31 ก.ค. 2020 เวลา 15:45 • ยานยนต์
EP.4
สวัสดีครับทุกคนน🙏🙏
วันนี้เเอดจะมาเล่าประวัติรถ Mazda 2 หรือชื่อในต่างประเทศชื่อ Demio นะครับผม ทำไมถึงอยากเล่าประวัติรถ Mazda 2 ละ? รู้ไหมเอ่ย? เพราะที่บ้านเเอดใช้ Mazda 2 ไงครับ เเอดเองใช้ Mazda 2 Hatchback 5 ประตู 1.3 High Connect ปี 2018 ครับ^^ (จะมีภาพอยู่ข้างล่างนะครับ) เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับ😁😁
อย่างเเรกเราจะมาเล่าเรื่องรุ่นเลยครับ เเต่ก่อนเนี่ย Mazda 2 เขาไม่ได้ชื่อว่า “2” นะครับ เเต่ก่อนเนี่ยเขาใช้รุ่น “121” ครับ หรือถ้าขายในญี่ปุ่นหรือบ้างประเทศจะใช้ชื่อ “Demio (ดีมีโอ)” นะครับ ซึ่งรถ Mazda 2 มีขายตั้งเเต่ 1996 เเล้ว ซึ้งในไทยพึ่งเริ่มขายตั้งเเต่ตัว 121 เเละได้หยุดขายจนต่อมานั้นได้ขายในปี 2007 เอง เเละในไทยขายดีมากๆ เพราะถูกใจวัยรุ่นรวมถึงผมด้วย555🤣🤣 ผมจะสรุปเป็น Generation นะครับ
นี่คือ Mazda 121 ที่เคยมีขายในไทยครับ น่ารักมากๆเลยครับ^^ ภาพจาก
Generation ที่ 1 (1996-2002)
ดีมิโอรุ่นแรก ใช้รหัสรถว่า DW การขายนอกประเทศญี่ปุ่นมักจะใช้ชื่อ มาสด้า 121 (ในช่วงนั้น มีมาสด้า 121 มาขายบ้างประปรายในประเทศไทย แต่ 121 รุ่นนั้น ไม่ได้มาจากดีมิโอ แต่มาจากรถอีกรุ่นหนึ่งในเครือมาสด้า มีชื่อจริงว่า ออโต้แซม เรวิว (Autozam Revue)) DW ถูกออกแบบให้เป็นรถแฮทช์แบ็กหลังคาสูงขนาดใหญ่ มีเครื่องยนต์ 2 ขนาดให้เลือก คือ 1300 กับ 1500 ซีซี
ขอบคุณภาพจาก
Generation ที่ 2 (2003-2007)
ดีมิโอรุ่นที่ 2 ใช้รหัสรถว่า DY การขายนอกประเทศมักจะใช้ชื่อ มาสด้า 2 ถือเป็นมาสด้า 2 รุ่นแรก แต่รุ่นนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากนัก เครื่องยนต์มีตั้งแต่ขนาด 1250 ซีซี ถึง 1600 ซีซี ดีมิโอรุ่นนี้ ในบางประเทศมีการทำรถเครื่องยนต์ไฮบริดด้วย (เครื่องยนต์ไฮบริด คือเครื่องยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ชนิดพิเศษช่วยในการขับเคลื่อนในบางสถานการณ์ ทำให้ประหยัดน้ำมันได้
ขอบคุณภาพจาก
Generation ที่ 3 (2007-2014)
ดีมิโอรุ่นที่ 3 หรือ มาสด้า 2 ใหม่ ใช้รหัสรถว่า DE มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีการผลิตรถซีดาน 4 ประตูด้วย (แต่ในช่วงแรกยังไม่เข้าประเทศไทย กำลังจะเข้าใน พ.ศ. 2552) รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง ภายใน 1 เดือนหลังการเปิดตัว สามารถทำยอดขายได้ถึง 15,000 คัน และในพ.ศ. 2551 ดีมิโอรุ่นที่ 3 นี้ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี ระดับโลก (World Car of the Year 2008) ประเภทรถยนต์แฮทช์แบ็ก ขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1500 ซีซี หลังจากนั้น ในต้นปี พ.ศ. 2553 ก็ได้มีการเปิดตัวรุ่นซีดานในประเทศไทย ซึ่งประสบความสำเร็จมากในวงกว้าง และได้มีการปรับโฉม (Minorchange) ในปี พ.ศ. 2554 โดยแยกออกเป็น 2 รุ่น คือ ตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตู ใช้ชื่อว่า มาสด้า 2 สปอร์ต (Mazda 2 Sports) และตัวถังซีดาน 4 ประตู ใช้ชื่อว่า มาสด้า 2 เอลิแกนซ์ (Mazda 2 Elegance)
*Mazda 2 คันสีเทาเป็นรถคันเเรกที่เเอดได้ขับเเละเรียนขับรถครั้งเเรก😁😁
*ส่วนคันสีเทา Machine Grey ที่ บังทะเบียนคือรถที่เเอดใช้ถาวรในปัจจุบันนั้นเอง^^ เเอดชอบสีนี้ มันสวยมากกๆ
Generation ที่ 4 (2015-ปัจจุบัน)
มาสด้า ดีมิโอ หรือ มาสด้า 2 รุ่นที่ 4 มีรหัสว่า DJ ได้ถูกเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนมกราคม 2558 ต่อจาก มาสด้า CX-5 และ มาสด้า 3 ภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส 2
ในปี 2559 มาสด้า 2 ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 (Thailand Car of The Year 2016) ประเภทรถอีโคคาร์ประเภทดีเซล มาสด้า 2 มีเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 1.3 ลิตร อัตราส่วนการอัด 12.0:1 กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ซึ่งมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 1.5 ลิตร อัตราส่วนการอัด 14.8:1 กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ซึ่งมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่องมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 100 กรัม/กม. ผ่านมาตรฐาน Euro 5 ทั้งคู่ และเป็นครั้งแรกของมาสด้าที่นำเครื่องยนต์ดีเซลมาใส่ในกลุ่มรถยนต์นั่งในต้นปี พ.ศ. 2560 มาสด้า 2 ได้มีการปรับอุปกรณ์ให้กับตัวรถโดยเพิ่มระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยเข้ามา ได้แก่ ระบบ i-Activesense และ ระบบ G-Victoring Control (GVC) อีกทั้งยังมีระะบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ (Cruise Control) และเกียร์ Paddle Shift ส่วนภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่เพิ่มคิ้วของโคมไฟหน้าด้วยกรอบโครเมียม ส่วนภายในมีการตกแต่งด้วยวัสดุใหม่ๆ เช่น เบาะผ้าสีดำหรือหนังแท้สีดำ แผงแดชบอร์ดเปียโนแบล็ค และมีการเดินตะเข็บที่แผงประตู แต่การตกแต่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นย่อย
*Mazda 2 คันสีเทาเป็นรถคันเเรกที่ผมได้ขับเเละเรียนขับรถ
*ส่วนคันสีเทา Machine Grey ที่ บังทะเบียนคือรถที่ผมใช้ในปัจจุบันนั้นเอง^^
ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 มาสด้า 2 ได้มีการปรับปรุงใหม่และเพิ่มอุปกรณ์ให้กับตัวรถโดยเพิ่มระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยเข้ามา ทั้ง เปลี่ยน ไฟหน้า, กันชนหน้า, ไฟท้าย, กันชนท้าย และ ล้ออัลลอย 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล) ดีไซน์ใหม่ เพิ่ม ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ, เครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay / Android Auto, กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และ เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง ส่วนภายในมีการตกแต่งด้วยวัสดุใหม่ๆ เช่น เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีเทา สลับหนังกลับ Grand Luxe Suede เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า สีน้ำตาล และ เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า สีน้ำเงิน ส่วนสีของตัวถังภายนอก ได้มีการเพิ่มสีมา 2 สี ได้แก่ เทานม Polymetal Grey และ ขาว Ceremic Metallic และอัพเกรด ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control PLUS
- Fun Fact😁😁(เเถมนะครับ)
Toyota Yaris หรือ ไซออน iA ได้มีทายาทคันใหม่มารับช่วงต่อแล้ว แต่หน้าตาอาจจะคุ้นเคยกันเสียหน่อย เพราะนี่คือ Mazda 2 ที่ผ่านการเปลี่ยนตรายี่ห้อ และแต่งหน้าทาปากมาเล็กน้อยนั่นเอง เบื้องต้นมีรุ่นย่อยให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น ส่วนขุมพลังมีหนึ่งเดียวกับ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จากข้อตกลงที่เคยทำกันเอาไว้ตั้งแต่ปี 2013 ความร่วมมือระหว่าง Toyota และ Mazda ระบุว่า Mazda จะผลิตรถยนต์ขนาดเล็กส่งให้ Toyota เอาไปจำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือ จึงเป็นผลทำให้ทั้งตัวถัง Sedan และ Hatchback ของ Mazda 2 กลายมาเป็น Yaris ทำตลาดในอเมริกาเหนือ
หากข้อมูลผิดประการใดขออภัยด้วยนะครับ🙏🙏
อย่าลืม กดไลค์เเละกดติดตาม Comment ให้เป็นกำลังใจด้วยนะครับ ขอโทษที่ไม่ได้เล่าประวัติรถมานานนะครับเพราะ ติดเรียนที่โรงเรียนนะครับ เเอดเรียน SAT หนักมาก (โหมดตั้งใจ^^) ขอให้ทุกคนโชคดีในยุคโควิดนะครับ อยู่บ้านหยุดเชื้อ เพื่อทุกคนนะครับ😊😊😘😘❤️❤️ #mazda2
ขอบคุณบ้างข้อมูลจาก
ด้วยนะครับ
โฆษณา