7 ส.ค. 2020 เวลา 01:09 • กีฬา
10 ปีที่รอคอย Lakers Best of West
1 ทศวรรษ ถือเป็นเวลาที่ไม่นานจนสิ้นหวังแต่ก็ไม่ได้รวดเร็วราวพริบตา มันต้องผ่านการรอคอยและพยายามเมื่อสำเร็จความสุขเปี่ยมความภาคภูมิใจจึงเกิดขึ้น
เช่นกันกับการคว้าตำแหน่งทีมที่มีสถิติดีที่สุดในสายตะวันตกสมัยที่ 32 ของยอดทีมอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส ที่เดินขึ้นยอดปิรามิดของคอนเฟอร์เรนซ์ได้อีกครั้ง ภายใต้การนำทีมของยอดโค้ช แฟร้งค์ โฟเกล และเหล่าเอเวนเจอร์ยอดนักยัดห่วง นำโดย เลบรอน เจมส์ แอนโทนีย์ เดวิส และ พลพรรคม่วงทอง หลังไล่อัดเอาชนะ ยูท่าห์ แจ๊ซซ์ ไปได้
เท่ากับว่าในช่วงฤดูกาลปกติที่เหลืออีกทีมละ 4-5 เกม ต่อให้ เลเกอร์ส แพ้รวด 4 เกม(รวมเกมวันพฤหัสแล้ว) และ คลิปเปอร์ส ทีมอันดับที่ 2 ชนะรวดยังไงก็แซงไม่ได้
ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษพอดิบพอดี เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ โคบี้ ไบรอันท์ พาทีมได้แชมป์สายในฤดูกาล 2009-10 ด้วยสถิติชนะ 57 แพ้ 25 แน่นอนครั้งนั้น พวกเขาทะลุไปถึงแชมป์ NBA
โดยรอบ Finals ปราบบอสตันไปได้ 4-3 เกม ซีรีส์ เป็นแชมป์สมัยที่ 16 ของ สโมสร และเป็นครั้งล่าสุดที่ทำได้
ทั้งนี้หากเราเปรียบเทียบ เลเกอร์ส ทั้ง 2 ชุด ไม่ว่าจะเป็นปี 2010 และปัจจุบัน มีเรื่องน่าสนใจในความเหมือนและต่างและอยู่พอสมควรทีเดียว
เริ่มจากโครงสร้างในปี 2010 เลเกอร์ส มีผู้นำที่เก๋าเกมเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับประวัติศาสตร์ NBA อย่าง โคบี้ ไบรอันท์ 27 แต้ม 5 แอสซิสตส์ พร้อมด้วย 2 หอคอยคู่ในเกมวงใน ทั้ง เพา กาซอล 18.3 แต้ม 11.3 รีบาวด์ และ แอนดรูว์ ไบนัม 15 แต้ม 8.3 รีบาวด์ เสริมด้วยเกมรับมหาเทพ อย่าง รอน อาร์เทสต์ รวมทั้งตัวเก๋า เดอเรค ฟิชเชอร์ ลามาร์ โอดอม คุมบอล
ภายใต้หมาก ไทรแองเกิลออฟเฟนซ์ของยอดเฮดโค้ช ฟิล แจ็กสัน แชมป์ 10 สมัย ณ เวลานั้น
จุดแกร่งในชุดนั้นนอกจากความมหัศจรรย์ของ โคบี้ ที่กระหายอยากพิสูจน์ตัวเองด้วยการป้องกันแชมป์ให้ได้เป็นครั้งแรกหลังแยกทางกับ ชาคีล โอนีล แล้วใช้เวลาร่วม 7 ปีกว่าจะได้แชมป์แรก เกมวงในแข็งแรงมากของผู้เล่นกว่า 7 ฟุตที่คนหนึ่งหนักแน่นวงใน อีกคนจ่ายบอลได้ ยิงกลางได้
เช่นกันกับเกมรับที่ทั้ง โคบี้ และ อาร์เทส์ หยุดตัวเก่งได้แทบทุกทีม แถมตัวบิ๊กเพลย์อย่าง โอดอม และ ฟิชเชอร์ มาถูกจังหวะเป็นทีเด็ด
เทียบเคียงกับปัจจุบัน เรื่องสตาร์ เจมส์ กับ โคบี้ ให้เปรียบเทียบก็แล้วแต่ว่าใครชอบใครเพราะพวกเขาคลาสเดียวกัน ทว่าปีนี้มองในเรื่องความเป็นทีม เจมส์ มีผลมากเหลือเกิน ทั้ง ทำแต้ม (25.4) รีบาวด์ (8.0) และ แอสซิสต์(10.4) มีบทนำทีมในทุกมิติ ที่สำคัญปี 2020 เลเกอร์ส มีตัวทำแต้มมากมายไม่ใช่ แค่ เจมส์ เพราะ เดวิส ( 25.4 แต้ม) ไคล์ คุซมา (12.5 แต้ม) พร้อมขึ้นมาช่วยทีม
จุดที่เหมือนกันมากระหว่าง 2010 vs 2020 นั่นก็คือ เกมรับเกมวงใน
ทีมปัจจุบัน เลเกอร์ส มีเกมรับดีมากเหลือเกิน เป็นตัวรับระดับติดทีมยอดเยี่ยมได้เลยไม่ว่าจะเป็นตัวของ เจมส์ เอง แอนโทนีย์ เดวิส ถือเป็น วงในที่เกมรับดีเหลือเชื่อ ทั้งบล็อก จังหวะปะทะ รีบาวด์
เช่นกันกับ 2 เซนเตอร์ ทั้ง ดไวท์ โฮเวิร์ด ดีกรีตัวรับยอดเยี่ยมของลีก จาเวล แม็กกีย์ รวมทั้ง แดนนี่ กรีน ว่าไปแล้วเอาเฉพาะเกมรับ ทีมนี้อาจจะดีกว่า 2010 ก็ได้
ทว่าจุดที่ต่างกันมากนั่นคือในปี 2020 ผู้เล่นในทีมมีเวลาเล่นร่วมกันไม่นานนัก ต่างคนเพิ่งถูกดึงเข้ามาประกอบร่างในปีนี้ เรื่องความลงตัวรู้ใจในระบบไม่น่าจะมากเท่า แต่เอาเถอะหักลบกลบนี้จากบาสสมัยใหม่เน้นความสามารถเฉพาะตัวก็พอกล้อมแกล้มไป
โคบี้และคำปรามาส แรงบันดาลใจสู่แชมป์สมัยที่ 17
สิ่งหนึ่งที่ เลเกอร์ส พิสูจน์ ให้แฟนยาสได้เห็นมาตลอดฤดูกาลนี้ นั่นก็คือความมุ่งมั่น น้อยมากที่เราจะเห็น ลูก ทีมของ แฟร้งค์ โวเกล ทิ้งเกมแม้จะเป็นเกมที่แพ้ยับเยินก็ตาม บ่อยครั้งกว่านั้นที่เราจะเห็นผู้นำอย่าง เลบรอน เจมส์ นิ่งเงียบไม่กระตือรือร้น เขามักกระตุ้นทีมโดยใช้การกระทำเป็นตัวอย่างอยู่เสมอ ซึ่งเรื่องนี้มีสาเหตุ
ประการแรกความกดดันจากคำปรามาสที่ เลบรอน เจมส์ และพลพรรค เลเกอร์ส แบกเอาไว้มานาน แน่นอน เลเกอร์ส ไม่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมนับตั้งแต่ที่ โคบี้ ไบรอันท์ รีไทร์ไป ดำผุดดำว่ายอยู่ตลอด
ขณะที่ เจมส์ เองโดนตราหน้ามาเสมอจากเหล่า Hater ว่าทั้งที่เจ๋งขนาดนี้กลับไม่กล้าพอจะย้านฟากจากตะวันออกที่คุ้นเคยมาอยู่สายแข็งที่ระดมเสือดำสิงห์กระทิงแรดเอาไว้ หรือไม่กล้ามา เพราะรู้ว่าไม่เกิดแน่ๆ ยิ่งปีที่แรกที่ย้ายมาทั้ง เจมส์ และ เลเกอร์ส ต่างมีผลงานน่าผิดหวัง ชนะแค่ 37 เกมเท่านั้น ซึ่งน้อยที่สุดเท่าที่ เจมส์ เคยเล่นอาชีพมา
จนมาฤดูกาลนี้ เลเกอร์ส ขึ้นเต็ง 1 จากเดิมพันครั้งใหญ่ดึงเอา แอนโทนีย์ เดวิส มาร่วมทีม ซึ่งตอนมาก็จากทีมเก่าอย่าง นิวออร์ลีนส์ ไม่ดีหนีเขามาดังนั้นเหล่าHater และแฟนกลุ่มอื่นที่ไม่ได้สนับสนุน เลเกอร์ส ต่างรอดู หรืออาจใช้คำว่ารอซ้ำก็ได้หากการเดิมพันครั้งนี้ล้มเหลว
ในความเป็นจริงหากปีนี้ ผลงานของทีมยังไม่เข้าเป้าชนิด NBA Finals หรือ ชิงสาย โอกาสที่ทีมจะแตกแบบต้องสร้างใหม่ก็เยอะ
เท่ากับว่า ทั้ง เลเกอร์ส เอง เดวิส เอง และ เจมส์ เองอยู่ในการเล่นที่ต้องพิสูจน์ตัวเองจากคำปรามาส
ปิดท้ายด้วยแรงบันดาลใจที่ทำให้ เลเกอร์ส ดูมีพลังแฝงเพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อนรำประเด็นนี้มาอ้างอิง นั่นก็คือแชมป์เพื่อ โคบี้ ไบรอันท์ ผู้ล่วงลับ ที่จากโลกไปแบบสุดช็อกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มันคงไม่มีปีไหนที่ เลเกอร์ส ทั่วโลกอยากได้แชมป์มากเท่าปีนี้ เพื่อเลือนความช้ำจากการสูญเสียที่ไม่ได้เตรียมตัวอีกแล้ว
มาถึงตรงนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับการกลับยืนหนึ่งใน Western ครั้งแรกในรอบทศวรรษ พร้อมขอลุ้นไปด้วยว่า เมื่อทุกอย่างลงตัวมากขนาดนี้ พวกเขาจะไปได้ไกลถึงแชมป์หรือไม่
โฆษณา