8 ส.ค. 2020 เวลา 14:12 • ไลฟ์สไตล์
คนมีเหตุผลจะปรับตัวเข้าหาโลก ส่วนคนไม่มีเหตุผลดันทุรังพยายามปรับโลกเข้าหาตัวเอง" เราเชื่อว่าใครๆ ต่างก็อยากจะเป็นคนมีเหตุผล แต่?....
คุณครับ ชอบอ่านหนังสือไหมครับ
(ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่นี่เป็นคำทักทาย)
สวัสดีครับ รู้กันหรือเปล่าว่า "เหตุผล" แปลว่าอะไร??? เอ๋.. อือ.. หือ!! ไม่มีคำแปล!! มีแต่ความหมายและตัวอย่างการนำไปใช้/อ้างอิง (ประมาณนั้น^^) นี่แสดงว่าเราใช้คำๆ นี้ โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แค่เห็นเขา (คนเก่งๆ/น่าเชื่อถือ) พูดกันฟังเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ดูดีก็เก็บไปพูดบ้างต่อๆ กันเรื่อยมา
"เหตุผล" คำนี้ไม่มีคำแปลแต่มีความหมายมากมายทั้งสอดคล้องกัน, ยอกย้อนและขัดแย้ง ไปจนถึงแตกต่างกันอย่างชัดเจน ส่วนการนำไปใช้นั้นแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ
1.เหตุผลที่มีที่มาชัดเจนและผ่านกระบวนการที่เป็นมาตรฐานสากลผลที่ได้จึงแม่นยำ ถูกต้องชัดเจน แน่นอน (ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา) ใช้อ้างอิง/เป็นหลักได้
2.เหตุผลที่ตรงกันข้ามกับข้อ 1. มันคือเหตุผลที่ไม่มีเหตุผล (แต่เรายอมรับไม่ได้!! และพยายามบอกกับใครๆ ว่า ฉันมีเหตุผล ฉันเป็นคนมีเหตุผล)
มาถึงตรงจุดนี้เรายังก็ยังยืนยันว่าเรามีเหตุผล เราเป็นคนมีเหตุผลอยู่ดี เพราะความเชื่อที่ส่งต่อๆ กันมา จึงทำให้เรามีอคติ และมีมุมมองที่ถูกจำกัด ซึ่งส่งผลให้มีขนาดของหัวใจที่ไม่กว้างพอ และก่อนแยกย้ายกันขอยกบทความข้างต้นมาต่อให้จบใจความดังนี้.
"คนมีเหตุผลจะปรับตัวเข้าหาโลก ส่วนคนไม่มีเหตุผลดันทุรังพยายามปรับโลกเข้าหาตัวเอง
โลกจึงเปลี่ยนแปลงจากพวกคนที่ไม่มีเหตุผล"
ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขจนกว่าจะพบกันใหม่ ขอบคุณมากครับสวัสดี
**ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก pixabay.com
โฆษณา