Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
พระเยซู.. เป็นทางรอด
•
ติดตาม
14 ส.ค. 2020 เวลา 01:34 • การศึกษา
ทำไมเข้าถึงพระเจ้าไม่ได้?
"เมื่ออิสอัคแก่ตามัว ท่านก็เรียกเอซาวบุตรคนโตของท่านมา และกล่าวแก่เขาว่า <<ลูกเอ๋ย>> เขาตอบว่า <<ขอรับ>> เจ้าจงเอาอาวุธของเจ้า คือแล่งธนูและคันธนูออกไปที่ท้องทุ่ง หาเนื้อมาให้พ่อ จัดเตรียมอาหารอร่อยมาให้พ่อ อย่างที่พ่อชอบนั้น และนำมาให้พ่อกิน เพื่อจะได้อวยพรแก่เจ้าก่อนพ่อตาย>>
เมื่ออิสอัคพูดกับเอซาวบุตรชายนั้น นางเรเบคาห์แอบฟังอยู่ เมื่อเอซาวออกไปท้องทุ่งเพื่อหาเนื้อมา เรเบคาห์จึงพูดกับยาโคบบุตรของนางว่า <<แม่ได้ยินพ่อของเจ้าพูดกับเอซาวพี่ชายของเจ้าว่า <จงนำเนื้อมาให้พ่อและจัดอาหารอร่อยให้พ่อกิน และเราจะอวยพรเจ้าต่อพระพักตร์พระเจ้าก่อนพ่อตาย> เพราะฉะนั้น ลูกเอ๋ยจงฟังคำของแม่ตามที่แม่สั่งเจ้า ไปที่ฝูงแพะแกะ นำลูกแพะดีๆสองตัวมาให้แม่ แม่จะเอามันปรุงอาหารอร่อยให้พ่อเจ้า อย่างที่ท่านชอบ และเจ้าจะต้องนำไปให้พ่อเจ้ารับประทานเพื่อว่าท่าน จะอวยพรเจ้าก่อนท่านสิ้นชีวิต>>
ยาโคบพูดกับเรเบคาห์มารดาของตนว่า <<ดูเถิด เอซาวพี่ของฉันเป็นคนมีขนดก และฉันเป็นคนเกลี้ยงเกลา พ่อของฉันคงจะคลำตัวฉัน และเห็นว่าฉันหลอกลวงท่าน แล้วนำการสาปแช่งมาเหนือฉันเอง หาใช่นำพรมาไม่>> มารดาพูดกับเขาว่า <<ลูกเอ๋ย ขอให้การสาปแช่งของเจ้าตกอยู่กับแม่เถิด เชื่อฟังคำของแม่เท่านั้น ไปเอาลูกแพะมาให้แม่เถิด>> เขาจึงไปจับเอามาให้มารดา มารดาของเขาได้จัดอาหารอร่อยอย่างที่พ่อของเขาชอบนั้น แล้วเรเบคาห์นำเสื้ออย่างดีที่สุดของเอซาวบุตรชาย คนโตของนาง ซึ่งอยู่กับนางในเรือนมาสวมให้ยาโคบบุตรคนเล็กของนาง เอาหนังแพะหุ้มมือและคอที่เกลี้ยงเกลาของเขา แล้วนางก็มอบอาหารอร่อยและขนมปัง ซึ่งนางจัดทำนั้นให้ยาโคบบุตรชายของนางถือไป
เขาจึงเข้าไปหาบิดาและพูดว่า <<พ่อครับ>> และท่านว่า <<พ่ออยู่นี่ ลูกเอ๋ย เจ้าคือใคร>> ยาโคบตอบบิดาของตนว่า <<ลูกเป็นเอซาวบุตรหัวปีของพ่อ ลูกทำตามที่พ่อสั่งลูกแล้ว เชิญลุกขึ้นนั่งรับประทานเนื้อที่ลูกหามาเถิด เพื่อพ่อจะได้อวยพรแก่ลูก>> แต่อิสอัคพูดกับบุตรชายของตนว่า <<ลูกเอ๋ย เจ้าทำอย่างไรจึงพบมันเร็วนัก>> เขาตอบว่า <<เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพ่อทรงบันดาลให้ลูก>> แล้วอิสอัคจึงพูดกับยาโคบว่า <<ลูกเอ๋ย มาใกล้ๆ พ่อจะได้คลำดูเจ้า