9 ส.ค. 2020 เวลา 06:50 • ธุรกิจ
วันละเรื่อง ตอน ศึก TikTok
ใครจะไปคิดว่าแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียจากจีนอย่าง TikTok จะกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา
อะไรคือ TikTok? TikTok เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียจากบริษัท ByteDance บริษัทด้านอินเตอร์เน็ทจากประเทศจีน โดยแอปพลิเคชันเปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอขนาดสั้น 15 วินาที ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อความบันเทิง เช่น เต้น ลิปซิงค์ หรือแม้กระทั่งทำมีมตลกๆ
แอปพลิเคชัน TikTok ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเนื่องจากการระเบิดของโควิด-19 จนมียอดดาวน์โหลดทะลุ 2,000 ล้านครั้ง โดยในจำนวนดังกล่าว 315 ล้านครั้งเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี เพิ่มขึ้นจากยอดดาวน์โหลดประมาณ 200 ล้านครั้งในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019
สหรัฐติด 1 ในท็อป 3 ของประเทศที่มียอดดาวโหลดพุ่งขึ้นมากที่สุด เพิ่มขึ้นถึง 8.2% และนั่นแสดงให้เห็นถึงความป๊อปปูลาร์ของแอปพลิเคชันจากประเทศจีน จนไปสร้างความกังวลให้กับทางการสหรัฐเข้าให้
เพราะแอปพลิเคชันดังกล่าวมาจากจีน ประเทศที่รัฐบาลมีอำนาจเหนือเอกชนเป็นอย่างมาก ข้อมูลต่างๆ ในแอปพลิเคชันทั้งหมดอาจรั่วไหลไปจนถึงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้
นั่นคือความกังวลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐย่ำแย่มาโดยตลอดหลายปีมานี้จากการทำสงครามการค้าระหว่างทั้งสองชาติ ทั้งการตั้งกำแพงภาษีตอบโต้กันไปมา การทะเลาะกันเรื่องต้นกำเนิดของโควิด-19 ที่ทั้งสองชาติต่างสาดโคลนโบ้ยเป็นความผิดอีกฝ่าย จนมาสู่ประเด็นร้อนอย่างการเข้าควบคุมฮ่องกงเต็มสูบของจีน
ล่าสุด ก็กลับมาด้านธุรกิจอีกแล้ว โดยครั้งนี้ศูนย์กลางของความขัดแย้ง เกิดขึ้นกับแอปพลิเคชัน TikTok
วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ใช้อำนาจพิเศษของประธานาธิบดี สั่งแบนการทำธุรกิจกับ ByteDance เจ้าของ TikTok รวมไปถึง Tencent เจ้าของแอปพลิเคชันแช็ทอย่าง WeChat ด้วย โดยใช้เหตุผลทางความมั่นคงในการสั่งแบนผู้พัฒนาแอปพลิเคชันทั้งสองแห่ง
“การเก็บข้อมูลของแอปพลิเคชันมีโอกาสเปิดทางให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ ซึ่งอาจทำให้จีนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นในการแบล็คเมลล์และกระทำการอื่นโดยมิชอบ” คำสั่งของทรัมป์ระบุ
แน่นอนว่า TikTok ปฏิเสธว่าไม่เคยให้ข้อมูลกับทางการจีนเลยสักครั้ง แต่คำสั่งของทรัมป์จะทำให้ TikTok ไม่สามารถปฏิบัติการในสหรัฐได้นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.เป็นต้นไป
ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะไปจบที่ตรงไหน เพราะล่าสุด TikTok ยังได้ออกมาตอบโต้คำสั่งแบนของทรัมป์ด้วยการขู่จะฟ้อง แต่ความฮอทของ TikTok ทำให้มีหลายบริษัทสนใจเข้าซื้อบริษัท ซึ่งทาง TikTok เองก็เผยว่าพร้อมที่ขายส่วนธุรกิจในสหรัฐให้กับบริษัทอเมริกันอยู่แล้ว
หนึ่งในบริษัทที่สนใจเข้าซื้อคือ ไมโครซอฟต์
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานอ้างแหล่งข่าวสามรายว่า ทรัมป์ ได้ให้ไมโครซอฟต์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ของสหรัฐ เข้าซื้อส่วนปฏิบัติการของ TikTok ในสหรัฐให้ได้ภายใน 45 วัน
หากไมโครซอฟต์สามารถซื้อ TikTok ได้สำเร็จ จะช่วยให้ไมโครซอฟต์มีโซเชียลมีเดียที่สามารถแข่งขันตลาดภายในประเทศกับเฟซบุ๊ก ได้เลยทีเดียว แต่ดูเหมือนไมโครซอฟต์จะมีคู่แข่งยักษ์ใหญ่อีกเจ้าหนึ่ง ล่าสุด วอลสตรีทเจอร์นัล หนังสือพิมพ์และสื่อชื่อดังของอเมริกายังรายงานว่า ทวิตเตอร์สนใจจะเข้าควบรวมกิจการของ TikTok ด้วยเช่นกัน
ความนิยมของ TikTok ยังทำให้ Instagram แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียของเฟซบุ๊กได้ทดลองฟีเจอร์ใหม่อย่าง Reels ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอขนาด 15 วินาทีได้ไม่ต่างจาก TikTok
ใครจะได้ส่วนธุรกิจในอเมริกาของ TikTok ไป ต้องมาติดตามกันดู ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
อ้างอิง:
TikTok Crosses 2 Billion Downloads After Best Quarter For Any App Ever
TikTok and Twitter are starting to talk about a possible combination, WSJ reports: https://www.businessinsider.com/tiktok-twitter-possilbe-combination-talks-wsj-report-2020-8
TikTok threatens legal action against Trump US ban: https://www.bbc.com/news/business-53660860
Facebook releases its second attempt to copy rival TikTok by leveraging Instagram’s popularity: https://www.cnbc.com/2020/08/05/facebook-launches-tiktok-competitor-instagram-reels.html
โฆษณา