8 ส.ค. 2020 เวลา 08:40 • ไลฟ์สไตล์
ก็ถ้า(ผู้) มันยาก จะหยุด หรือ ไปต่อ
เชื่อว่าสาวรุ่น 30++ อย่างเราๆคงเบื่อกับความสัมพันธ์ฉาบฉวย แบบ one night stand กันบ้างแหละ
เจ้ใหญ่ก็เป็นคนหนึ่งที่คิดจะจริงจังกับทุกผู้ที่หลงเข้ามา
แต่หลายๆครั้งมันก็จะติดตรงที่ Behavior (พฤติกรรม) บางอย่างของผู้มันเป็นสิ่งที่เจ้ใหญ่เกินจินตนาการไปมาก
ครั้งหนึ่ง.. เจ้เคยเกี่ยวผู้เกรดมิลลิแนร์หลักร้อยมาได้ครั้งหนึ่ง ตะ ตะ แต่ นางก็มีนิสัยบางอย่างที่สามารถเบรคเจ้ได้ภายในระยะสั้น เช่น ชอบใส่แต่เสื้อสีขาว ผ้าม่านขาว ผ้าเช็ดเท้าสีขาว และ ขาว ขาว ขาว รถยนต์ก็ยังขาว แรกๆมันก็โอเค แต่หลังๆเจ้ต้องเปลี่ยนแนวไปขาวด้วยนี่สิเริ่มไม่โอ และมีอีกหลายอย่างที่ไม่ขอเอ่ย
แน่นอนว่า 'เท' โดยไม่ต้องสืบ
แต่เมื่อวันหนึ่งเจ้ใหญ่เกิดปักใจรักกับ 'ผู้' (คนเนี่ยอยู่นานเลย) คนปัจจุบัน เจ้ก็หุนหันพันแล่นตกแต่งโดยไม่สืบสิ่งใด เพราะมีเทสต์ที่คลั่งใคล้เหมือนกันนั่นคือ การขี่บิ๊กไบค์ (มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ 500 cc ขึ้นไป)
แต่เมื่อเริ่มใช้ชีวิตร่วมกัน ปัญหามันก็เกิด ด้วยความแตกต่างทางเชื้อชาติ(สามีเป็นฝรั่งเศสค่ะ) วัฒนธรรม อุปสรรคสำคัญคือภาษา และขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าคะแนนความอยู่ยากเจ้ให้ 10 เท่าของที่เคยมีมาในชีวิต
แต่..แต่งไปแล้ว และเจ้ก็มีชีวิตมานานเกินกว่าจะแต่งงานใหม่อีกรอบ (แก่นั่นแหละค่ะหนู)
เจ้เลยลองพยายาม..
ทีแรกก็ทะเลาะกัน ขอเลิก ขออย่าแบบแตกหักไปเลย แยกกันอยู่พักหนึ่งก็มี
แต่..เจ้เหนื่อยค่ะ เจ้ไม่อยากหาใหม่ ไม่อยากเริ่มใหม่ และเราเองก็ยังรักกัน แต่มันอยู่ไม่ได้
แล้ววันหนึ่งเจ้ก็ได้เรียนรู้ว่า
#เปลี่ยนคนอื่นนั้นมันยากเปลี่ยนตัวเราง่ายกว่า#
ทีแรกก็วิตกว่าเราจะสูญเสียความเป็นตัวเองไปไหม จะกลายเป็นว่าชีวิตยอมให้ผู้บงการไหม บลา บลา บลา
แต่สิ่งที่กังวลมันไม่เกิด..
เพราะเมื่อเจ้ยอมถอย และเปลี่ยนแปลงสามีก็มองว่าเจ้นั้น รักเขาและกำลังทำเพื่อเราทั้งคู่อยู่ และเขาก็เริ่มเรียนรู้ที่จะลองเปลี่ยนบ้าง
#มันได้ผล# แต่มันต้องใช้เวลาค่ะ ต้องอดทน ต้องพยายาม และที่สำคัญเราต้องคิดถึงความรู้สึกฝ่ายตรงข้ามเสมอ
เลิกฟัง..ผู้หวังดีทั้งหลายไปสักพักก่อน
คุย..กับคู่ชีวิตของเราให้มากขึ้น สำคัญอย่าโกหกกัน
บอกรัก..กันในทุกวัน ทุกครั้งที่มีโอกาส
ภาษากายนี่สำคัญ กอด..กันมากขึ้น
ชมเรื่องดีๆและ เสนอความคิดในสิ่งที่เราไม่โอเคอย่างอ่อนโยน
สีหน้าและน้ำเสียงเวลาคุยนี่โคตรสำคัญ ผู้หญิงเรามักจะคิดว่า ก็ผัวเมียกัน ทำไมต้องเฟค ต้องสร้างภาพ
ต้องจ้ะ ต้องทำ ความรู้สึกมันสำคัญนะ ถ้าเขารู้สึกแย่ตั้งแต่แรกเขาก็จะไม่ฟัง ผัวเราก็คนค่ะ ต้องท่องไว้
เคยตอกตะปูกับฝาผนัง จากนั้นก็ถอนตะปูออกไหมคะ
นั่นแหละความรู้สึกของผัวเราเวลาที่เราพูดจาแรงๆใส่เขา หรือดูถูกเขา หรือแสดงอาการว่าเขานั้นแย่
ต่อให้หลังจากนั้นเราจะยิ้มแย้มทำตัวฉอเลาะแค่ไหน รอยตอกตะปูในความรู้สึกมันไม่ได้หายไปเลยค่ะ และยิ่งเราพยายามที่จะเมินมัน ผัวเราก็ยิ่งจะมองและคิดเกี่ยวกับรอยนั้นมากขึ้น
ตอนนี้ยังทันนะ สาวๆที่รักทั้งหลาย ใช้ความรักทั้งการกระทำและคำพูดลบรอยนั้นออกไปเถอะค่ะ
เวลาเราตกลงใช้ชีวิตร่วมกันเราพูดกันสองคน เวลามีปัญหาเราก็ต้องพูดกันสองคน เรื่องนี้สำคัญนะ
'ความในอย่านำออกความนอกอย่านำเข้า'
คิดก่อนที่จะพูด เพราะผู้หญิงเราน่ะติดชอบเม้าท์มอยกับเพื่อนฝูง โดยเราลืมไปว่าผัวเราเขาไม่ได้สนิทกับเพื่อนเราเหมือนเรา เรื่องบางเรื่องเขาไม่ได้อยากให้เพื่อนเรารู้
ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะคำนึงถึงภาพลักษณ์ทางสังคม มากกว่าภาพบนเฟสบุ๊คนะจ้ะ
การตำหนิหรือขัดแย้งเขาต่อหน้าคนอื่นน่ะ พังมาหลายรายแล้ว มีอะไรกลับมาคุยกันที่บ้าน
การที่เราทำแบบนั้น เขาจะคิดว่าเราไม่ให้เกียรติเขาต่อหน้าที่สาธารณะ เขาจะรู้สึกอับอายและมองเราเป็นศัตรูนะ และความรู้สึกแบบนี้เมื่อมันเกิดขึ้นล่ะก็อันตรายมากๆสำหรับชีวิตคู่
เราต้องระลึกไว้เสมอว่า ชีวิตคู่ก็คือหน้าที่ชนิดหนึ่งของเรา แต่มันเป็นหน้าที่ที่เรา 'รัก' และมีความสุขกับมัน
การรักตัวเองนั้นไม่ผิด แต่เราต้องรับผิดชอบความรู้สึกของคนที่เราบอกว่ารักด้วย เราปลูกต้นรักแล้วเราต้องช่วยกันดูแลนะคะ
อีกข้อที่สำคัญ
ผัวเราเราต้องรู้จักเขาให้ดีกว่าใคร ต้องคอยสังเกตุสิ่งที่เขาชอบ ไม่ชอบ เวลานางไอ นางจามก็ต้องถามบ้างว่า คุณโอเคไหม
อย่าปล่อยให้ใครรู้จักผัวเราดีกว่าเรา และอย่าเปิดโอกาสให้เขาไปรู้สึกปลอดภัยหรือไว้วางใจกับคนอื่นไม่ใช่เรา น้ำตาตกมากี่รายแล้ว ไอ้ที่มั่นว่าผัวรัก ผัวหลง ฉันสวย ฉันรวย เพราะลืมไปว่าตั้งแต่แรกตัดสินใจอยู่ด้วยกันเพราะอะไร
ถามว่าตอนนี้ยังกัดกันกับผัวอยู่ไหม มันก็มีบ้างตามประสาลิ้นกับฟัน แต่ว่าเจ้ไม่เคยปล่อยให้มันข้ามวันค่ะ และไม่คิดจะให้มันเกิดขึ้นด้วย ก็แค่เดินไปหาและบอกเขาว่าเรามาคุยกันนะ ฉันรักคุณนะ ฉันขี้เกียจจะโมโหแล้ว อะไรประมาณนี้ เคลียร์สิ่งที่มันค้างอยู่ซะ และมันก็ทำให้เรื่องราวมันจบลงได้ในทุกๆครั้ง
เอาล่ะ..วันนี้เม้าท์มอยให้พอชื่นใจ เจอกันในโพสท์หน้า
แต่บอกไว้ก่อนนะคะ ว่าสำหรับเจ้ใหญ่วิธีที่กล่าวไปมันได้ผล แต่สำหรับคู่อื่นอันนี้เจ้ก็ไม่รู้นะจ้ะ
#ทางที่ดี# ถ้าปัญหามันหนักจูงมือกันไปพบที่ปรึกษาชีวิตคู่เถอะ
เจ้ใหญ่เองก็จูงมือผัวไปหลายครั้ง ก็เรายังอยากจะอยู่ด้วยกันนี่เนาะต้องหาวิธี
สุดท้าย
ความรักนั้นก็อดทนนาน
มีเมตตากรุณา
ไม่อิจฉาริษยา
ไม่โอ้อวด ไม่หยิ่งจองหอง
ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว
ไม่ฉุนเฉียว
ไม่จดจำความผิดของคนอื่น
ความรักไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นทำชั่วแต่ยินดีกับความจริง
ความรักปกป้องเสมอ ไว้วางใจเสมอ
มีความหวังเสมอ และทนต่อทุกอย่างเสมอ
(1 โครินธ์ บทที่ 13 ข้อ4-7)
ฝากไว้ให้คิดนะคะ ความรักน่ะไม่ผิด แต่เราต้องฉลาดที่จะรัก รักให้เป็น รักให้ถูกวิธี
ขออวยพรให้คู่รักที่ผ่านมาอ่าน รักกันดี รักกันนาน รักกันยันนมยานผมขาวไปเลย
❤รักนะคะ❤ ขอให้ความรักนำทางคุณ😃
โฆษณา