น ปางนาคปรก และปางอุ้มบาตร
ซึ่งมีเรื่องเล่ากันสืบต่อมาด้วยว่า ท่านได้ก่อปาฏิหาริย์โดยการช่วยชาวบ้านที่ไปหลบภัยบริเวณรอบองค์ท่านให้พ้นจากลูกระเบิดที่ทิ้งมาจากเครื่องบินในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเลยนะคะ...ขนลุกเลย
พระวิหารพระพุทธไสยาสน์
วันที่ไปพระท่านทำวัดเช้า เราเลยไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปนะคะ เกรงว่าจะเสียมารยาท และจะรบกวนสมาธิท่านเอาได้ค่ะ
ระว่างทางก็เก็บภาพบ้านเรือนที่ยังคงสภาพต้นฉบับเอาไว้ไปพลาง ๆ แล้วก็ตามซอกตึกมีภาพกราฟฟิตี้สวย ๆ อยู่หลายที่เลยนะเธอ
🏛>>อาคาร อีสต์ เอเชียติก หรือ ตึกเก่า บริษัทอีสต์ เอเชียติก เป็นอาคารอนุรักษ์<<🏛
ซอยเจริญกรุง 40 (ซอยโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์) ติดกับท่าเรือโอเรียนเต็ล ตรงข้ามกับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
Cr.th.m.wikipedia.org
ในอดีตเคยเป็นที่ทำการของบริษัทค้าไม้ ดิ อีสต์ เอเชียติก คอมพานี (The East Asiatic Company: EAC) ประจำกรุงเทพมหานคร
ออกแบบโดยอันนีบาเล รีกอตตี (Annibale Rigotti) และก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูเรอแนซ็องส์ในช่วงปี พ.ศ. 2434
ตัวอาคารทางเข้าหันหน้าหาแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีบันไดจากภายนอกเข้าสู่อาคาร ชั้น 2 บริเวณกึ่งกลางอาคาร มีการก่ออิฐฉาบปูน 3 ชั้น ด้านบนเป็นดาดฟ้า การประดับตกแต่งอาคารค่อนข้างเรียบง่าย ไม่หรูหรา บันไดทางขึ้นด้านหน้าเป็นรูปแบบที่นิยมสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4
บริษัท ดิ อีสต์ เอเชียทีค คอมพานี (The East Asiatic Company: EAC) เป็นบริษัทสัญชาติเดนมาร์กประจำประเทศไทย ซึ่งเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ. 2427 โดย มร.เอ็ช เอ็น แอนเดอร์เซ่น กัปตันเรือชาวเดนมาร์ก
ผนังด้านหน้าอาคารแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนกลางทำเป็นส่วนเน้น ของอาคาร โดยออกแบบให้ยื่นออกมาจากผนังด้านข้างเล็กน้อย และมีขนาดกว้างกว่าผนังอีก 2 ส่วนที่ขนาบข้าง ด้านบนเป็นผนังที่ก่ออิฐฉาบปูน ทำสัญลักษณ์เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยม ยอดโค้งครึ่งวงกลม ภายในปั้นปูนลายสมอเรืออยู่ภายในธง
เดิมพื้นที่นี้เคยเป็นโกดังเก็บสินค้าของบริษัท ต่อมาได้รื้อและสร้างอาคารนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นสำนักงานแห่งใหม่จากสำนักงานเดิมซึ่งเช่าพื้นที่อยู่ในโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล
The East Asiatic Company Thailand Headquater (former)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 บริษัทได้ย้ายไปยังสำนักงานแห่งใหม่ที่ลุมพินี ทาวเวอร์บนถนนสาทร อาคารหลังนี้จึงได้ถูกขายเปลี่ยนมือมาให้กับ “ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี “
ข้อมูลจาก: th.m.wikipedia.org
ปัจจุบันตึกนี้จึงถูกปิดเอาไว้ไม่ให้เข้าไปภายในอาคารนะคะ
ย่านเจริญกรุงยังมีสถานที่ที่ยังคงกลิ่นไอของควาาหลัง และน่าไปเยือนอีกหลายแห่ง ไว้จะมาเล่าให้อ่านในคราวถัดไปนะคะ สำหรับบทความนี้บั๊บบาย🥰
@Violet_p
โฆษณา