เพื่อจะได้รู้ว่าเจ้าเป็นเอซาวบุตรชายของพ่อแน่หรือไม่>> ยาโคบจึงเข้าไปใกล้อิสอัคบิดา อิสอัคคลำตัวเขาแล้วพูดว่า <<เสียงก็เป็นเสียงของยาโคบ แต่มือเป็นมือของเอซาว>> ท่านก็จับผิดไม่ได้ เพราะมือของเขามีขนดกเหมือนมือเอซาวพี่ชายของเขา ท่านจึงอวยพรแก่เขา ท่านถามว่า <<เจ้าเป็นเอซาวบุตรชายของพ่อจริงหรือ>> เขาตอบว่า <<ใช่ครับ>> ท่านจึงว่า <<นำแกงมาให้พ่อ พ่อจะได้กินเนื้อที่บุตรชายของพ่อหามา แล้วอวยพรเจ้า>> ยาโคบจึงนำมันมาให้ท่าน ท่านก็รับประทาน ยาโคบนำเหล้าองุ่นมาให้ท่านและท่านก็ดื่ม
แล้วอิสอัคบิดาของเขาจึงพูดกับเขาว่า <<ลูกเอ๋ยเข้ามาใกล้และจุบพ่อ>> เขาจึงเข้ามาใกล้และจุบท่าน และท่านก็ดมกลิ่นที่เสื้อของเขา และอวยพรเขาว่า <<ดูซิ กลิ่นลูกชายข้า เหมือนกลิ่นท้องทุ่งซึ่งพระเจ้าทรงอวยพระพร ขอพระเจ้าทรงประทานน้ำค้างจากฟ้าแก่เจ้า และประทานความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน ทั้งพืชและเหล้าองุ่นใหม่มากมายแก่เจ้า ขอให้ชนชาติทั้งหลายรับใช้เจ้า ขอให้ประชาชาติกราบไหว้เจ้า ขอให้เป็นเจ้านายเหนือพี่น้อง และบุตรชายมารดาของเจ้ากราบไหว้เจ้า ผู้ใดแช่งสาปเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นถูก สาป และผู้ใดอวยพรเจ้าก็ขอให้ผู้นั้นได้รับพร>>
พออิสอัคอวยพรยาโคบเสร็จ และยาโคบออกไปพ้นหน้าอิสอัคบิดา เอซาวพี่ชายก็กลับจากการล่าเนื้อ เขาเตรียมอาหารอร่อยนำมาให้บิดา เขาพูดกับบิดาว่า <<ขอพ่อลุกขึ้นรับประทานเนื้อที่ลูกชายหามา เพื่อจะได้อวยพรลูก>> อิสอัค บิดาพูดกับเขาว่า <<เจ้าคือใคร>> เขาตอบว่า <<ฉันคือลูกชาย ลูกหัวปีของพ่อ คือเอซาว>> พอได้ฟังดังนั้น อิสอัคก็ตัวสั่น พูดว่า <<ใครเล่าที่ไปล่าเนื้อ แล้วนำมาให้พ่อ พ่อกินหมดแล้วก่อนเจ้ามาถึง และพ่ออวยพรเขาแล้ว เป็นที่แน่ว่า เขาจะได้รับพร>>
เมื่อเอซาวได้ยินบิดากล่าวเช่นนั้นก็ร้อง ออกมาเสียงดังด้วยความขมขื่น และพูดกับบิดาว่า <<คุณพ่อครับ ขออวยพรผม ขออวยพรผมด้วย>> แต่ท่านพูดว่า <<น้องเจ้าเข้ามาหลอกพ่อ เอาพรของเจ้าไปเสียแล้ว>> เอซาวพูดว่า <<เขามีชื่อว่ายาโคบก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือ เพราะเขาหลอกฉันสองหนเข้านี่แล้ว เขาเอาสิทธิบุตรหัวปีของฉันไป และคราวนี้เขาเอาพรของฉันไปอีกด้วย>> แล้วเขาพูดว่า <<พ่อมิได้สงวนพรไว้ให้ฉันบ้างหรือ>> อิสอัคตอบเอซาวว่า <<พ่อตั้งให้เขาเป็นนายเหนือเจ้า และมอบพี่น้องของเขาให้เป็นคนใช้ของเขา ทั้งพืชและเหล้าองุ่น พ่อก็จัดให้เขา ลูกเอ๋ย พ่อจะทำอะไรให้เจ้าได้อีกเล่า>> เอซาวพูดกับบิดาว่า <<พ่อครับ พ่อมีพรแต่เพียงพรเดียวเท่านั้นหรือ พ่อครับ ขออวยพรลูก ขออวยพรลูกด้วย>> แล้วเอซาวก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้
