4 ส.ค. 2020 เวลา 23:03 • ประวัติศาสตร์
ตอนผีน้อยเป็นเด็ก
ผีน้อยมีชีวิตที่ซุกซน โลดโผน พูดจาเก่ง และอยู่กับย่ามากกว่าพ่อแม่
เติบโตมากับการฟังนิทานก่อนเกือบทุกคืน
ตะเกียง ฝ้าไม่ไผ่ หีบผ้า ผ้าห่ม หมอน จุกมุ้ง (มุ้งขาดๆที่ต้องจับมัดเป็นจุก) กลิ่นไอเสื้อชุดม้งที่ย่าสะสมตั้งแต่สมัยสาวๆ อยู่ปลายเตียง
ก่อนที่จะได้ฟังนิทานเราต้องแย่งกันอาบน้ำ จับจองพื้นที่วีไอพี (พื้นที่ได้นอนติดกับย่า)
เพราะเป็นครอบครัวที่มีพี่น้องเยอะ ก็สนุกดี
ย่า ต้องสลับกันเล่านิทานเรื่องโปรดของหลานๆแต่ละคน วนจนกว่าจะครบ บางครั้งเราก็หลับก่อนที่ย่าจะเล่าจบ บางครั้งย่าก็หลับก่อน จนต้องปลูกย่าให้มาเล่าต่อ
ย่าเล่าไปหลับไป เหมือนคนละเมอเราก็แอบหัวเราะย่า คิคิคิ และหลับตามกันไป
ไม่น่าเชื่อเลยว่าความสุข ความอบอุ่นในวัยเด็กมันยังคงตราตรึงในใจ
และคิดถึงตลอดเสมอมา
ภาพจากจินตนาการของ4พี่น้อง ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นไม้ในกระถาง
ภาพโดยน้องโมโม่
เมื่อผีน้อยโตเป็นสาว
ผีน้อยกลับใช้เวลาอยู่กับละครช่อง3 ช่อง7 มากกว่า ฟังย่าเล่านิทาน เร่งรีบอาบน้ำ มาจองรีโมททีวี คนถือรีโมทคือผู้คุมรายการทีวีในวันนั้น
ผีน้อยจำห้องนอนเล็กๆแคบๆที่มีหีบเรียงรายปลายเตียงแทบจะไม่ได้แล้ว
ผีน้อย เบื่อหน่ายที่จะต้องมานั่งแปลละครให้ย่าฟัง เพราะย่าไม่เข้าใจภาษาไทย
ผีน้อย หงุดหงิดที่ย่าถามบ่อย ถามโน่นถามนี่ เสียงดัง
ผีน้อยลืมไปว่า ผีน้อยเองก็เป็นเด็กช่างถาม และย่าไม่เบื่อที่จะตอบเลย
เวลาเปลี่ยน สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความรักของย่าไม่เคยเปลี่ยน
เสียใจที่ยังทำหน้าที่ของหลานไม่ได้ดีที่สุด
วันนี้ย่าอยู่บนฟ้า ย่าคงรอฟังนิทานจากผีน้อยอยู่
วันหนึ่งผีน้อยจะเล่านิทานให้ย่าฟังนะ แม้จะจำได้บ้างไม่ได้บ้าง
ผีน้อยในฤดูฝน
ฝากไว้ในมือไลท์แชร์ และติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ
โฆษณา