Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Thinker Man
•
ติดตาม
5 ส.ค. 2020 เวลา 16:46 • ประวัติศาสตร์
ย้อนรอยเหตุเรือสินค้าระเบิดเขย่าขวัญเมืองบอมเบย์ (มุมไบ) เมื่อ 70 ปีก่อน!!! จากมุมไบในวันนั้นสู่เบรุตในวันนี้
กลายเป็นข่าวดังข้ามโลกในชั่วพริบตา เมื่ออยู่ๆก็เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงที่ท่าเรือเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งคาดการณ์ว่ามีต้นเหตุมากจากการจุดระเบิดสารแอมโมเนียมไนเตรทในโกดังที่มีน้ำหนักถึง 2,750 ตัน ในวันที่ 4 สิงหาคม 2563 เวลา 18.00 น. (ตรงกับเวลาไทย 22.00 น.) ทำให้พื้นที่โดยรอบรัศมีกว่า 10 กม. ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง โดยล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตที่รายงานแล้วกว่า 80 คน และมียอดผู้บาดเจ็บกว่า 4,000 คน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวทั่วโลกต่างตั้งข้อสังเกตต่อรัฐบาลเลบานอนว่าทำไมถึงอนุญาติให้เก็บวัตถุอันตรายอย่างแอมโมเนียมไนเตรท ไว้มากขนาดนั้นในเขตเศรษฐกิจและชุมชนหนาแน่นอย่างท่าเรือเบรุต ซึ่งทางรัฐบาลเลบานอนได้ออกมาชี้แจ้งว่าวัตถุระเบิดดังกล่าวเก็บไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.2016 หรือกว่าสีปีแล้ว แต่ด้วยความประมาทในการดูแลรักษาจึงทำให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดอย่างที่เป็นข่าว
ภาพแสดงก่อนและหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณโกดังเก็บของท่าเรือเบรุต, เลบานอน เครดิตภาพจาก สำนักข่าวอัลจาซีรา (Aljazeera)
สื่อท้องถิ่นหลายสำนักได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เหตุระเบิดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมเพื่อสร้างสถานการณ์ของ “กลุ่มฮิซบอลเลาะห์” (กลุ่มติดอาวุธของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในเลบานอน) เพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ดูเหมือนว่าทางกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะปฏิเสธการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้อย่าสิ้นเชิง รวมทั้งหน่วยข่าวกรองของชาติที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของเลบานอนมายาวนาน อย่างอิสราเอลก็ออกมาแถลงการณ์ว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเหตุระเบิดนี้
แม้เหตุระเบิดแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ในอดีตเมื่อกว่า 70 ปีก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก็มีเหตุระเบิดที่คล้ายคลึงกันแบบนี้เกิดขึ้นที่เมืองบอมเบย์ (มุมไบ) ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 1,300 คนและมีผู้บาดเจ็บกว่า 3,000 คน นับว่าสาหัสยิ่งกว่าเหตุการณ์ที่เบรุตซะอีก!!!
แสดงภาพรัศมีการทำลายล้างของระเบิดรอบๆจุดเกิดเหตุ จุดสีแดงเข้มคือจุดที่เกิดระเบิด, จุดสีแดงคือเกิดเปลวไฟเผาผลาญ ส่วนจุดสีชมพูที่รัศมีครอบคลุมกว่า 10 กม. คือบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นกระแทก เครดิตภาพจาก สำนักข่าว CNN
ความประมาทเป็นเหตุสังเกตได้: เหตุระเบิดเขย่าขวัญบอมเบย์เมื่อกว่า 70 ปีก่อน
เช้าวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1944 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ระเบิดจากเรือบรรทุกสินค้า ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกกันมา เมื่อเรือสินค้า Fort Stikine ขนาด 4,000 ตัน สัญชาติแคนาดาแล่นมาเทียบท่าที่เมืองบอย์เบย์ ในอาณานิคมอินเดียของจักรวรรดิอังกฤษ หรือ มุมไบ ในปัจจุบัน เพื่อขนส่งยุทธปัจจัยและสินค้าจำเป็นจากอาณานิคมกลับไปอังกฤษใช้ทำสงครามในภาคพื้นยุโรป
เรือสินค้า Fort Stikine ที่บรรทุกระเบิด TNT กว่า 300 ตันพร้อมเชื้อเพลิงที่ปะทุได้ทุกเมื่อ
สินค้าที่เรือบรรทุกกลับไปด้วยมีทั้งฝ้ายดิบ น้ำมัน เหล็กแปรรูป เครื่องบินรบ กระสุน ทองคำแท่งกว่า 25 กก. และสินค้าอื่นๆ รวมถึงวัตถุระเบิดอย่าง trinitrotoluene หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ TNT กว่า 300 ตันรวมอยู่ในคลังสินค้าขนส่งด้วย อย่างไรก็ตามความผิดพลาดร้ายแรงก็เกิดขึ้นเมื่อกัปตันเรือสั่งให้โหลดฝ้ายดิบไว้ใต้วัตถุระเบิด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่ควรทำอย่างยิ่งในยามปกติ เพราะฝ้ายดิบเป็นเชื้อไฟที่ดีมาก หากอยู่ใกล้วัตถุระเบิดอาจก่ออันตรายที่คาดไม่ถึง !!
การโหลดฝ้ายดิบ (สีเขียว)ไว้ใต้วัตถุระเบิดอย่าง TNT (สีเหลือง) และความชะล่าใจของพนักงานดับเพลิงนำไปสู่เหตุระเบิดอันน่าเศร้าในท่าเรือบอมเบย์ อ้างอิงข้อมูลจาก https://blog.nationalarchives.gov.uk/anatomy-disaster/
เหตุเพลิงไหม้ที่คุมไม่อยู่นำไปสู่การระเบิดอย่างรุนแรง!!!
ในช่วงบ่ายสองของวันที่ 4 เมษายน ขณะโหลดสินค้าขึ้นเรือ เจ้าหน้าที่บนเรือแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริเวณชั้นเก็บฝ้ายดิบที่อยู่ใต้ขั้นเก็บระเบิด แทนที่พวกเขาจะรีบขนวัตถุระเบิดออกไปก่อนแต่กลับปั๊มน้ำเข้าไปที่ชั้นเก็บฝ้ายเพื่อเร่งคุมเพลิง แต่จากความชะล่าใจและประมาทของพนักงานดับเพลิงที่คิดว่าคุมเพลิงไว้ได้ ทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในเวลา 15:50 เมื่ออยู่ก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงบนเรือ Fort Stikine แรงระเบิดฉีกชิ้นส่วนเรือและสินค้ากระจัดจายเป็นพื้นที่รัศมีไกลกว่า 12 กม. รอบจุดระเบิด
วัตถุระเบิดอย่าง TNT กว่า 300 ตันเกิดระเบิดขึ้นอย่างกะทันหันส่งผลให้พื้นที่โดยรอบรัศมีกว่า 800 เมตรของเรือ Fort Stikine เสียหายอย่างสิ้นเชิง อ้างอิงข้อมูลจาก https://blog.nationalarchives.gov.uk/anatomy-disaster/
การระเบิดอย่างรุนแรงครั้งนั้นสามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึง 1,500 กม. จากจุดระเบิด แรงระเบิดคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 500 คนทันทีรอบจุดระเบิด อีกทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 5,000 คน เรือที่จอดอยู่ในท่าเรือกว่าสิบสองลำในขณะนั้นเสียหายอย่างสิ้นเชิง และคลื่นกระแทกจากระเบิดยังทำให้บ้านเรือนและพื้นที่สลัมที่อยู่รอบๆท่าเรือราบเป็นหน้ากลองทันทีในรัศมีกว่า 1 กม. หลังเหตุระเบิดมีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 50,000 คน
youtube.com
Bombay Dock Disaster World War II
กว่าข่าวการระเบิดจะแจ้งไปทั่วโลก ก็หลังจากเหตุระเบิดเกิดแล้วกว่าสองสัปดาห์เนื่องจากทางอังกฤษต้องการปกปิดข่าวสารเป็นความลับ เพราะอยู่ในช่วงสงครามข่าวสารจึงถูกปกปิด แม้สื่อหลายสำนักจะตีข่าวว่าเหตุระเบิดนี้เกิดจากการก่อวินาศกรรมจากคู่สงครามของอังกฤษในขณะนั้นอย่างญึ่ปุ่น แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้
จากการสืบสวนในภายหลังเหตุการณ์ไม่นาน
ทางการอังกฤษก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า จนท. พานิชย์นาวี ได้เตือนกัปตันเรือสินค้าแล้วถึงความเป็นไปได้ในการบรรทุกสินค้าอันตรายแบบนั้นขึ้นไปพร้อมกัน จะทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝัน แต่ก็ดูเหมือนจะสายเกินไปที่จะแก้ไข เมื่อความประมาทเลินเล่อของลูกเรือและกัปตันที่ไม่ระมัดระวังมากพอนำไปสู่เหตุร้ายที่ไม่คาดฝัน
จากการสืบสวนปูมบันทึกการเดินเรือของเรือ Fort Stikine ในภายหลังทำให้นักประวัติศาสตร์คาดว่าสาเหตุจริงๆน่าจะเกิดจากความประมาทของผู้การเรือและลำดับการจัดเรียงสินค้าที่ผิดปกติ ลูกเรือไม่แจ้งสัญญาณธงแดงว่าเป็นเรือขนส่งอาวุธและวัตถุอันตรายตามกฎหมายพานิชย์นาวีสากล รวมถึงความประมาทของเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงทำให้เกิดโศกนาฎกรรมแบบนี้เกิดขึ้น
จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีการค้นพบชิ้นส่วนและสินค้าจากเหตุระเบิดครั้งนั้นอยู่เรื่อยๆ บริเวณรอบๆท่าเรือมุมไบในปัจจุบัน ที่น่าทึ่งที่สุดคือมีการค้นพบทองคำแท่งจากเรือ Fort Stikine ในปี ค.ศ. 2011 อีกด้วยก่อนที่จะมีการนำส่งคืนรัฐบาลอังกฤษในท้ายที่สุด ทุกวันนี้หากใครไปเยือนเมืองมุมไบ ก็ยังคงมีอนุสรณ์ที่ย้ำเตือนถึงเหตุระเบิดในครั้งนั้นที่หน้าสถานีดับเพลิงมุมไบ จนถุงทุกวันนี้
" ความประมาทมักมีค่าค่าใช้จ่ายที่แพงเกินเยี่ยวยาเสมอ " ใช้ชีวิตอย่างมีสติกันนะครับเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องน่าเศร้าเหมือนที่เกิดในบอมเบย์และเบรุต
#PrayForLabanon
อ้างอิงข้อมูลจาก
[1]
https://www.history.com/this-day-in-history/explosion-on-cargo-ship-rocks-bombay-india
[2]
https://en.wikipedia.org/wiki/1944_Bombay_explosion
[3]
https://scroll.in/article/661674/the-day-it-rained-gold-and-death-in-bombay-rare-footage-of-the-1944-dock-explosion
[4]
https://blog.nationalarchives.gov.uk/anatomy-disaster/
[5]
https://www.facebook.com/reporterjourney/posts/1511634405675546?__xts__%5B0%5D=68.ARASFGRbJSak9ACd7WxeSDpF8LZKc8WykkRXGQYOkSqjyKwADck-XloQtda2vG0oDc5KjkTSidNGQBkoblJdjkhEIZgcLLCRzTuZ8pqa8lPI_VoelO_m0MH2wWQwaW3kBrD961AAHmvYLTFPmXKrcZ6ObH0YbLI_CF3XujVWjw3mLxRTxZ1rAjm_n1Psoc_gMmJomIB1j060iMFH1_Z7vxE74yN2JyhelqkjgxOsQZNbGeDHAs_PFWphF6LpVvoIx6Hq7ta6kpC4aCoEouiLwRHwkHfj3D5daLK9VOzvY82rL02HnYzlyy86-i0WbR_iZvH76Mq_jsgH-IrYqN8Kx3NyNA&__tn__=-R
3 บันทึก
3
1
3
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย