16 ส.ค. 2020 เวลา 05:53 • การตลาด
OK Herbal (โอเคร นะคะ)
ขอบคุณภาพจาก marketeer
ลอรีอัล ประเทศไทย เผยตลาดความงามปี 62 โต 6.7% สู่ 2.18 แสนล้านบาท ส่วนปีนี้แสนท้าทาย เหตุวิถีชีวิตใหม่ทำคนใส่หน้ากากตลอดเวลา–แต่งหน้าน้อยลง เร่งปรับกลยุทธ์รับมือ
อินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยข้อมูลตัวเลขอุตสาหกรรมความงามของประเทศไทยในปี 2562 โดยมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.18 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 6.7% โดยสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ยังครองอันดับ 1 ที่สัดส่วน 42% อันดับ 2 คือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผม 15% ขณะที่เครื่องสำอางครองสัดส่วนอยู่ 12% หากเจาะลึกลงไปในกลุ่มสกินแคร์ที่มีสัดส่วน 42% นั้นคิดเป็นมูลค่า 9.19 หมื่นล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าครองสัดส่วนมากที่สุดคือ 81% ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย 12%
ส่วนสินค้ากลุ่มเมคอัพมีมูลค่าราว 2.68 หมื่นล้านบาท โดยสินค้าเกี่ยวกับหน้ามีสัดส่วน 57% ตามมาด้วยสินค้าเกี่ยวกับปาก 25% และดวงตา 17%
ขณะที่สินค้ากลุ่มเส้นผมที่มีมูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท 82% มาจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม 13% มาจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสีผม และอีก 4% มาจากผลิตภัณฑ์จัดทรง
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Forbes Thailand
ถ้าจากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่ามูลค่าตลาด เฉพาะสีผม จะอยู่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มเติมข้อมูลให้อีกนิด เพราะในเรื่องของสีผมเองยัง แบ่งได้เป็น segment ใหญ่ๆ อีก 2 segments คือ 1.ปิดผมขาว และ 2.แฟชั่น
และแน่นอน segments ข้างต้นก็ค่อนข้างจะแบ่งกลุ่มเป้าหมายไว้ชัดเจนในตัวเอง
1.ปิดผมขาว ก็จะเป็นครีมเปลี่ยนสีผมประเภท สีดำ น้ำตาล เป็นหลักโดยมีวัตถุประสงค์ปกปิดผมหงอกสีขาว ให้เป็นสีดำ หรือใกล้เคียง กลุ่มเป้าหมายก็จะเป็น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องสีผมเป็นหลัก
2.แฟชั่น ก็จะเป็นครีมเปลี่ยนสีผม ที่มีสีสันหลากหลาย ซึ่งในกลุ่มนี้ก็จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมทำสีผมตามสมัยนิยม หรือตามความชอบส่วนตัว
ในวันนี้เราจะมาพูดถึง แชมพูเปลี่ยนสีผม OK Herbal ที่มีคุณแพนเค้ก เป็นพรีเซ็นเตอร์
ภาพจากโฆษณา OK Herbal
แชมพู เปลี่ยนสีผม ถูกพัฒนา มาเพื่อตอบสนองความต้องการในยุคสมัยใหม่ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป
จากเดิม ผู้บริโภคจะต้องใช้ครีมย้อมผม และต้องเข้าร้านเสริมสวยเป็นผู้ทำให้ ซึ่งในแต่ละครั้งก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน อย่างน้อยก็ต้องทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 30 นาที
ปัญหาของครีมย้อมผมคือมีสารเคมี ที่เป็นอันตราย และมีกลิ่นค่อนข้างฉุน ส่งผลให้เมื่อทำบ่อยๆ ก็เป็นปัญหากับหนังศีรษะ ที่สะสมเป็นเวลานาน ผู้ผลิต จึงพัฒนาลดกลิ่นฉุนของส่วนผสมลง และบางแบรนด์ก็นำส่วนผสมของธรรมชาติมาใช้เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
พัฒนาขั้นต่อมา ผู้ผลิตก็เริ่มหันมาจับกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ไปถึงขั้น end users โดยเพิ่มอุปกรณ์ในการย้อมสีผมเข้าไปในกล่องเพื่อให้ end users เป็นผู้ทำเองอย่างง่ายได้ด้วยตนเอง
เดินทางมาถึงปัจจุบันถูกพัฒนามาเป็นแชมพู เปลี่ยนสีผม เพื่อความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นตอบสนองกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความรวดเร็ว ในชีวิตประจำวัน
โฆษณาของ OK Herbal ทำได้ตรง concept สั้นกระชับได้ใจความ ฟังแล้วติดหูตั้งแต่ครั้งแรก โดยใช้ตัวเดินเรื่อง เป็นคำว่า OK เหมือนกับการย้อมผมง่ายๆ ด้วยแค่นับ 1-2-3 เท่านั้น จีงไม่แปลกที่วันนี้ เราจะรับรู้ว่าแชมพูเปลี่ยนสีผมตัวนี้ช่างใช้ง่ายจริงๆ
และ ก็ไม่แปลกอีกเช่นเดียวกันถ้าเราจะรู้สึกติดหู เพราะ OK Herbal อัดโฆษณา เยอะเหลือเกิน จากข้อมูลเป็นแบรนด์ที่ ใช้งบโฆษณาติดอันดับ 1ใน10 แบรนด์ที่ใช้งบสูงสุด 2 ปีแล้ว
ขอบคุณภาพจาก Marketeer
แต่การอัดฉีดโฆษณาเยอะ ไม่ได้หมายความว่า จะประสพความสำเร็จ แต่ต้องมีพื้นฐานจากการสื่อสารที่ชัดเจน และสามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจได้อย่างง่าย และ OK Herbal ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง สื่อสารและแก้ไขปัญหา ที่เป็นข้อกังวลต่างๆ ครบถ้วน ทั้งเรื่อง กลิ่น เรื่องเวลา และสารสกัดจากธรรมชาติ มาครบจบในตัวเดียว
ภาพจากโฆษณา OK Herbal
และสุดท้าย ไม่ลืมที่จะบอกว่ามีจำหน่ายที่ไหน
ภาพจาก โฆษณา OK Herbal
ขอบคุณข้อมูล จาก Forbes Thailand และ marketeer และ OK Herbal และอื่นๆ ที่ผมอาจตกหล่น
ขอบคุณที่ติดตาม ฝากกด like กด share และ ร่วม comment เพื่อเป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ 🙏🙏😁
โฆษณา