5 ส.ค. 2020 เวลา 23:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เอาข่าวมาฝากค่าาา ความเคลื่อนไหวในไทยเกี่ยวกับตลาดบิตคอยน์
ทรีนีตี้ บุกตลาดบลูโอเชียน ผนึก"บิทคับ"ชวนลูกค้าแบ่งพอร์ตเทรดบิตคอยน์
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -5 ส.ค. 63 15:39 น.
บล.ทรีนีตี้ ผนึก "บิทคับ" เปิดโลกการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล แนะนักลงทุนกระจายความเสี่ยงของพอร์ตมายังสินทรัพย์ทางเลือก เช่น บิตคอยน์ หรืออื่นๆ ประมาณ 1-5% ของพอร์ต
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า การลงทุน ในช่วงปี 2563 เต็มไปด้วยความผันผวน จากการระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ขณะที่สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ส่อเค้ารุนแรงขึ้น และการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางที่มากมายมหาศาลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
จากปัจจัยดังกล่าว นำมาสู่การผันผวนของราคาสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก และความผันผวนจะยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ทรีนีตี้ ตระหนักถึงความสำคัญที่นักลงทุนจะต้องบริหารสินทรัพย์ โดยการจัดสัดส่วนการลงทุน (Asset Allocation)ให้สอดคล้องกับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก
บล.ทรีนีตี้ แนะนำนักลงทุน แบ่งสัดส่วนการลงทุนดังนี้ คือ 1. ลงทุนในตลาดหุ้นไทย สัดส่วน 20% เพราะตลาดหุ้นไทยมีความโดดเด่นเรื่องผลตอบแทนจากเงินปันผล 2. ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ สัดส่วน 15% โดยเน้นน้ำหนักลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอาหาร 3. ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ สัดส่วน 30% เพื่อที่จะรับกระแสเงินสดจากดอกเบี้ยสม่ำเสมอ
4.ลงทุนในทองคำ สัดส่วน 5-10% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในสหรัฐฯ ที่ติดลบ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ 5. ถือเงินสด 25% เพื่อรอจังหวะซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่มีราคาถูก และ 6. ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment) เช่น Bitcoin หรืออื่นๆ ในสัดส่วน 1-5%
"ในปี 2020 การลงทุนใน Bitcoin ให้ผลตอบแทนกว่า 53% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ส่วนการลงทุนทองคำในรูปเงินบาท ให้ผลตอบแทนกว่า 32% หุ้น NASDAQ ที่ส่วนใหญ่เป็น กลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทน 19% หุ้นจีน ให้ผลตอบแทน 7% ขณะที่หุ้นไทยให้ผลตอบแทนติดลบ 14.7% และ Thai REIT ให้ผลตอบแทนติดลบมากถึง 20.4%"
ทรีนีตี้มองว่า การจัดสรรเงินลงทุนใน Cryptocurrency ในระดับ 1-5% เป็นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน เนื่องจาก Cryptocurrency มีความสัมพันธ์ที่มีสหพัทธ์หรือ Correlation กับราคาสินทรัพย์อื่นๆ ในระดับต่ำ และปัจจุบันความผันผวนของสินทรัพย์ของ Cryptocurrency ได้ลดลงมาในระดับ 50% ซึ่งพอรับได้ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ทางเลือก เมื่อเปรียบเทียบกับความผันผวนในอดีตที่ระดับ 80-90%
ทรีนีตี้ เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์มากว่า 20 ปี ขณะที่ Bitkub เป็นบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ในเรื่องของ Cryptocurrency และเป็นศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ Cryptocurrency ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดของประเทศไทย
"ก่อนจะมาจับมือกับ บิทคับ เราศึกษาเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล เรื่องบล็อกเชนมาประมาณ 2 ปีแล้ว และมองว่านี่คือการเปิดน่านน้ำใหม่สำหรับเรา" ดร.วิศิษฐ์ กล่าว
ทรีนีตี้ จึงมีความเชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะสร้างประโยชน์ให้แก่นักลงทุนได้มีแนวทางการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญทั้งสายหลัก (หุ้น ตราสารหนี้) และสายทางเลือก (Cryptocurrency)
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ มุ่งมั่นส่งมอบผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนค่อนข้างสูง ดังนั้น การกระจายความเสี่ยงในการลงทุนอย่างเหมาะสมจึงมีความสำคัญมาก
บล.ทรีนีตี้ จำกัด จึงได้ร่วมมือกับบริษัทบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง พัฒนาความรู้ การลงทุนใน Cryptocurrency ที่ถูกต้องให้กับนักลงทุน โดยอาศัยบทวิจัยและบทวิเคราะห์ทางเชิงปริมาณเพื่อเป็นแนวทางให้กับนักลงทุนในการจัดการสินทรัพย์ประเภทการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment)
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดของการจัดการสินทรัพย์ โดยเชิญชวนลูกค้าและนักลงทุน ให้กระจายความเสี่ยง มาลงทุนใน Cryptocurrency ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เป็นเทรนด์การลงทุนสมัยใหม่ ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
สำหรับความร่วมมือธุรกิจในครั้งนี้ บล.ทรีนีตี้ จำกัด จะเป็นผู้แนะนำลูกค้า เพื่อเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บิทคับ ออนไลน์ รวมถึงมีแผนงานจะจัดกิจกรรมร่วมกันในการให้ความรู้เกี่ยวกับ สินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency)ให้แก่ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไป เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกิดขึ้น ไม่นาน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่มีข้อมูล และความรู้ในเรื่องนี้มากนัก
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เว็บเทรดบิทคับ เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 90-95% และมีฐานลูกค้าประมาณ 300,000 ราย
ปัจจุบัน บิทคับ มีวอลุ่มเทรดต่อวันประมาณ 700-1,000 ล้านบาท และมีเงินบาทหมุนเวียนเข้า-ออกประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อวัน ขณะที่ทรัพย์สินลูกค้าทั้งเงินบาทและคริปโทเคอร์เรนซีที่เก็บรักษาอยู่ที่บิทคับมีประมาณ 4,000 ล้านบาท เช่นกัน ปัจจุบัน บิทคับมีสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกถือครองมากกว่า 32 เหรียญ และจะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต
นายจิรายุส เชื่อว่า ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีทิศทางที่สดใส ตามทิศทางของเหรียญหลักในตลาดอย่างบิตคอยน์ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีกระเป๋าบิตคอยน์ทั่วโลก 50 ล้านกระเป๋าและคาดว่าในอีก 10 ปีจากนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,000 ล้านกระเป๋า
#บิตคอยน์ #บิทคับ #Bitkub #ToppJirayut
โฆษณา