16 ส.ค. 2020 เวลา 06:41 • ข่าว
28 ล้านคนในสหรัฐฯ กำลังกลายเป็นคนไร้บ้าน
ถูกผู้ให้เช่าฟ้องไล่ เศรษฐกิจชะงัก ตกงาน ไร้เงิน
6
มันคงเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของชาวอเมริกัน หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล การหยุดชะงักของธุรกิจจากมาตรการ “ปิดเมือง” กำลังทำให้อเมริกันชนราว 28 ล้านคนจะไม่มีที่ซุกหัวนอน เพราะรายได้ที่จะต้องมาจ่ายค่าเช่าบ้าน หรืออพาร์ตเมนต์ กำลังจะหมดลงในไม่ช้า
นับว่าเป็นวิกฤตคนไร้บ้านครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในรอบ 13 ปี หลังจากที่สหรัฐประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงครั้งล่าสุด (Great Recession) ในช่วงปี 2007-2009 ซึ่งตอนนั้นมีชาวอเมริกันถูกไล่ออกจากบ้านราว 10 ล้านคน
ธุรกิจที่หยุดชะงักมานานหลายเดือน ส่งผลให้เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงิน การปลดพนักงานจำนวนมหาศาลจึงเกิดขึ้นแทบในทุกภาคส่วนห่วงโซ่อุตสาหกรรม ซึ่งตัวเลขผู้ยื่นขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในสหรัฐฯ ตอนนี้พุ่งสูงถึง 44 ล้านคนแล้ว
ในจำนวนคนตกงานประมาณ 28 ล้านคน มีบางส่วนที่ไม่ได้รับเช็คเงินช่วยเหลือจากการว่างงานของรัฐบาลกลางมูลค่า 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม ส่วนผู้ที่ได้รับเช็คดังกล่าวนี้ก็ได้รับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายเมื่อเดือนที่แล้ว และยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะมีการต่อระยะเวลาการจ่ายเงินช่วยเหลือออกไปอีกด้วย
ซึ่งถ้าหากไม่มีเงินช่วยเหลือตรงนี้เข้ามา หลายล้านคนก็จะไม่มีเงินไปจ่ายค่าเช่าที่พัก สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการสำรวจเดือนพฤษภาคมโดย American Apartment Owners Association ซึ่งพบว่าเกือบ 60% ของเจ้าของบ้านกล่าวว่าผู้เช่าของพวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ และจากข้อมูลของ Eviction Lab ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันพบว่า เจ้าของบ้านหรือเจ้าของที่พักได้ยื่นฟ้องขับไล่แล้วเกือบ 35,000 คดี
ก่อนหน้านี้สภาครองเกรสได้มีคำสั่งคุ้มครองการเลื่อนการชำระหนี้เป็นเวลา 4 เดือน เพื่อปกป้องผู้เช่าบ้านประมาณ 12 ล้านคนจากการขับไล่ ซึ่งมันได้สิ้นสุดลงเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว ผู้ให้เช่าในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศกำลังรอการฟ้องขับไล่
ในขณะที่รัฐต่างๆ พยายามปกป้องผู้เช่าจากการถูกขับไล่ผ่านการเลื่อนการชำระหนี้ แต่การเลื่อนการชำระหนี้บางส่วน "จำกัดเฉพาะประชากรบางกลุ่มเท่านั้น พวกเขาไม่ได้รับการเลื่อนการชำระหนี้ที่ควบคู่ไปกับความช่วยเหลือทางการเงิน"
นอกจากนี้ยังไม่มีการเลื่อนการชำระหนี้ระดับรัฐจากการขับไล่ใน 29 รัฐ
ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา วุฒิสมาชิก กมลา แฮร์ริส ได้ออกตัวร่างพระราชบัญญัติที่สามารถห้ามการขับไล่และการยึดสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 1 ปีสำหรับผู้เช่าและเจ้าของบ้าน เรียกว่าพระราชบัญญัติการสงเคราะห์ นอกจากนี้ยังสามารถอนุญาตให้ผู้เช่าชะลอการจ่ายค่าเช่าภายในระยะเวลา 18 เดือน
แต่ดูเหมือนว่าในแต่ละรัฐเองอาจจะยังไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เพราะหากต้องใช้กฎหมายนี้จริง รัฐจะต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ให้เช่าเป็นเงินนับพันดอลลาร์ตอเดือนทุกราย ซึ่งเป็นงบประมาณที่มหาศาล
แม้ตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ของเดือนนี้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าสถาการณ์จะกลับมาคลี่คลายในเร็ววัน เพราะตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงเปอร์เซ็นต์เล็กๆ ไม่กี่แสนราย แต่ว่าคนตกงานนับสิบๆ ล้านคน ที่อนาคตยังคงมืดมน
การไม่มีที่อยู่อาศัยเพื่อหลับนอนหลบแดดหลบฝน มันคือเรื่องที่แย่ที่สุด เพราะที่อยู่อาศัยมันคือปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิตของมนุษย์ และหนทางการเยียวยาที่ยังคงไม่ชัดเจน ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนอเมริกัน 28 ล้านคนในสหรัฐฯ ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะถ้าหากมีการฟ้องขับไล่ ก็เท่ากับว่ากลายเป็นคนไร้บ้าน และสะพานลอย อาคารเก่ารกร้าง คงเป็นที่พักอาศัยของคนเหล่านี้แทน
โฆษณา