อิสอัคบิดาของเขาจึงตอบว่า <<ที่อาศัยของเจ้าจะอยู่ห่างจากความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และห่างจากน้ำค้างจากฟ้าเบื้องบน แต่เจ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยดาบ และเจ้าจะรับใช้น้องชายของเจ้า แต่เมื่อเจ้าสลัดหลุดไปได้ เจ้าจะหักแอกของเขาออกจากคอของ เจ้า>>
ปฐมกาล 27:1-40 TH1971
https://bible.com/bible/275/gen.27.39-40.TH1971
IYF องค์กรที่สามารถสำแดงได้ชัดเจนถึงการมีอยู่ของพระเจ้า ซึ่งเป็นทางออกทางเดียวต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ การพยายามด้วยกำลังความสามารถหรือด้วยวิถีทางอื่นนั้นมีแต่จะเสียเวลาเหมือนติดอยู่ในวังน้ำวน ทุ่มเทไปแค่ไหนจะกลับมาสู่จุดที่เหนื่อยเปล่าเสมอ
ซึ่งกุญแจที่ทำให้IYFสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้ก็คือการติดตามผู้ซึ่งพระเจ้าเลือกคืออ.อ้อคซูพารค เพราะพระเจ้าทำงานเช่นนี้ตลอดทุกยุคสมัยในการเปิดเผยทิศทางการทำงานของพระองค์ คือให้มีตัวแทนพระองค์เกิดขึ้นในแต่ละยุค นับตั้งแต่ประวัติศาสตร์มนุษย์ได้ถือกำเนิดขึ้น
การตามทิศทางที่พระเจ้านำชีวิตก็จะง่ายเหมือนการว่ายตามน้ำ และในทางตรงกันข้ามการไม่สนใจพระเจ้าแต่ไปตามความคิดของตนชีวิตก็จะยากลำบากเหมือนว่ายทวนกระแสน้ำเชี่ยวกราก ซึ่งไม่ได้มีแต่น้ำแต่มันมีเศษวัสดุลอยมาซึ่งสามารถทำอันตรายถึงชีวิตเราได้ด้วย ตรงนี้หลายคนไม่คิดแล้วก็ปล่อยให้ความคิดลาก
เพลินๆไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าความคิดเหล่านั้นมันมาจากวิญญาณชั่วซึ่งพยายามฆ่าทำลายชีวิตตัวเองและผู้อื่นอยู่
หลายคนก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ คือไม่เชื่อว่าพระเจ้าทำงานแบบนี้ และไม่เชื่อว่ามีวิญญาณชั่วที่กำลังหลอกและพยายามทำร้ายตัวเองด้วย ก็เลยพยายามที่จะติดตามพระเจ้าด้วยสติปัญญาของตัวเองไม่ยอมติดตามสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทาง
คริสตจักรซึ่งกำลังประกาศความจริงจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ผลลัพธ์ก็จะเป็นอย่างที่กล่าวมา เพราะพระเจ้าไม่ได้รับรองวิธีการเหล่านั้น หลายคนหลายศาสนาเชื่อว่ามีพระเจ้าแต่ไม่ยอมรับว่าพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นการเปิดเผยของพระเจ้า และไม่เชื่อว่าพระเจ้ากำลังทำงานผ่านทางบรรดาผู้ที่เชื่อในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล สุดท้ายก็เลยทะเลาะกันเรื่องความเชื่อ เพราะต่างคนต่างมีพระเจ้าในแบบฉบับของ"ตัวเอง"
พระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็พยายามจะบอกความจริงนี้ให้กับผู้คน เหมือนกับเรื่องที่ได้ยกมาตอนนี้ซึ่งพระเจ้าสอนเป็นอุปมา พ่อกำลังเล็งถึงพระเจ้าและแม่เล็งถึงพระเยซูหรือผู้ซึ่งพระเจ้าทรงเลือกในแต่ละยุคสมัยซึ่งมีพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตย์อยู่ และเอซาวกับยาโคบกำลังเล็งถึงคนสองประเภทคือประเภทแบบเอซาวที่เชื่อในกำลังสติปัญญาของตัวเอง คนประเภทนี้ชีวิตมีแต่เรียกเอาการแช่งสาปเข้ามาสู่ตนเองและคนรอบข้าง และอีกประเภทแบบยาโคบซึ่งรับการจูงนำจากแม่ทิ้งวิถีทางของตนเองแต่รับการแนะนำจากคนของพระเจ้า คนแบบนี้คือลักษณะของผู้ที่ได้รับพรและสามารถจะไปแนะนำหรือช่วยเหลือผู้อื่นต่อได้
ซึ่งหลายศาสนาที่เชื่อว่ามีพระเจ้าตอนนี้ ก็ผิดนับเริ่มตั้งแต่ผู้นำที่วางรากฐานแล้ว คือถูกวิญญาณชั่วหลอกใช้ตัวผู้นำนับแต่เริ่ม ก็ให้หมายสำคัญหลายๆอย่างเพื่อผู้คนที่ชอบอะไรแบบนั้นจะได้ติดบ่วง คือกับคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องความจริงเรืองความรอดพ้นจากความบาป ถ้าสนใจกับเรื่องนี้ก็ไม่ถูกหลอกไปกับทางเหล่านั้นง่ายๆ เพราะทางเหล่านั้นไม่สามารถจะให้ได้กับการหลุดพ้นออกจากความบาป มีแต่จับคนให้ติดอยู่กับความบาปคือวางใจกับบางสิ่งของโลกเนื้อหนังนี้ไม่ได้สนใจเรื่องจิตวิญญาณ เชื่อพระเจ้าแบบศาสนาทั่วไปคือวัดความดีเลวกันด้วยกฏบัญญัติ ใครเคร่งหรือทำได้มากกว่าก็จะถูกนับว่าเป็นคนดี ทั้งๆที่ในสายพระเนตรพระเจ้าทุกคนจิตใจสกปรกชั่วร้ายเหมือนกันทั้งหมด ไม่มีใครดีกว่า
การมุ่งหวังที่จะให้สิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิตจากความพยายามตั้งใจของตัวเองจึงเป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะมันจะได้ในสิ่งที่ตรงกันข้ามคือกลายเป็นการแช่งสาปที่จะเข้ามาแทนเหมือนที่เอซาวได้รับ
แต่การที่เชื่อตามพระคำได้รับการจูงนำจากคนของพระเจ้านี่ต่างหากคือหนทางที่จะช่วยให้ชีวิตสามารถได้รับพรและมีความสุข
1 บันทึก
2
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย