6 ส.ค. 2020 เวลา 09:17 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ความเป็นไปได้ของการย้อนเวลากับบ่วงแห่งเหตุผล
นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่ากฎที่พื้นฐานที่สุดในเอกภพ คือ กฎฟิสิกส์ ซึ่งไม่มีปรากฏการณ์ใดในเอกภพจะล่วงละเมิดกฎฟิสิกส์ไปได้ แต่คำถามคือ มีอะไรเป็นกฎอะไรที่พื้นฐานไปกว่ากฎฟิสิกส์ ซึ่งกฎฟิสิกส์ไม่สามารถล่วงละเมิดได้หรือไม่?
ในยุคของฟิสิกส์แบบคลาสสิค
นักฟิสิกส์เชื่อว่าความเร็วของวัตถุจะมีค่าเท่าใดก็ได้ ไม่มีขีดจำกัด จนกระทั่งเมื่อร้อยปีก่อน อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษทำให้นักฟิสิกส์รู้ว่าความเร็วแสงเป็นกฎพื้นฐานที่ไม่มีวัตถุใดๆ หรือ การส่งข้อมูลใดๆ จะเร็วกว่าแสงไปได้
แล้วทำไมนักฟิสิกส์เชื่อว่ากฎดังกล่าวเป็นจริง?
ปัจจุบัน นักฟิสิกส์ไม่สามารถเร่งความเร็วอนุภาคให้เฉียดใกล้ความเร็วแสงได้ ส่วนปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆที่มีความเร็งสูงมากๆก็ยังไม่เท่ากับความเร็วแสงอยู่ดี แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่ทำให้นักฟิสิกส์เชื่อมั่นในกำแพงความเร็วแสง เพราะการที่เราไม่เคยเห็นวัตถุหรือการส่งข้อมูลที่เร็วกว่าแสง ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริง
คำตอบคือ หากมีการส่งสัญญาณหรือข้อมูลด้วยความเร็วมากกว่าแสง มันจะละเมิดหลักแห่งเหตุผล (Causality) กล่าวคือ สัญญาณที่เร็วกว่าแสงจะทำให้ผู้สังเกตในเอกภพจำนวนหนึ่งสังเกตเห็นว่า ผล(effect) เกิดขึ้นก่อนเหตุ (Cause)!
ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อเราโทรหาเพื่อนสักคนเพื่อชวนเที่ยว พอกดโทรออกไปได้สักพัก เพื่อนจึงจะรับสาย แต่ถ้าการส่งสัญญาณเร็วกว่าแสงเกิดขึ้นได้ จะมีผู้สังเกตจำนวนหนึ่งในเอกภพเห็นว่าเพื่อนของเรารับสายโทรศัพท์ก่อน แล้วเราจึงค่อยโทรหา! ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ละเมิดหลักแห่งเหตุผลทำให้นักฟิสิกส์เชื่อว่ามันเกิดขึ้นไม่ได้
การเดินทางเร็วกว่าแสงทำให้บางคนสังเกตเห็นผลเกิดก่อนเหตุ
สมมติว่าเอกภพถือกำเนิดขึ้นมาในรูปแบบอื่นที่แตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ กฎฟิสิกส์ในเอกภพนั้นอาจเปลี่ยนแปลงไปจากที่เรารู้จัก แต่ความสมเผตุสมผลเชิงตรรกะควรเป็นสิ่งพื้นฐานที่เหมือนกันในทุกๆเอกภพ
ดังนั้นเมื่อเราพิจารณาความเป็นไปได้ในเรื่องต่างๆ เราอาจต้องคิดว่าสิ่งที่เราสนใจนั้นเป็นไปไม่ได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์ (เงินไม่พอ) หรือ เป็นไปไม่ได้ในเชิงวิศวกรรม (สร้างไม่ได้) หรือเป็นไปไม่ได้ทางฟิสิกส์ (ละเมิดกฎฟิสิกส์) หรือ เป็นไปไม่ได้เพราะไม่สมเหตุสมผล (ละเมิดตรรกะ)
เมื่อนักฟิสิกส์พิจารณาว่าการย้อนเวลาเป็นไปได้หรือไม่ เราอาจต้องเริ่มจากตั้งคำถามก่อนว่ามันก่อให้เกิดความไม่สมเหตุสมผลหรือไม่ (เพราะถ้ามันไม่สมเหตุสมผลเชิงตรรกะจะได้ไม่ต้องคิดอะไรต่อให้เสียเวลา)
1
หนึ่งในความย้อนแย้งของการท่องเวลาเกิดขึ้น เพราะการท่องเวลาอาจก่อให้เกิดบ่วงแห่งเหตุผล (causal loop)
สมมติว่า นักเขียนไส้แห้งคนหนึ่ง(ผม) ไปพบกับไทม์แมชชีนเข้า แล้วจึงเดินทางข้ามเวลาไปยังอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ระหว่างเดินสำรวจโลกอนาคตก็เห็นว่าหนังสือในชื่อของตนขึ้นแท่นหนังสือขายดี
เนื่องจากนักเขียนคนนั้นยังไม่เคยเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น จึงลงทุนซื้อมาเล่มหนึ่ง แล้วเดินทางกลับมายังโลกปัจจุบันเพื่อนำมาอ่าน พออ่านจบก็ปลื้มใจ ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนด้วยสำนวนและเนื้อหายอดเยี่ยม เลยคัดลอกเนื้อหาทั้งดุ้น รวมทั้งรูปเล่ม ส่งไปยังโรงพิมพ์เพื่อตีพิมพ์ ผ่านไป 10 ปีมันก็กลายเป็นหนังสือขายดีจริงๆ
ลูกบิลเลียดที่ถูกชนจนพุ่งกระเด็นเข้าไปในไทม์แมชชีน แล้วย้อนอดีตกลับมาชนตัวเอง จนพุ่งเข้าไปในไทม์แมชชีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
คำถามคือ ใครเป็นคิดเนื้อหาในหนังสือ?
นักเขียนผู้นี้ไม่ได้คิด
โรงพิมพ์ก็ไม่ได้คิด แล้วใครเป็นคนคิดเนื้อหาขึ้นมา
ตัวอย่างสั้นๆที่ง่ายกว่านั้นคือ ถ้าคุณย้อนกลับไปในยุคของไอแซค นิวตัน แล้วไปสอนทฤษฎีแรงโน้มถ่วงให้กับนิวตัน
สุดท้ายแล้วใครเป็นคนคิดทฤษฎีแรงโน้มถ่วง?
ปัญหาลักษณะนี้เรียกว่า บ่วงแห่งเหตุผล ที่เหตุและผลวนมาบรรจบกันเป็นงูกินหาง ไม่ต่างอะไรกับลูกบิลเลียดที่ถูกชนจนพุ่งกระเด็นเข้าไปในไทม์แมชชีน แล้วย้อนอดีตกลับมาชนตัวเอง จนพุ่งเข้าไปในไทม์แมชชีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในมุมมองปกติ
อดีต ส่งผลให้เกิด ปัจจุบัน
ส่วนปัจจุบัน ส่งผลให้เกิด อนาคต
ดังนั้น อนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นจึงยังไม่ถูกกำหนดไว้
แต่ถ้า บ่วงแห่งเหตุผล (causal loop) เกิดขึ้นจริง
ย่อมกับว่า อดีต ได้รับผลกระทบจากอนาคต(ที่ย้อนเวลากลับมา) จึงอาจมองได้ว่าอนาคตเป็นสิ่งที่มีความชัดเจนแน่นอนแล้ว จึงจะสามารถย้อนกลับมาส่งผลต่ออดีตได้
ซึ่งทำให้เกิดคำถามเชิงปรัชญาว่า อนาคตถูกกำหนดไว้แล้วจริงหรือ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ชัดเจนสุดๆของบ่วงแห่งเหตุผล คือ การที่หนังสือถูกเรียบเรียงโดยไม่มีคนเขียนนั้นเป็นไปได้หรือไม่ ดูเหมือนมันจะขัดแย้งกับหลักแห่งเหตุผล จนไม่ต้องขบคิดอะไรต่อ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น การย้อนเวลาย่อมเป็นไปไม่ได้
ทว่านักคิดกลุ่มหนึ่งมองว่ามันไม่ได้ขัดแย้งกับหลักแห่งเหตุผลหรือตรรกะใดๆ การย้อนอดีตกลับมาเติมเต็มผลลัพธ์ที่ควรจะเกิดได้อย่างลงตัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแค่ขัดกับสามัญสำนึกของเรา ที่ว่าเนื้อหาในหนังสือไม่สามารถเกิดขึ้นเองลอยๆได้เท่านั้น (นักคิดกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งยังเชื่อการเดินทางย้อนเวลาไม่จำเป็นต้องก่อให้เกิดบ่วงแห่งเหตุผลเสมอไปด้วย)
แนวคิดเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนปัญหาที่มีการถกเถียงกันอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ปัญหาที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งของการย้อนเวลาคือ Grandfather paradox ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังในอนาคตครับ
1
โฆษณา