ความหมายของชื่อ "คิชฌกูฏ"
คิชฌกูฏ : ‘[ภูเขา]มียอดดุจแร้ง’, ชื่อภูเขาลูกหนึ่งในเบญจคีรี (ภูเขาห้าลูก คือ ปัณฑวะ คิชฌกูฏ เวภาระ อิสิคิลิ และเวปุลละ ที่ล้อมรอบพระนครราชคฤห์) ซึ่งได้ชื่ออย่างนี้ เพราะคนมองเห็นยอดเขานั้นมีรูปร่างเหมือนแร้ง (อีกนัยหนึ่งว่า เพราะมีแร้งอยู่บนยอดเขานั้น), ยอดเขาคิชฌกูฏเป็นที่ซึ่งพุทธศาสนิกชนรู้จักกันมากแม้ในบัดนี้ เพราะเป็นที่ที่พระพุทธเจ้าประทับบ่อย และยังมีซากพระคันธกุฎี ที่ผู้จาริกมักขึ้นไปสักการบูชา.”
…………..
ดูก่อน
: เป็นแร้งยังฝากชื่อ ให้โลกลือในพุทธประวัติ
: เป็นคนไร้กุศลสมบัติ ก็อายสัตว์เสียชาติคน
#ตามเรื่องเล่าสืบต่อกันมา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาแร้งเลี้ยงดูบิดามารดาอยู่ที่คิชฌบรรพต ต่อมาวันหนึ่งเกิดพายุฝนห่าใหญ่พัดกระหน่ำ ฝูงแร้งไม่สามารถทนพายุฝนได้ พากันบินหนีตายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองพาราณสี
วันนั้น เศรษฐีชาวเมืองพาราณสีคนหนึ่ง ออกจากเมืองจะไปอาบน้ำเห็นฝูงแร้งเปียกมอมแมมอยู่ จึงหอบไปรวมกันในที่แห่งหนึ่ง ก่อไฟให้ผิงแล้วนำไปไว้ที่ป่าช้า นำเนื้อโคมาเลี้ยงพวกแร้งเป็นอย่างดี
เมื่อพายุฝนหยุดแล้ว ฝูงแร้งมีร่างกายเข้มแข็งแล้วพากันบินกลับรังที่ภูเขาตามเดิม วันหนึ่งฝูงแร้งจับกลุ่มปรึกษากันว่า
"พวกเรารอดตายมาได้ ก็เพราะการช่วยเหลือของเศรษฐีคนหนึ่ง พวกเราจะตอบแทนบุญคุณของท่านอย่างไรดี" จึงตกลงร่วมกันว่า
"ตั้งแต่วันนี้ไป แร้งตัวใดได้ผ้าหรือเครื่องนุ่งห่มใด ๆ ก็พึงคาบไปทิ้งที่บ้านเศรษฐีนะ"
นับแต่วันนั้นมาฝูงแร้งก็ดูทีเผลอของพวกมนุษย์ที่ตากผ้าไว้ที่กลางแดด ต่างพากันโฉบเฉี่ยวเอาผ้าไปทิ้งไว้ที่บ้านเศรษฐีเป็นประจำ เศรษฐีพอเห็นผ้านั้นแล้ว ก็นำไปเก็บไว้ในที่ส่วนหนึ่งต่างหากไม่นำเอามาใช้
ชาวเมืองเกิดความเดือดร้อนเพราะฝูงแร้งลักผ้าไป จึงเข้ากราบทูลพระราชา พระองค์รับสั่งให้ดักบ่วงและข่ายเพื่อจับพญาแร้ง เมื่อชาวเมืองจับพญาแร้งได้แล้ว จะนำไปถวายพระราชา เศรษฐีก็กำลังจะเข้าเฝ้าพระราชาเช่นกัน จึงเดินตามกันไป
พระราชาตรัสถามพญาแร้งว่า
"พวกเจ้าคาบผ้าชาวเมืองไปหรือ?"
พญาแร้งตอบว่า "จริง พระเจ้าข้า"
พระราชา "พวกเจ้าเอาไปให้ใคร"
พญาแร้ง "ให้เศรษฐี พระเจ้าข้า"
พระราชา "ทำไมละ"
พญาแร้ง "เพราะเศรษฐีช่วยเหลือชีวิตของพวกข้าพระองค์จึงต้องตอบแทนบุญคุณ .. พระเจ้าข้า"
พระราชาตรัสถามอีกว่า "เขาลือกันว่า แร้งเห็นซากศพได้ ถึง ๑๐๐ โยชน์มิใช่หรือ เหตุไร พวกเจ้ามาใกล้ข่ายและบ่วงแล้วก็ไม่รู้สึกตัวเล่า"
พญาแร้งตอบเป็นคาถาว่า
"เมื่อใดสัตว์มีความเสื่อมในขณะจะสิ้นชีวิต เมื่อนั้นนถึงจะมาใกล้ข่ายและบ่วงก็ไม่รู้"
พระราชาตรัสถามเศรษฐีว่า "เป็นจริงตามนั้นหรือไม่ ท่านเศรษฐี"
เศรษฐีได้กราบทูลว่า "จริงพระเจ้าข้า ขอพระองค์โปรดทรงปล่อยแร้งตัวนี้ไปเถิด ข้าพระองค์จะคืนผ้าเหล่านั้นแก่เจ้าของเดิม พระเจ้าข้า"
พระราชาจึงรับสั่งให้ปล่อยแร้งไปตามเดิม เศรษฐีก็คืนผ้าให้แก่เจ้าของเดิมไป