Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Reporter Journey
•
ติดตาม
14 ส.ค. 2020 เวลา 15:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ
มาเลเซีย GDP ไตรมาส 2 ร่วง -17% หนักสุดในอาเซียน
แย่สุดนับตั้งแต่วิกฤติ “ต้มยำกุ้ง”
เหมือนเป็นการแข่งกันเป็นอันดับ 1 ในด้านการติดลบทางเศรษฐกิจของอาเซียน เพราะล่าสุดวันนี้ธนาคารกลางมาเลเซียประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ GDP เทียบแบบ YOY ในไตรมาส 2 ปี 2563 ติดลบถึง 17.1% นับเป็น DEEP DOUBLE DIGIT CONTRACTION ติดกันในปีนี้จากไตรมาสแรกของปี 2563 ที่ +0.7% นับเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 22 ปี หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540
ปัจจัยก็เป็นเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสวิด – 19 ที่ส่งผลต่อภาคการบริโภคภายในประเทศให้ลดลงจากมาตรการ Lockdown ประเทศ ขณะเดียวกันเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าต่างๆ ของมาเลเซียเองก็อ่อนแอเช่นเดียวกันส่งผลต่อการส่งออก รวมไปถึงมาตรการปิดชายแดนของมาเลเซีย ส่งผลต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว
สำหรับประเทศต่างๆ ในอาเซียนที่มีการประกาศตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสที่ 2 ออกมาแล้วมีทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่
เวียดนาม: + 0.36%
อินโดนีเซีย: - 5.32%
สิงคโปร์: - 13.2%
ฟิลิปปินส์: - 16.5%
มาเลเซีย: -17.1%
ส่วนประเทศไทยคาดว่าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2563 ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ หรืออาจภายในสัปดาห์หน้า
1
สำหรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของมาเลเซียมีการพึงพาการส่งออกเป็นสำคัญโดยเฉพาะสินค้าอิเลคทรอนิคส์ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว ปิโตรเลียม น้ำมันปาล์ม ยาและเวชภัณฑ์ทางการแพท ทำให้มาเลเซียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากประเทศคู่ค้าที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะสถานการราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลมาเลเซียเผชิญกับปัญหาการจัดเก็บรายได้จากการส่งออกน้ำมัน ซึ่งเป็นรายได้สำคัญสำหรับการรักษาระดับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศให้อยู่ในระดับต่ำ จากการใช้เงินอุดหนุนของกองทุนน้ำมันแทรกแซงราคา
หนึ่งปัญหาใหญ่ของมาเลเซียคือการทุจริตคอรัปชั่นครั้งมโหฬารยักยอกเงินของกองทุน 1 Malaysia Development Berhad (1MDB) หรือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมาเลเซีย ในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ซึ่งมีมูลค่ากว่า 172,800 ล้านบาท
และอีกปัญหาที่สะสมมานานของมาเลเซียก็คือหนี้สาธารณะที่สูงเกินกว่าเพดานหนี้ต่อ GDP ที่ไม่เกิน 60% เนื่องจากมาเลเซียมีสัดส่วนหนี้สาธารณะสูงถึง 80% ราว 8 ล้านล้านบาท ในขณะที่ GDP มาเลเซียมีมูลค่าราว 9.5 ล้านล้านบาท ซึ่งมาเลเซียมีหนี้แทบจะท่วมประเทศ (หนี้สาธารณะไทยนับถึงสินเดือนมิถุนายน 63 อยู่ที่ 6.3 ล้านล้านบาท หรือ 40.45% ของ GDP ประเทศที่ 17 ล้านล้านบาท)
โดยมีสาเหตุมาจากนโยบายการคลังขาดดุล เพื่อลงทุนโครงการสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะการสร้างเมืองหลวงใหม่อย่างปุตราจายาในปี 1990 ที่ส่งผลต่อหนี้สาธารณะที่สูงจนทะลุเพดานในปี 2000 รวมทั้งโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่รัฐร่วมลงทุน เช่น อาคารสูงที่ยังไม่มีผู้เช่าเต็มจำนวน โครงข่ายรถไฟฟ้า สนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง KLIA2 และอื่นๆ อีกมากมาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานภาครัฐที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ แต่สร้างหนี้สินเป็นจำนวนมากนั่นเอง
อย่างไรก็ตามทุกประเทศคาดว่าในปี 2564 ภาพรวมของเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นบวกอีกครั้ง ภายใต้ปัจจัยการมีวัคซีนที่สามารถใช้ได้ผลจริง
7 บันทึก
57
4
13
7
57
4
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย