Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Movie Trivia
•
ติดตาม
25 ส.ค. 2020 เวลา 07:25 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
[Review] Interstellar (2014) – ทะยานดาวกู้โลก
หากกวาดตาดูผลงานในปัจจุบันของ คริสโตเฟอร์ โนแลน คงไม่เป็นที่กังขามากนัก หากจะพูดว่า เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับฯ ที่จับผลงานแนวไหนก็ย่อมน่าสนใจแทบทั้งสิ้น แต่อีกหนึ่งผลงานที่จะขอหยิบมาพูดในวันนี้ คือหนังไซไฟที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของฟิสิกส์อวกาศอย่าง Interstellar
Interstellar เล่าเรื่องของโลกในอนาคตที่เกิดภาวะโรคระบาดในพืชจนทำให้พืชซึ่งเป็นอาหารให้มนุษย์ค่อยๆตายไปทีละชนิดและยังมีพายุฝุ่นที่คอยคุกคามโลกอย่างห่างๆอีกด้วย คูเปอร์ อดีตนักบินได้พบสัญญาณที่ตัวเองได้รับมาจากลูกสาว เมอร์ฟี่ ก่อนจะพบกับสถานีอวกาศลับนาซ่าที่กำลังเตรียมภารกิจกู้โลกครั้งสำคัญในการเดินทางผ่านรูหนอนไปยังอีกกาแล็คซี่นึงเพื่อเดินทางไปสำรวจดวงดาวที่น่าจะมีศักยภาพให้มนุษย์อยู่ได้ คูเปอร์และลูกเรือยานอวกาศจึงต้องภารกิจที่สุดแสนจะยาวไกลมากที่สุดที่มนุษย์เคยจะเดินทางมา
ส่วนที่ดีที่สุด คือ การสร้างอารมณ์เพียวไซไฟในหนัง ที่เกือบจะหาไม่ได้แล้วในยุคหนังธุรกิจแบบนี้ เพราะหากจะมองหากันดี ๆ หนังไซไฟยุคนี้แทบจะเต็มไปด้วยความแอ็คชั่นบล็อคบัสเตอร์ แทบจะหาหนังที่มีแต่ความเพียวไซไฟไม่ค่อยได้แล้ว หนังเรื่องนี้มอบความเป็นไซไฟอวกาศแบบเต็มที่ แบบที่เราเคยรู้สึกในหนังอวกาศยุคเก่า ๆ ในความพิศวงลึกลับของอวกาศ มิติและเวลาบางอย่าง หนังเรื่องนี้เป็นดั่งการสำรวจอวกาศและดวงดาวอย่างที่หนังให้เป็น
รองลงมาคือ ความสมจริงทางด้านภาพของหนัง ดั่งที่ โนแลน พยายามที่จะทำให้เป็น หนังมีหลาย ๆ ฉากที่สมจริงในแง่ของมุมกล้อง การสร้าง ซึ่งรวมถึงการใช้กล้อง IMAX ที่ทำให้ภาพมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเสมือนเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะมุมกล้องแบบสารคดียานอวกาศ ซึ่งก็สามารถสร้างความสมจริงทางด้านภาพให้มากขึ้นได้อย่างยิ่งยวด
ถัดมาคือ อารมณ์ร่วมของหนัง ที่หนังดำเนินค่อยเป็นค่อยไปมาก ๆ ในช่วงแรกเพื่อปูพื้นและเรื่องราว แต่กระนั้นก็สามารถสร้างบรรยากาศ ดราม่า-ไซไฟ ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าหนังดำเนินเนื้อหาระหว่าง 2 ส่วนได้ควบคู่กันไปได้ค่อนข้างลงตัว ถัดมาคือ ส่วนของดนตรี ที่ทำหน้าที่ได้ดี ทางด้านความยิ่งใหญ่และลึกลับของอวกาศ
ถึงแม้จะกล่าวมาข้างต้น หนังก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยมากนัก เพราะยังมีบางช่วงบางตอนที่ค่อนข้างขาดเกินหรืออาจถึงลบล้างอารมณ์ร่วมหนังที่ปูมาในช่วงแรก (ส่วนตัวรู้สึกแย่ด้วยซ้ำ) แต่ก็ยังทำให้หนังไม่เสียกระบวนไปมากนัก หนังมีหลายฉากมากพอที่จะทำให้คนดูได้จดจำหนังเรื่องนี้ได้ อาจไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่แต่ก็อาจจะรู้สึกถึงความสมจริงที่หนังมอบให้ โดยเฉพาะฉากเดินทางผ่านรูหนอน และ ฉาก “นั้น” ช่วงท้ายเรื่อง ที่คาดว่าคงเป็นที่ถกเถียงในวงสนทนาฟิสิกส์อวกาศไประยะนึงเลยทีเดียว
สรุปแล้ว Interstellar คือหนังไซไฟที่แฝงประเด็นดราม่ามาพอกล้อมแกล้ม แต่ทำให้หนังในครึ่งแรกทรงพลังมาก ๆ (แม้ว่าบางคนจะบอกว่าเนือยและน่าเบื่อ) หนังใช้ทฤษฎีมิติและเวลาได้อย่างคุ้มค่า หนังไม่ได้ดูยากหรือซับซ้อนอย่างผลงานก่อน ๆ ที่หลายคนกังวล แต่ต้องคิดตามโดยใช้ทฤษฎีที่ให้มาแล้วคิดตามไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้หนังมีหลายต่อหลายฉากที่อาจเป็นที่ถกเถียงกันต่อไปในอนาคตก็ได้ สาวกไซไฟและโนแลนอย่าได้พลาดเลย
4 / 5
Interstellar (2014)
Directed by Christopher Nolan
Written by Jonathan Nolan & Christopher Nolan
1 บันทึก
3
1
1
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย