สรุปหนังสือ “Daytrade Hunter – เครื่องจักรผลิตเงินสด” เขียนโดย กระทรวง จารุศิระ
เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเทรดหุ้นแบบ Daytrade หรือการเทรดหุ้นเพื่อหากระแสเงินสดรายวัน
เขียนโดยแฟนพันธ์แท้ตลาดหุ้น คุณกระทรวง จารุศิระ
ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้ไม่มีวางขายในร้านหนังสือแล้ว ต้องหาหนังสือมือ 2 แทน ซึ่งราคามือสองไปถึง 3,000 -4,000 บาทแล้ว หรือ ราคาขึ้นไปจากราคาปกหนังสือกว่า 10 เท่า !!!
ข่าวดี...คือวันนี้แอดมินหยิบมาอ่านอีกครั้งและทำสรุปมาให้ทุกคนได้อ่าน !!!
1) Daytrade – การหากระแสเงินสดในช่วงสั้น จากความผันผวนของตลาดหุ้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบในวัน แต่ปกติจะไม่เกิน 5 วัน
2) หุ้นที่มีราคาสูงเช่น SCC และหุ้นที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่เหมาะกับการ Daytrade
3) สาย Scalper เน้นอ่านที่ Ticker และ Volume
4) สายกราฟ ประเภท Runtrend ถ้ากราฟยังเป็นขาขึ้นก็จะไม่ขาย หรืออาจขายด้วยการวัดเป้าแบบ Fibonacci
5) Daytrade อาจใช้กราฟ Tf สั้น (Tf – Timeframe) เทรดได้ แต่ข้อเสียคือเจ้ามือชอบสับขาหลอก เพราะเจ้ามือก็ดูกราฟ
6) หุ้น Daytrade จะมีให้เล่นทุกวัน ให้สังเกตจาก Top Gainer
7) การเล่นแบบ Daytrade ใช้การตัดสินใจที่เร็วในการเทรด และหุ้นตัวเล็กจะจบรอบไว
8)Daytrade ไม่เหมาะกับการปั้นพอร์ตให้เติบโต เหมาะกับการสร้างกระแสเงินสด
9) จำนวนเงินที่เหมาะสมในการ Daytrade คือ 1 ล้านบาท การทำกำไร 1% เราจะได้ผลตอบแทน 10,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถทำได้
10) การ Daytrade ต้องมีความรู้และประสบการณ์ที่เพียงพอ ต้องมอบตัวให้เป็นและแก้เกมส์ให้เป็น
11) คนที่มีภาระหนี้ไม่ควร Daytrade เพราะจะเครียดมาก ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุที่เทรดได้ไม่ดี
12) Mindset คือ หลักที่ใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจในการเทรด ซึ่งเกิดจากทฤษฏี ประสบการณ์ และอุปนิสัย
13) การ Daytrade เน้นที่กระแสเงินสดทุกวัน ดังนั้นต้องมีกระสุนตลอดเวลา ต้องมีกลยุทธ์ในการเทรด ต้องมีวินัยในการ Stop loss และทำกำไรตามแผน
14) ถ้า Mindset พัง จะฟื้นยาก ไม่กล้าซื้อหุ้น มักเกิดกับคนที่ขาดทุนหนักและต้องออกจากตลาดไป
15) Mindset Daytrade ไม่เหมือนกับ Mindset ของการ Runtrend
16) อารมณ์ที่รบกวนการเทรด – โลภ กลัว เสียดาย และรู้งี้
17) ความสูญเสียอารมณ์จะรุนแรงกว่าความสุขที่หน่วยเดียวกัน เช่น ขาดทุน 1 แสนบาท อารมณ์เสียใจมากกว่า กำไร 1 แสนบาท ดังนั้นการรักษาจิตใจในการเทรดเป็นเรื่องสำคัญ
18) ท่าตายของเทรดเดอร์ – ซื้อหุ้นด้วยจำนวนที่ไม่เหมาะสม เช่นวาง Bid – Offer หลักหมื่นแต่ไปซื้อหุ้นหลักล้านสุดท้ายออกของไม่ได้ เจ้ามือถอนบิดออก , บางคนไปซื้อหุ้นตามกลุ่ม Line ไปหลงเชื่อข่าวลวง , เทรดเดอร์บางคนไมเช็คปฏิทินเจอวอร์แรนต์หมดอายุ ไม่สามารถขายได้ก็ทำให้ขาดทุนหนักได้
19) คนที่ Daytrade ต้องไม่เชื่อข่าวอินไซต์ ไม่มีใครหวังดีกับเงินของเราเท่ากับตัวของเราเอง
20) Daytrade เหมือนกับการออกรบ ออกรบร้อยครั้งแล้วรอดกลับมาได้ก็จะได้ทักษะใหม่ ๆ ร้อยครั้ง เล่นหุ้นตัวไหนก็จะได้สกิลของหุ้นตัวนั้นกลับมา
21) ไม่มีใครสามารถซื้อหุ้นที่ต่ำสุดและขายหุ้นที่สูงสุดได้ ถ้าทำได้คือบังเอิญ
22) เจ้ามือรู้กราฟเทคนิค สร้างกราฟเพื่อหลอกให้รายย่อยทำตาม ดูได้จากการเกิด Breakout และเกิด False Break รวมถึงการทำให้ราคาหุ้นหลุดแนวรับ แล้ว Stoploss สุดท้ายราคาดึงกลับขึ้นมา
23) เจ้ามือมักสร้าง Story ที่น่าสนใจในการดึงให้รายย่อยเข้าไปเล่น เช่น แตกพาร์ ทำธุรกิจใหม่ แจกวอร์แรนต์ เพิ่มทุน PP เป็นต้น
24) Stock Quadrant คือการนำกราฟและพื้นฐานมาใช้ร่วมกันเพื่อคัดกรองหุ้น แบ่งหุ้นหุ้นพื้นฐานดี เป็น A พื้นฐานปานกลาง B และพื้นฐานแย่ C ด้านเทคนิค ขาขึ้นเป็น A Sideway เป็น B และ ขาลงเป็น C
25) หุ้นที่เหมาะกับการเทรด AA พื้นฐานดี ขาขึ้น หรือ BA พื้นฐานปานกลาง ขาขึ้น หลีกเลี่ยงหุ้นที่พื้นฐานแย่และกราฟขาลง
26) Stock Quadrant สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หุ้นพื้นฐานดี อาจกลายเป็นพื้นฐานแย่ได้ หุ้นพื้นฐานปานกลางอาจเป็นหุ้นพื้นฐานดีได้ เป็นต้น
27) เครื่องมือที่ใช้ Daytrade เน้นเครื่องไม่เยอะ เช่น แนวรับ – แนวต้าน , Trend Line – Speed Line, เส้นค่าเฉลี่ย ,Fibonacci และ Price Pattern
28) เส้นค่าเฉลี่ยสัญญาณจะช้า จุดที่ใช้ยืนยันการเป็นขาขึ้นคือ Golden Cross หรือ การที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดระยะยาวขึ้น
29) ลักษณะของหุ้นวอลุ่มเข้า คือ มีความใหญ่ของวอลุ่มในการเข้าซื้อ ซึ่งไม่ใช่รายย่อ และ ความต่อเนื่องในการเข้า อาจเป็นไม้เล็กแต่มีความสม่ำเสมอในการเข้าได้
30) Bidบาง-Offer บาง เกิดในช่วงต้นเทรนด์ ต้องรอ Ticker Buy ในการ Confirm
31) Bid บาง Offer หนา น่าสนใจ Market Maker วางขวางเพื่อเก็บของ เมื่อได้ของครบแล้วราคาผ่านแนวต้าน หุ้นจะวิ่งขึ้นแรง
32) Bid หนา Offer บาง ไม่ดี เกิดในช่วงปลายเทรนด์ เจ้ามือออกของ หลอกรายย่อย
33) Bid หนา Offer หนา มีทั้งขึ้นและลง ต้องดูกราฟประกอบ ถ้าเกิดต้นเทรนด์จะเบรกแนวต้านและไปไกลมาก ถ้าปลายเทรนด์เป็นการออกของ
34) 4 รูปแบบ ในการ Daytrade คือ ไม้ตกใจ , Breaout , Buy on dip และ Channel Trade
35) ไม้ตกใจ ทำกราฟให้หลุด Low เก็บของคืน เห็นแท่งเขียวใน Tfสั้นสามารถซื้อได้ เป้าออกตามแนวต้าน
36) Breakout เวลาหุ้นจะขึ้นจะผ่านแนวต้านสำคัญ ความแม่นยำ 30% False break บ่อย ถ้าดู Offer จะหนา ถ้าเทรดแบบ Breakout แล้วแรงขายแบบ Big Black คือจบเกมส์
37) Buy On Dip ซื้อที่แนวรับ EMA 5,15,35 แนวโน้มขาขึ้น บวกพื้นฐานดี สามารถใช้ EMA ซื้อได้ ข้อดีคือ Reward สูง Risk ต่ำ เหมาะกับมือใหม่ เวลาขายให้ขายตามแนวต้านหรือวัดเป้า Fibo ออก
38) Chanel Trade คือการเทรดในกรอบแนวรับ-แนวต้าน ซื้อที่แนวรับ ขายที่แนวต้าน
39) เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องเทรดทั้ง 4 รูปแบบ สามารถเลือกรูปแบบเดียวและเทรดให้ชำนาญก็สามารถทำเงินในตลาดได้
#STOCKJIBJIB
#สรุปหนังสือDaytradeHunter
- 93
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
