12 ส.ค. 2020 เวลา 02:00 • หนังสือ
อ่านแล้วดี : The Hunger Games Prequel: The Ballad of Songbirds and Snakes
ภาคต้น The Hunger Games ต้นกำเนิดเผด็จการตัวร้าย Coriolanus Snow
ห่างหายจากการอ่าน กับอ่านแล้วดี ไปนานพอสมควรเลยครับ แต่วันนี้ได้กลับมาอ่านเล่มนี้ต่อหลังจากทิ้งช่วงไปประมาณเดือนนึง แล้วต้องบอกว่า ติดหนึบจนตะลุยอ่านจบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากันเลยทีเดียว
สำหรับนิยายเรื่องนี้อย่างที่กล่าวไปครับ มันคือภาคต้นของหนังสือไตรภาค เกมล่าชีวิต ที่ถูกดัดแปลงเป็นหนังถึง 4 ภาคและประสบความสำเร็จอย่างสูงครับ โดยเล่มนี้ จะเป็นเรื่องราวของ Coriolanus Snow ชายหนุ่มที่เกิดและเติบโตในโลกก่อนสงครามและได้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากต่อมาในโลกหลังสงครามระหว่าง เขต (District) และ แคปิตอล (Capitol) ถ้าใครตามเรื่องราวของ The Hunger Games มา ก็จะทราบว่า มันคือสงครามที่ทำให้เขต 13 ต้องถูกลบออกจากแผนที่ และชัยชนะก็ตกเป็นของ แคปิตอล นั่นเองครับ
Coriolanus Snow คือหนึ่งในตัวร้ายหลักของ The Hunger Games ทั้งสามภาคในฐานะประธานาธิบดีที่มองเห็นว่า District ต่างๆ ต้องถูกกดทับดูแลไม่ให้หืออือ จนกระทั่งการมาถึงของ Katniss Everdeen สาวน้อยผู้มากับไฟที่ยอมลงแข่ง Hunger Games ครั้งที่ 74 แทนน้องสาวครับ จากเหตุการณ์นี้นี่เองที่เป็นชนวนเหตุของสงครามการกู้คืนอิสระภาพให้กับมวลมนุษยชาติในแต่ละ District จาก Capitol และตัวของ Snow
1
โดยในเล่มนี้เนื้อเรื่องจะเล่าย้อนกลับไปในวัยหนุ่มของ Snow ในการแข่งขันเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 ที่พวกเขาประสบกับปัญหาที่ว่า จะทำอย่างไรให้เกมเป็นที่สนใจของคนทั่วไป Dr. Gaul อาจารย์และนักวิทยาศาสตร์ที่บ้าการดัดแปลงพันธุกรรมสัตว์จึงจัดให้มีการประกบคู่นักเรียนดีเด่นของ Academy กับตัวแทนจากแต่ละเขตในการแข่งขันครั้งนี้ ในฐานะ Mentor ที่จะคอยดูแลและแนะนำเทคนิคในการเอาชีวิตรอดจากเกม โดยมีรางวัลเป็นทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของ Capitol ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นรางวัลที่ Snow ใฝ่หา เพราะในขณะที่ชีวิตของเขาดำเนินไปนั้น เขาค้นพบว่า บ้านที่มีคุณย่าผู้สูงศักดิ์ (ในเรื่องทุกคนเรียกเธอว่า Grand Ma’am อารมณ์แบบ คุณนายแม่ ใน บัลลังก์เมฆ ครับ) และลูกพี่ลูกน้องอย่าง Tigris (ถ้าใครเป็นแฟนหนังสือหรือหนัง เธอคือสาวหน้าเสือหนึ่งในตัวละครสำคัญที่เป็นคนช่วยส่งข่าวและให้ความช่วยเหลือ Katniss ในการก่อกบฏในเล่มสุดท้ายอย่าง Mockingjay ครับ) กำลังจะถูกยึด ครอบครัวตระกูล Snow ของเขาที่เคยอยู่เหนือใครๆ กำลังถึงคราวตกต่ำที่สุดครับ การได้รางวัลนี้จะเป็นใบเบิกทางให้เขาได้มีชีวิตที่ก้าวหน้าและพ้นจากโคลนตมที่เป็นอยู่นั่นเอง
และการจับคู่ครั้งนี้ ก็นำพาเขาไปรู้จักกับเด็กสาวจากเขต 12 สาวน้อยผู้มากับงู อย่าง Lucy Gray ครับ เราจะได้ติดตามการแข่งขันเกมล่าชีวิตที่ยังไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรมากมาย มีเพียงการจับคน 24 คนมาอยู่ใน Arena และให้พวกเขาไล่ฆ่ากันเอง โดยมีการส่งความช่วยเหลือเป็นอาหารและน้ำจาก Mentor ของแต่ละคนครับ ซึ่งนอกจากรางวัลสูงสุดที่ Snow ใฝ่หาแล้ว ปรากฏว่า ยิ่งถลำตัวเข้าไปรู้จักเด็กสาวคนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักเธอมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่การจะพาเธอให้เอาชีวิตรอดจากคนอีก 23 คนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เรื่องราวเป็นอย่างไรต่อไป อยากให้คุณผู้อ่านลองไปหามาอ่านดูครับผม
***เนื้อหาต่อจากนี้อาจจะมีการสปอยล์เรื่องราวบางส่วนครับ***
โดยภาพรวมนั้น ผมสนุกเพลิดเพลินกับครึ่งแรกครับ เพราะมันเป็นการย้อนคืนสู่การแข่งขันเกมล่าชีวิตที่เป็นพาร์ทที่ลุ้นระทึกตื่นเต้นที่สุด แถมพอมันเป็นการแข่งขันครั้งที่ 10 ซึ่งไม่ได้มีอะไรมาช่วยผู้เข้าแข่งขันหรือสร้างสีสันของเกมด้วยเทคโนโลยีแบบนี้ ก็ทำให้เกมมีความดิบเถื่อน และโหดกว่าเดิมเยอะเลยละครับ การันตีคนตายเป็นเบือได้เลย แต่ในครั้งนี้ แทนที่จะนำเสนอในมุมมองของผู้เล่น เราจะได้เห็นในมุมมองของ Mentor กันบ้างครับ รวมถึงพัฒนาการของตัวละครหลักอย่าง Coriolanus ที่เราจะได้รู้จักนิสัยใจคอของเขามากยิ่งขึ้น
ตัวละครรองอื่นๆ อย่าง Sejanus Plinths นั้น ส่วนตัวมองว่า จงใจให้มีความเป็น Rebellion มากเกินไป คือตัวละครนี้เป็นเพื่อนกับ Snow นะ แต่ตัวเขาเองมาจาก District 2 และมองว่าการแข่งขันเกมล่าชีวิตเป็นสิ่งผิด เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการแข่งขัน ซึ่งนำพาเรื่องเดือดร้อนให้ Snow ต้องมาตามแก้ให้กับเขาครับ น่าเสียดายที่เราได้รู้จักเขาในด้านที่แบนราบมากๆ เหมือนขาวดำ ขณะที่ Snow ยังพอเห็นความเทาๆ ผ่านเนื้อเรื่องครับ
Dr. Gaul ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครน่าจดจำของเรื่อง ในฐานะ นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งการดัดแปลงพันธุกรรมสัตว์ โดยเฉพาะงูที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกมพลิกผันครับ ถือเป็นตัวละครออกน้อยแต่ได้มาก ที่สร้างความสะพรึงให้กับผมเป็นอย่างดี
ในครึ่งหลังนี้เองที่ผมรู้สึกว่า เนื้อเรื่องมันดรอปลงมาจากครึ่งแรกครับ แม้เนื้อหาจะมุ่งเน้นไปที่การบอกถึงที่มาที่ไปของหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น นก Mockingjay เพลง The Hanging Tree ที่ Katniss ร้องเอาไว้ในช่วงสงคราม แต่เนื้อเรื่องที่พลิกกลับเกินไป ทำให้ผมรู้สึกไม่อินไปกับเนื้อหา รวมถึงพัฒนาการของ Snow ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะในตอนท้ายของเรื่องนั้น ดูยัดเยียดเกินไปหน่อย แม้ว่าตอนจบจะลงตัวดีแล้ว แต่ระหว่างทางผมคิดว่ายังมีบาดแผลอยู่พอสมควรเลยละครับ
ในเรื่องของภาษา ในเล่มนี้ ใช้ภาษาสวยครับ อ่านยากอยู่บ้างตรงศัพท์การเมืองและศัพท์เฉพาะเหตุการณ์ แต่โดยภาพรวมแล้ว สามารถใช้เป็นหนังสืออ่านเล่นเพื่อเตรียมสอบพวก IELTS หรือ TOFEL ได้อยู่นะ เพราะมีหลายๆ รูปประโยค รวมถึงคำศัพท์ที่น่าเก็บกลับไปใช้อยู่พอสมควรเลยละครับ
เขียนมาซะยาวยืด แต่อยากบอกว่า มันมีอะไรมากมายพอกพูนอยู่ในหัวและอยากบอกท่านผู้อ่านมากกว่านี้อีกนะครับ ใครที่อ่านกันมาแล้ว อยากจะมา Discuss กันถึงเรื่องราวในหนังสือ สามารถทำได้เลยนะครับ เพราะผมก็คันปากอยาก Discuss ด้วยอยู่เหมือนกันนะ
เล่มนี้เป็ดกัดเต่าการันตีว่า อ่านแล้วดี อีกแล้วครับผม เล่มหน้าจะเป็นหนังสืออะไรอะไร โปรดรอติดตามนะครับ...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา