14 ส.ค. 2020 เวลา 18:40 • ธุรกิจ
อนาคตของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
อนาคตฮ่องกงกับบทบาทฮับการเงินโลก หลังจีนประกาศกฎหมายความมั่นคง-สหรัฐถอดสถานะพิเศษไปแล้ว
ผ่านมาแล้วครึ่งปีพอดี คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างจะวุ่นวาย เพราะนอกจากทั่วโลกจะกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในบางประเทศแล้ว ก็ยังเกิดข้อพิพาททางการค้าและการเมืองด้วย
หนึ่งในประเด็นที่ร้อนแรงที่สุดในปีนี้คงหนีไม่พ้นการที่สภานิติบัญญัติจีนเพิ่งไฟเขียวบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง
สหรัฐก็ได้เริ่มกระบวนการถอดสถานะพิเศษฮ่องกง เพื่อเป็นเครื่องมือกดดันรัฐบาลจีนในทางอ้อมอันเป็นผลจากกฎหมายดังกล่าว
“คาดว่าฮ่องกงยังมีความสำคัญในระดับโลก แม้อาจจะมีแต่บริษัทจีน”
เป็นที่คาดกันว่า ฮ่องกงจะรั้งตำแหน่งศูนย์กลางทางการเงินที่มีความสำคัญในระดับโลกต่อไป เพราะทุกวันนี้ จีนได้เข้ามามีอิทธิพลมากขึ้นในระดับสากลอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และฮ่องกงก็เป็นช่องทางเดียวที่นักลงทุนต่างชาติ "ไว้วางใจมากพอ" ที่จะใช้เป็นทางผ่านเพื่อลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่
เรย์ ดาลิโอ เจ้าพ่อกองทุนเฮดจ์ฟันด์ผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงการลงทุน เคยกล่าวไว้ว่า โลกกำลังจะเปลี่ยนไปโดยจีนกำลังไล่ตีตื้นสหรัฐในการเป็น "อาณาจักรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก" ซึ่งเขามองว่า ขณะนี้สหรัฐยังเป็นอันดับหนึ่ง แต่จีนกำลังมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ และไต่อันดับแซงประเทศอื่น ๆ จนเหลือเพียงสหรัฐเท่านั้น
การที่จีนมีอิทธิพลเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกนั้น ย่อมทำให้นักลงทุนทั่วโลกหันมาลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ฮ่องกงในฐานะช่องทางการลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่นั้นมีความสำคัญในระดับสากลต่อไป โดยอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ เสรี หรือเปิดกว้างมากที่สุด แต่ก็มีความสำคัญ
โฆษณา