** แก้วประการที่ 1 … เงินลงทุน **
.
คือ เม็ดเงินตั้งต้น ไม่ว่ามันจะมาจากการทำงาน เงินออม มรดก สิ่งนี้เป็นสิ่งแรกที่จำเป็นในการเข้ามาลงทุน ยิ่งมีเยอะในตอนต้นจะยิ่งดี แต่ต้องทำให้งอกเงยด้วย มิฉะนั้น ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งเสียเยอะได้เช่นกัน
.
** แก้วประการที่ 2 … ผลตอบแทน **
.
เป็นเรื่องของฝีมือในการลงทุน เราสามารถสร้างขึ้นได้เอง ด้วยการศึกษาหาความรู้ และทดลองปฏิบัติจริงในตลาดหุ้น ซึ่งมันมีทั้งเรื่องของหลักเหตุและผล อารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง ความเชื่อและความหวัง
.
คำถามคือ ผลตอบแทนควรมากแค่ไหน ?
คำตอบคือ แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคน ให้คิดง่าย ๆ แบบนี้ว่า
.
ถ้าเราทำผลตอบแทนได้ปีละ 15% ทุก 10 ปี เงินต้นจะคูณ 4 แปลว่า เงิน 1 ล้าน จะกลายเป็น 4 ล้าน
.
ถ้าเราทำผลตอบแทนได้ปีละ 26% ทุก 10 ปี ชีวิตจะเปลี่ยนหลัก เงินต้นจะมี 0 ต่อท้ายมาอีกตัว แปลว่า เงิน 1 ล้าน จะกลายเป็น 10 ล้าน
..
แต่ในมุมกลับกัน ถ้าผลตอบแทนติดลบ เงินต้นก็หาร 4 หรือ เปลี่ยนหลักถอยลงได้เช่นกัน
.
** แก้วประการที่ 3 … ระยะเวลา **
.
ข้อนี้เป็นเรื่อง พลังของดอกเบี้ยทบต้น ที่เมื่อเราสะสมผลลัพธ์ที่ดีไปเรื่อย ๆ ผลตอบแทนจะโตขึ้นแบบรวดเร็วในปีหลัง ๆ ยิ่งนาน ยิ่งเติบโต เพราะฉะนั้น หลักการก็คือ ถ้าเรายังอายุน้อย เราก็ควรเริ่มลงทุนให้เร็ว จะได้มีเวลาเก็บเกี่ยวได้นาน ถ้าเราอายุมาก เราก็ต้องรักษาสุขภาพให้ดี เพื่อที่จะได้อยู่นาน ๆ รอเห็นผลลัพธ์ก่อน
..
แน่นอนว่า ทุกคนอยากให้แก้วทั้ง 3 ประการส่องสว่างเต็มที่ เพราะนั่นย่อมหมายถึง ความมั่งคั่งที่เต็มร้อย
.
แต่ในโลกของความเป็นจริง แก้วแต่ละใบของเราเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ,