31 ก.ค. 2020 เวลา 17:57 • อสังหาริมทรัพย์
“คุ้มไหมกับการซื้อของราคาถูกจากการบังคับคดี”
หลายคนคงพอทราบว่าการบังคับคดีทางแพ่งจะมีการยึดทรัพย์จากลูกหนี้มาขายทอดตลาดโดยการประมูลซึ่งจัดโดยสำนักงานบังคับคดี
ส่วนใหญ่จะซื้อมาได้ในราคาถูกมาก
บางคนมีอาชีพซื้ออาคารพาณิชย์ ซื้อบ้าน ซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาดมาขายต่อเอากำไรเลยทีเดียว ซึ่งถ้าทำเป็นอาชีพก็คงชำนาญและยอมเสี่ยง
1
ความเสี่ยงที่ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดจะพบก็คือบุคคลที่อาศัยอยู่เดิมไม่ยอมออกไป
หากผู้ซื้อทรัพย์โดยตรงจากการขายทอดตลาดก็สามารถยื่นคำขอต่อศาลที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่ในเขตศาลให้ออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับให้บุคคลเหล่านั้นออกไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 334 (ซึ่งได้แต่บังคับคดีเพื่อขับไล่ หากต้องการเรียกค่าเสียหายด้วยผู้ซื้อทรัพย์ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่)
แต่หากเป็นผู้รับโอนต่อจากผู้ซื้อทรัพย์รายแรก (เช่นซื้อต่อ) ก็ต้องไปฟ้องขับไล่เป็นคดีใหม่ ซึ่งบุคคลที่อาศัยอยู่เดิมหากมิใช่บริวารของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อแสดงอำนาจพิเศษว่าตนมีสิทธิที่จะอยู่ต่อได้ ตามปวิพ.มาตรา 353(2) เช่นมีสัญญาเช่ากับลูกหนี้เดิม
1
เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 569 ได้วางหลักไว้ว่า "สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ย่อมไม่ระงับไปเพราะเหตุโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินซึ่งให้เช่า โดยผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนที่มีต่อผู้เช่าด้วย"
ดังนั้นหากซื้อเพื่ออยู่เองก็ต้องทนให้ครบสัญญาเช่าก่อน
นอกจากนี้อาจมีกรณีที่ทรัพย์สินที่ซื้อจากการขายทอดตลาดมาแล้วถูกเพิกถอนภายหลังได้
ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 535/2551
“ภายหลังจากโจทก์ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์พิพาทมาจากการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดี โจทก์ได้ยื่นฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีนี้ ส่วนจำเลยได้ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ต่อมาระหว่างคดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดแล้วดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ คดีถึงที่สุด
ผลของคำสั่งเท่ากับว่าไม่ได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์ โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท การโต้แย้งสิทธิของโจทก์จึงสิ้นสุดลง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย”
ผู้เขียนเองเคยเข้าร่วมบังคับคดีกับคดีของรุ่นพี่ พบว่าฟ้องขับไล่กันมาร่วม 10 ปีแล้ว
1
โดยโจทก์คือผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด ส่วนจำเลยคือเจ้าของเดิมที่เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกยึดทรัพย์มาขายทอดตลาด
ฟ้องตั้งแต่ศาลชั้นต้นเมื่อปี 2550 จนจบที่ชั้นฎีกาเมื่อปี 2561 ตอนนี้อยู่ในช่วงบังคับคดี บังคับกันหลายรอบแล้วไม่ยอมย้ายออก มีการไกล่เกลี่ยขอซื้อคืนกันอยู่ เงินจมอยู่หลายสิบล้าน
ดังนั้นถ้าไม่ใช่นักซื้อมืออาชีพก็คิดหน้าคิดหลังดี ๆ ของถูกและดีไม่มีในโลก
#สนุกกับกฎหมายวันละนิดชีวิตง่ายขึ้น
#ทนายน้อยหน่า
1 สิงหาคม 2563
ขอบคุณภาพจาก pixabay.com
เป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยการกดไลค์กดแชร์ด้วยค่ะ
โฆษณา