10 ส.ค. 2020 เวลา 00:05 • ธุรกิจ
จ่ายหนี้ไม่ไหว ทำยังไงดี?
หนี้รึ่มเลยสิคุณ ?
คุณน่ะ !
คุณผู้อ่านนั่นแหล่ะครับ..
ฮ่า ๆ หยอก ๆ
ไม่รู้สิ...ผมเชื่อว่าท่านที่เห็นหัวเรื่องบทความนี้
แล้วกดเข้ามาอ่าน ท่านต้องมีหนี้อยู่ในมือแน่ ๆ
ไม่มากก็น้อยล่ะ ... จริงไหม ?
เออน่า...ถ้าท่านไม่มีก็แล้วไปเนอะ
แต่สำหรับท่านที่มีหนี้ และมีหนี้เยอะ
เริ่มไม่ไหวแล้ว สภาพคล่องโคตรพัง
เครียด เซ็ง ทำยังไงดี ไม่อยากอยู่แล้ว ฯลฯ
ตั้งสตินะครับ ! แล้วอ่านให้ครบทุกบรรทัด
อันดับแรกทำความเข้าใจกันก่อนว่า
"เป็นหนี้ถือเป็นเรื่องปกติ"
ไม่ได้เลวร้าย ตำรวจไม่จับ ไม่ติดคุก
อะ ... อาจจะมีเขิล ๆ ชาวบ้านมั่งล่ะ
แต่ช่างมันค่ะ ไม่ได้ไปเป็นหนี้บนตู้กับข้าวบ้านเขาเนอะ
หยุดเครียด หยุดกลุ้ม
เลิกโอดครวญ เลิกโทษฟ้าโทษดิน
อย่าคิดสั้น อย่าวู่วาม
อย่าเข้าสู่ด้านมืด แล้วสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
ผมจะมโนว่าท่านมีหนี้สูงจ่ายไม่ไหวเลยนะ
แบบรายรับ - ค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อเดือน (ไม่รวมหนี้) เหลือแค่ 5-10%
แต่มีหนี้รวม ๆ ที่้ต้องชำระต่อเดือน อีกเป็นกระบุง
ซึ่งถ้าหนี้จุ๋มจิ๋มพอไถได้ ท่านคงไม่เครียดหรอกว่าแมะ ?
วิธีแก้หนี้มีดังนี้ จงปฏิบัติ
1. ถ้าหนี้อยู่ในระบบให้เข้าไปเจรจาเจ้าหนี้เลย
คุยตรง ๆ เลยครับ ยอมรับแบบแมน ๆ แอนด์ วู้แม่น ว่า
"ตอนนี้มีปัญหาสภาพคล่องอย่างมาก"
ขอลดดอกเบี้ยได้ไหม ?
ขอลดจำนวนการผ่อนลงได้ไหม ?
ขอหยุดผ่อนชั่วคราวได้ไหม ?
ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้เดี๋ยวมาว่ากัน
2. ขายสินทรัพย์ซะ
ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกนะว่าสินทรัพย์คืออะไร ถ้าแยกไม่ออก อ่าน "สินทรัพย์ : หนี้สิน แยกไม่ออกจน"
เช่นมี บ้าน-รถ-ของมีค่า ขายไปก่อนเถอะ
รู้ว่าทำใจลำบาก
แต่เชื่อสิ ท่านจะลำบากกว่าถ้าไม่ขายมัน
เหมือนยอมแพ้ศึกย่อย เพื่อชนะสงครามใหญ่
ถ้ายังไม่ตายก็ซื้อใหม่ได้ เชื่อสิ ผมรู้ ผมผ่านมาแล้ว
บ้านเช่าเอาก็ได้ - รถสาธารณะก็มี ใช้ไปก่อน
พอขายสินทรัพย์ได้เงินก้อนมา
ให้นำไปเคลียร์ "หนี้" ให้หมด
อ้าว...แล้วถ้าไม่มีสินทรัพย์ หรือมี ขายแล้วก็ยังเคลียร์หนี้ไม่หมดล่ะ ?
ให้ย้อนกลับไปข้อ 1. อีกครั้ง
บอกไปตรง ๆ เหมือนเดิม
เจรจา เจรจา และเจรจา
แต่ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมตามที่ขอ ไปข้อสุดท้าย
3. ยาแรงสุดคือ "หยุดจ่ายหนี้"
อ่านให้ดีนะ "หยุดจ่าย" ไม่ใช่ "เบี้ยวหนี้"
แต่ข้อนี้แลกกับการเสียเครดิตเลยนะ
แถมเจอทวงหนี้ทุกรูปแบบ
โทรศัพท์-จดหมาย-มาถึงออฟฟิศ
ก็ทนเอา บอกไปตรง ๆ แหล่ะ ไม่มีค้าบบบบ
ก็คือไม่ไหวอะเนอะ...
ระหว่างนี้สภาพคล่องจะคืนกลับมา
เพราะไม่มีภาระหนี้ต่อเดือนละ
ให้เก็บสะสมเงินที่เหลือจาก รายรับหักค่าใช้จ่ายจำเป็นไว้ทุกเดือน
ย้ำว่าต้องเก็บนะ เพื่อจะได้มีเงินไปจ่ายเมื่อถึงเวลา
6 เดือนถึง 1 ปี เจ้าหนี้ก็จะเริ่มฟ้อง ก็ฟ้องมา
ป่านนั้นท่านคงมีเงินเก็บและสภาพคล่องพอสมควรละ
"ย้ำคดีผิดชำระหนี้ เป็นคดีแพ่ง ไม่ติดคุก อย่าไปกลัว"
จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการเจรจา ประนอมหนี้
ทีนี้เจ้าหนี้จะเริ่มเข้าใจปัญหาเรา และยอมลดราวาศอก
เพราะเขาอยากได้เงินคืน
ก็เจรจาบนเงื่อนไขที่เราจ่ายไหว แล้วก็ชำระไปซะ
อะ...แล้วถ้าเกิดเป็นหนี้บ้าน-หนี้รถล่ะ
ไม่จ่ายเขาก็มายึดสิ ?
ก็ชิงขายไปก่อนสิครับ
อย่างน้อยก็ตัดภาระไป
รถอาจจะขาดทุน แต่หนี้ก็จะหายไปจำนวนมาก
หากขายได้แล้วเอาเงินส่วนนั้นไปจ่ายก่อน
ที่เหลือลองเจรจาดู หากไม่ยอม ก็ทำตามข้อ 3.
ส่วนบ้านตามสถิติ มักจะขายได้ราคา ไม่ค่อยขาดทุน
แถมดีไม่ดีจะได้กำไร เอามาจ่ายหนี้ในส่วนอื่นด้วย
แต่อย่าชิงหยุดจ่ายแล้วถูกยึดนะ
เพราะขายทอดตลาดจะได้ราคาต่ำ
เจ้าหนี้จะมาฟ้องเพิ่มทีหลังอีก
งานนี้บอกเลยว่า "เปิดก่อนได้เปรียบ ^^"
อะ...แล้วถ้าเป็นหนี้นอกระบบล่ะ
อันนี้ยากแฮะ...เสี่ยง Teen มาก
แต่เอาเบอร์ไปแล้วกัน
1599 - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
1155 - ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาไม่เป็นธรรม
1567 - ศูนย์ดำรงธรรม
1359 - ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ
025753344 - ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
เป็นหนี้แก้ได้ครับ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดสั้น
ใช้สติ แก้ไปทีละขั้นตอน อย่างมีวินัย
ไม่นานท่านจะหลุดพ้นจากวังวน
#การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ
#แต่มีหนี้แล้วก็ต้องใช้นะ ช้าเร็วก็ว่ากันไป
#เป็นหนี้ไม่ต้องอาย ไม่ตายหรอก แค่เขิล ๆ ^^
โฆษณา