ป ล า ต ะ เ พี ย น ม า แ ล้ ว จ้ า 🌿🌿
คิดอยู่นานว่าจะเขียนเกี่ยวกับปลาตะเพียนดีมั๊ย เพราะตัวเองไม่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยง
แต่คิดอีกทีเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเผื่อมีประโยชน์กับคนอื่น และเราทำไม่สำเร็จไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะไม่สำเร็จซะที่ไหน คนเลี้ยงแล้วได้กำไรก็มีเยอะแยะ
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/510341/
ส่วนตัวชอบกินปลาตะเพียนนะ คิดว่ารสชาติของมันอร่อยเลยแหละ เนื้อหวาน มีความมันในตัว แต่ติดที่ก้างมันเยอะมาก เลยเลือกเฉพาะตัวใหญ่ ๆ และกินแค่ช่วงหน้าท้อง แต่ท่อนหางนี่ยิ่งไม่ชอบ ก้างเยอะ
ปลาตะเพียนที่พูดถึงนี้ คือ ปลาตะเพียนขาวค่ะ แต่ทั่วไปจะเรียกสั้น ๆ ว่าปลาตะเพียน ซึ่งเป็นปลากินพืชที่เลี้ยงง่าย อยู่คู่คนไทยมาช้านาน เอาไปปล่อย ๆไว้ก็ออกลูกเยอะแยะ
แต่ที่บอกว่าไม่ประสบความสำเร็จเพราะเราเน้นเพาะลูกพันธุ์ขายเป็นหลัก พอจับไม่หมด ที่เหลือก็เลยลองเลี้ยงเป็นปลาเนื้อดู แต่เพราะได้ข้อมูลราคาขายมาผิด ประกอบกับไม่ได้ดูแลจริงจัง เลยเลี้ยงแล้วขาดทุน
ลูกพันธุ์ปลาตะเพียนไซส์ 2-3 นิ้ว
ปัญหาที่เจอ คือ เป็นปลาที่ขาดอากาศง่ายมาก ถ้าเกิดเลี้ยงไว้แน่น ขาดอากาศทันที
เป็นปลาที่ต้องการออกซิเจนสูง บ่อที่เหมาะจึงควรมีขนาดใหญ่ ขนาด 1 ไร่ จะลงลูกปลาที่ประมาณ 5,000 ตัว
ขี้ตกใจและจอมกระโดด กระโดดได้สูงด้วยค่ะ พอจับมาใส่กระชัง กระโดดไม่หยุดไม่หย่อน ต้องคลุมกระชังไว้
จับใส่บ่อซีเมนต์ก็ต้องบ่อสูง ๆ และเติมน้ำนิดเดียว ไม่งั้นกระโดดออกมานอนเป็นปลาตะเพียนแดดเดียว และต้องมั่นใจว่าระบบออกซิเจนจะไม่ดับ ไม่งั้นก็ตายยกบ่อ
เวลาจับแห้ง คือ วิดน้ำจนแห้งแล้วค่อยจับก็ตายง่ายเพราะขาดอากาศ ถ้าบ่อเป็นโคลนก็จะกระโดดจนโคลนเข้าเหงือก ขาดอากาศตาย เผลอ ๆ ดีดโคลนเข้าตาคนจับปลาอีก การจับที่ปลอดภัย คือ ต้องลากอวน แต่มันลากได้ไม่หมด
ขนาดที่ขายได้ก็ต้องตัวใหญ่ราว ๆ 8 ขีดขึ้น เพราะปลาตัวเล็กขายยาก ราคาต่ำมาก เพราะมันมีก้างเยอะ คนไม่นิยม
ราคาที่แม่ค้าแถวนี้รับซื้อไซส์ 3-4ขีด/ตัว อยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาท ตัว 8 ขีดขึ้นไปกิโลกรัมละ 40-45 บาท ราคานี้ต้องไปส่งเองด้วยนะคะ เทียบกับปลาอื่น ๆ ถือว่าน้อยมาก ส่วนราคาในท้องตลาดอยู่ที่ประมาณ 60 บาท/กก. ค่ะ
ระยะเวลาเลี้ยงประมาณ 6 เดือนจะได้ไซส์ 3-4 ขีด ต้องเลี้ยงประมาณ 8 เดือนขึ้นไปถึงจะได้ตัวใหญ่ เป็นที่ต้องการของตลาด
ด้วยความที่มีลูกพันธุ์อยู่ในมือเลยเลี้ยงโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้อาหารเม็ดสำหรับปลาทั่วไปซึ่งเป็นต้นทุนที่ราคาแพง
คิดว่าการเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ต้องควบคุมต้นทุนให้ดี เพราะราคาขายต่ำ ระยะเวลาในการเลี้ยงนาน เหมาะกับการเลี้ยงรวม ๆ กับปลากินพืชอื่น ๆ
การให้อาหารลดต้นทุนแทนการใช้อาหารสำเร็จรูปจะช่วยลดต้นทุนได้มาก
เลี้ยงแล้วก็ไม่ต้องไม่ยุ่งกับมัน ส่วนเราไปย้ายมันเพราะความจำเป็นเรื่องบ่อ เลยพากันตายไปส่วนหนึ่งด้วย
แต่การเลี้ยงไว้กินเองในปริมาณน้อย ๆ ปล่อยไว้ในบ่อให้หากินเองตามธรรมชาติถือว่าเป็นปลาที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ
ตลาดแปรรูปของปลาตะเพียนส่วนใหญ่จะเป็นปลาส้มค่ะ แต่เมนูที่เราชอบ คือ ต้มส้มปลาตะเพียนค่ะ ใช้ปลาตะเพียนสด ๆ ต้มกับน้ำส้มโตนดหรือมะขามสด ความเปรี้ยวบวกความหวาน ความมันของเนื้อปลา อร่อยลงตัวมาก ๆ ค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.wongnai.com/reviews/543d732beb9c48aeb166a6a8517e9259
หวังว่าพอจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่คิดจะเลี้ยงปลาอยู่บ้างนะคะ 🌿🌿
ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจกันค่ะ ❤️❤️
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
