10 ส.ค. 2020 เวลา 02:54 • ธุรกิจ
ถ้าพูดถึง ลี กา ชิง ในเกาะฮ่องกง คงไม่มีใครไม่รู้จักเขาและถือได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงที่ร่ำรวยติดอันดับโลก รวมถึงยังได้เคยถูกจัดให้เป็น “บุคคลที่มีอิทธิพล
มากที่สุดในเอเชีย” จากนิตยสาร Asia Week ในปี 2001 ซึ่งเรื่องราวการสร้างตัว
จากผู้ที่ไม่มีต้นทุนในชีวิตใดๆ เลย จนก้าวมาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับ
โลก และเป็นเจ้าของอาณาจักร “เฉิง กง” (Cheung Kong) ได้สร้างแรงบันดาลใจ
ให้แก่ผู้คนอย่างมากมาย และด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 35,300 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ จึงเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 23 ของโลก จากการจัดอันดับของ Forbes (July 2018)
ย้อนไปในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ครอบครัว ลี กา ชิง นั้นต้องอพยพหนีภัย
สงครามจากประเทศจีนมาเกาะฮ่องกง หลังจากนั้นพ่อเขาเสียชีวิต ทำให้เขาต้อง
ทำงานตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ เขาบอกว่าตอนเด็กต้องทำงานเป็นลูกจ้างกว่า 16 ชม. ต่อวัน บางเสาร์อาทิตย์ต้องทำทั้งวัน แต่ด้วยอุปนิสัยที่เขารักการอ่านมาก เขาจึง
สละเวลาเที่ยวเล่น เอามาอ่านหนังสือและพัฒนาตัวเอง คือ เขาเป็นคนที่จะเอาเวลา
ว่างที่มีทั้งหมดมาทำอะไรเพื่อเรียนรู้ โดยใช้เวลาช่วงกลางวันเป็นเซลส์แมนหาลูกค้า และใช้เวลาหลังเลิกงาน อยู่ดูสายการผลิตที่โรงงานเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถส่งของได้อย่างครบถ้วนตรงเวลา
ลี กา ชิง ในวัย19 ปี ได้รับการโปรโมท เป็นผู้จัดการทั่วไป ในเวลาเพียงหนึ่งปี และขึ้นเป็นผู้จัดการโรงงาน ในปีถัดมา
ถ้ามองย้อนไปตอนนั้น มันเป็นการ สละผลประโยชน์ความสุขชั่วคราวตรงหน้าที่ได้
เที่ยวเล่น แล้วทำการสั่งสมรากฐานที่สำคัญให้กับอนาคต เพราะฉะนั้น ลีกาชิง
จึงเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ “เวลา” อย่างมาก ต้องบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์ ทุกวันนี้ เมื่อใดที่ปลอดธุระ เขาก็จะยังอ่านหนังสือหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ
1
จากการที่เขาอ่านหนังสือเยอะมาโดยตลอด จึงทำให้เขาเหมือนมีฐานข้อมูลขนาด
ใหญ่อยู่ในหัว ทำให้เขาสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ของเศรษฐกิจ และรู้ถึง Cycle ของธุรกิจได้เป็นอย่างดี ตรงจุดนี้เองที่ทำให้เขามองเห็นโอกาสได้มากกว่าคนอื่น
และประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอยู่เสมอ
ในปี 1950 ลี กา ชิง ในวัย 22 ปี เขาใช้เงินสะสมทั้งหมดกว่า 1,750 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินยืมจากครอบครัวและเพื่อนๆ อีกรวม 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนตั้งโรงงานพลาสติกเล็กๆ ของตัวเอง ขึ้นทางตอนเหนือของเกาะฮ่องกง เขาตั้งชื่อมันว่า “Cheung Kong” (เฉิง-กง) โรงงานของเขาผลิตของใช้ในบ้านที่ทำจากพลาสติก เช่น
กล่องใส่สบู่และหวี
1
ถึงแม้ในช่วงแรกของการทำธุรกิจ จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก และทำหน้าที่
เกือบทุกอย่างในบริษัท เพื่อที่จะนำพาบริษัทของเขาอยู่รอดให้ได้ จากที่เขาได้
ติดตามข่าวสารและกระแสตลาดทั่วโลก ทำให้ทราบว่าประเทศตะวันตกต้องการ
ดอกไม้ประดิษฐ์ปริมาณมาก และเหมาะแก่การลงทุน จนในที่สุดจากธุรกิจผลิตพลาสติกเล็กๆ ของเขา ก็ก้าวไปสู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำมาจาก
พลาสติกรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย
หลังจากที่ธุรกิจดอกไม้พลาสติกของเขาประสบความสำเร็จ จึงทำให้เขาเริ่มมีทุน
มากขึ้น เขาจึง ได้ต่อยอดความสำเร็จของเขายิ่งขึ้นไปอีก โดยการดำเนินธุรกิจใน
หลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ อสังหาริมทรัพย์
ซึ่ง ลี กา ชิง ก้าวเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยบังเอิญในปี 1958 ขณะที่ธุรกิจ
ดอกไม้พลาสติกกำลังไปได้ด้วยดี เจ้าของที่ดินที่ให้เช่าทำโรงงานอยู่ ปฏิเสธที่จะทำ
สัญญาเช่าเกินกว่า 2 ปี เพื่อถือโอกาสขึ้นค่าเช่ามหาโหดทุกครั้งที่มีการต่อสัญญา
เขาจึงตัดสินใจสร้างโรงงานบนที่ดินของตัวเอง นับจากนั้นเป็นต้นมา “เขาเชื่อเป็น
อย่างยิ่งว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ดีที่สุดในอนาคต
เขาสามารถเห็นถึงอุปทานที่จำกัดของที่ดินในฮ่องกง ในขณะที่ประชากรจะเพิ่มขึ้น
อย่างไม่จำกัด”
ในช่วงปลายของทศวรรษที่ 1960 ธุรกิจที่ดินของ เขาเติบโตขึ้นอย่างมาก นักลงทุน
รายอื่นต่างหวาดกลัวเหตุการณ์ไม่สงบจากการประท้วงของฝ่ายซ้ายจัดในฮ่องกง
ทำให้เขาสามารถซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ชั้นดีได้ในราคาถูก ทำให้ อสังหาริม
ทรัพย์กลายมาเป็นธุรกิจหลักของ“Cheung Kong”
เมื่อ ลีกาชิง อายุ 29 ปี ได้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ และเป็นนักลงทุนหุ้นด้วยการซื้อ
ขายหุ้นสหรัฐเป็นครั้งแรก ใช้เวลาจากนั้น 13 ปีผ่านไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โต
อย่างน่าสนใจ ได้เวลาเอาเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงเพื่อกระชากพลังผลตอบแทน คู่ไปกับ โอกาสที่จะทวีคูณอาณาจักรธุรกิจ ให้มากกว่าทำอสังหาริมทรัพย์
ในปี 1972 เมื่ออายุ 43 ปี เขา ก็ได้นำ “Cheung Kong Holdings” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง และเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับสามของโลก หลังจากนั้นก็ตัดสินใจปิดโรงงานดอกไม้พลาสติกของเขาลง
ในปี 1979 เขาอายุ 50 ปี ได้เกิดวิกฤติในฮ่องกง โดยธุรกิจในฮ่องกงได้รับผล
กระทบอย่างมาก ฮัทชินสัน วัมเปา หนึ่งในบริษัทเทรดดิ้งขนาดใหญ่ของอังกฤษ
ประสบปัญหาทางการเงินและถูกซื้อกิจการโดยธนาคาร HSBC และด้วยความที่เขามีเงินสดจำนวนมาก เครดิตธนาคารมีไม่สิ้นสุด ทรัพย์สินที่โตวันโตคืนจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง ก็ต้องเข้าสูตรให้เงินทำงาน เขาจึงได้ซื้อกิจการ ฮัทชินสัน วัมเปา จากธนาคาร HSBC
ลีกาชิง ได้สร้างประวัติศาสตร์จากดีลนี้ จนกลายเป็นคนจีนคนแรกที่ซื้อกิจการต่าง
ชาติเป็นผลสำเร็จ และยังเป็นก้าวแรกของการเป็นเจ้าของอีกหลายธุรกิจต่อมา
ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญของอาณาจักรธุรกิจของเขา เช่น ธุรกิจท่าเรือ พลังงาน
โทรคมนาคม ค้าปลีกในกว่า 50 ประเทศ จุดนี้เอง ที่ทำให้ เขาขึ้นแท่นเป็นเจ้าของ
ธุรกิจบริการตู้สินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสำนักงานอยู่ใน 90 ประเทศทั่วโลก
และมีพนักงานถึง 2 แสนกว่าคน
ลี กา ชิง อายุ 86 ปี ได้ประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ โดยธุรกิจอสังหาริม
ทรัพย์ของบริษัทฉางเจียง และฮัทชิสัน วัมเปา จะถูกนำไปรวมกันเป็นบริษัทแห่งใหม่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ภายใต้ชื่อ "ซีเค พร็อพเพอร์ตี้"
2
จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาผ่านมากว่า 30 ปี อาณาจักรธุรกิจของ
อภิมหาเศรษฐี ลีกาชิง มีทั้งที่เป็นเจ้าของเอง และมีหุ้นอยู่ในธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเขาก็
ประสบความสำเร็จในทุกธุรกิจที่เขาทำ จนได้ฉายาจากชาวฮ่องกงว่าเป็น “ซุปเปอร์แมน” ยิ่งไปกว่านั้น ถึงขนาดมีบางคนกล่าวว่า ทุกอย่างบนเกาะฮ่องกงนี้ เป็นของ
“ลี กา ชิง” เลยทีเดียว
1
แนวคิด
1. ลี กา ชิงเป็นคนที่ตัดสินใจลงทุนแบบระยะยาว ชอบซื้อสินทรัพย์ราคาถูกแล้วค่อยขายตอนแพง เป็นคนที่สะสมข้อมูลไว้เยอะมาก เพื่อช่วยในการตัดสินใจครั้งสำคัญ ๆ เช่น ครั้งหนึ่งที่อสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงมีราคาตกต่ำอย่างมาก ใคร ๆ ก็อยากขาย ลีกาชิง ซื้อสะสมไว้หมด เพราะเขามองว่าเป็นเพียงวิกฤตชั่วคราวแต่เป็นโอกาสในระยะยาว โอกาสมาพร้อมวิกฤตเสมอ อยู่ที่ใครจะเตรียมตัวมากกว่า และมีสติพอที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองให้อยู่ในเหตุผลได้
2. สิ่งที่จะช่วยให้เราไปได้ไกล คือ เราต้อง “ขยันหมั่นเพียร” ความเพียรพยายามเป็นเงื่อนไขของความสำเร็จ และต้องไม่กลัวความล้มเหลว รวมถึงต้องมีความอดทนด้วย คนส่วนใหญ่มักจะดูที่ผลลัพธ์ ซึ่งมันคือปลายทาง ธุรกิจเขาโตมาขนาดนี้ได้ก็เพราะเขาทำงานหนักไม่ย่อท้อ
3
3. ลี กาชิง เป็นแบบอย่างของบุคคลที่ใช้ชีวิตเริ่มต้นมาจากความยากลำบาก ดังนั้นแนวคิดของเขาจะช่วยให้กำลังใจกับผู้คนว่าอย่าได้ท้อถอย แม้มีเงินเดือนน้อยหรือรายได้น้อยก็อย่าหมดหวังหมดกำลังใจ ยิ่งจนต้องยิ่งพากเพียรพยายามให้มากขึ้น และคอยสำรวจพัฒนาตนเองอยู่เสมอเพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับชีวิต เพราะลี กา ชิง เองก็เป็นแบบอย่างของบุคคลที่สามารถก้าวพ้นฐานะยากจนมาสู่ฐานะร่ำรวยได้ ด้วยความขยันศึกษาหาความรู้ ความหนักเอาเบาสู้ รู้จักคบคนเก่งสร้างเครือข่ายทางสังคมและธุรกิจไปพร้อม ๆ กับการทำงาน
4. สำหรับการดำเนินธุรกิจของ ลี กาชิง นั้น เขาจะคำนึงถึงการให้บริการลูกค้าอย่างดี และทำให้ลูกค้าพอใจเกินความคาดหวังเสมอ อย่างเรื่องเล่าดอกไม้ 101 ดอกที่มีชื่อเสียงที่ทำให้ลูกค้าแปลกใจว่ามีดอกไม้เกินมากล่องละ 1 ดอก ถ้าคุณกำลังให้บริการลูกค้าและทำให้ลูกค้ามากกว่าที่เขาคาดหวังไว้ เขาย่อมประทับใจคุณแน่นอน แนวคิดง่าย ๆ อย่างนี้เองแต่ได้ผลกลับมาแบบประเมินค่าไม่ได้
3
5. แนวคิด ของลี กา ชิง ทำให้ตระหนักได้ว่า คนเราต้องอย่าประมาทในการใช้ชีวิต ไม่ใช่ว่าจนแล้วจะทอดอาลัย หรือรวยแล้วก็ฟุ้งเฟ้อ แต่ต้องเป็นการสร้างตัวตนจากภายใน ต้องมีความรู้ความสามารถในการทำงานและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่สำคัญว่าตอนนี้คุณจะอยู่ในฐานะมนุษย์เงินเดือน ลูกจ้าง หรือผู้บริหาร คุณก็สามารถนำแนวคิดการสร้างตัวด้วยความอดทนและใฝ่รู้
1
ธุรกิจ ของ ลี กา ชิง
ร้านขายปลีกวัตสัน ที่มีในไทย ก็เป็นของเขา
ท่าเรือฮัทชินสัน ขนาดใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ก็เป็นของเขา
ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมชื่อดัง ที่คนไทยไปใช้บริการอย่าง ฮาเบอร์ พลาซ่า ก็เป็นของเขา
ลี กา ชิง
โฆษณา