Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A
A major 🎶
•
ติดตาม
19 ส.ค. 2020 เวลา 07:45 • ดนตรี เพลง
เก่ง อธิป กับเรื่องเล่า “จากเกลียดจนกลายเป็นรัก”
จริงหรือไม่ ที่โบราณบอกไว้ว่า "เกลียดสิ่งไหน ได้สิ่งนั้น" ?
คุณเชื่อในประโยคนี้มั้ย? คุณเคยมีประสบการณ์ตรงตามประโยคที่ว่านี้รึเปล่า?
สำหรับ เก่ง อธิป นักร้อง นักแต่งเพลง นักดนตรี และโปรดิวเซอร์เพลงแล้ว เขาได้เจอกับประโยคที่ว่านี้เข้าเต็มๆ และผลของมัน ยังอยู่กับเขา กลายเป็นตัวตนของเขา มาจนทุกวันนี้
ตั้งแต่วัยเด็ก จนเริ่มเข้าวัยรุ่น เก่งคิดเสมอว่า ถ้าหากตัวเองมีโอกาสได้เป็นนักร้อง เขาจะทำเพียงแค่การร้องเพลงเท่านั้น เขาจะไม่มีวันเล่นดนตรีเด็ดขาด เขาไม่ชอบการเล่นดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการจับเครื่องดนตรีชนิดไหนขึ้นมาเล่น เขาไม่เคยทำและไม่คิดจะทำ
เก่ง อธิป กับกีตาร์คู่ใจ
แล้วเรื่องราวบนเส้นทางสายดนตรีของเก่งเป็นมายังไง ทำไมเขาถึงได้มาเป็นนักร้อง และเป็นนักดนตรี ที่มีกีตาร์คู่กาย คู่ใจอยู่แบบนี้ - ผู้สัมภาษณ์เริ่มคำถามเพื่อเข้าเรื่อง
เก่งเริ่มเล่า พร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่นในแบบฉบับของเขาว่า “สำหรับการหัดเล่นกีตาร์ของผม เริ่มขึ้นในตอนที่ผมกำลังจะเริ่มทำวงลูกหินครับ ตอนนั้นเนี่ย เป็นการเริ่มเล่นแบบกึ่งไฟล์ทบังคับ เพราะเมื่อผมได้ทราบว่าจะได้ออกอัลบั้มในนามวงลูกหิน ร่วมกับน้องร็อค (ดนตรี เดชะ - ผู้สัมภาษณ์) ซึ่งมีคอนเซ็ปท์คือ ‘เป็นวงดูโอเด็กที่ร้องและเล่นกีตาร์ด้วยตัวเอง’ ผมก็ต้องเริ่มหัดเล่นกีตาร์อะครับ”
เราชวนเค้าคุยถึงอายุในตอนนั้น เก่งเล่าว่า ในตอนนั้น เขาอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น และด้วยความที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเล่นดนตรี หรือจะต้องมาเป็นนักดนตรี ดนตรีและกีตาร์ มันดูเป็นเรื่องไกลตัวมากๆ สำหรับเขา
เก่งเริ่มเล่าต่อ ด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นมากขึ้น ว่า “แรกๆ คือ ผมรู้สึกว่า โอ้ย… ทำไมมันลำบากยากเย็นอย่างนี้!”
“ตอนนั้นคือ ผมต้องเรียนและซ้อมกีตาร์ วันละประมาณ 7-8 ชั่วโมงเลยอะครับ ตอนจับกีตาร์แรกๆ ผมเริ่มที่กีตาร์คลาสสิค ซึ่งผมไปเรียนกับอาจารย์สมศักดิ์ พาราพิทักษ์ ที่สถาบันดนตรียามาฮ่าครับ ตอนนั้นยังต้องนั่งชันเข่าขึ้นมาเพื่อประคองกีตาร์ไว้ ตอนหัดจับคอร์ดทีละคอร์ด ก็ยิ่งรู้สึกว่า ‘มันยากกกกก!’”
“แต่ก็นั่นแหละครับ ในเมื่อมันเป็นเงื่อนไขแรกที่ผมจะต้องทำมันให้ได้ ถ้าผมอยากจะเดินตามความฝัน ผมก็ต้องทำ และต้องผ่านมันไปให้ได้ครับ” แววตาของเก่งสะท้อนให้เราเห็นถึงความมุ่งมั่น เมื่อเขาย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวของตัวเองในอดีต
เก่ง อธิป ในวัยเพียง 14 ปี ร้องเพลงพร้อมกีตาร์ในคอนเสิร์ตหนึ่ง
“ต่อมา ผมก็ไปเรียนกีตาร์แจ๊สกับอาจารย์วุฒิ ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากรครับ” (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิชัย เลิศสถากิจ คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร - ผู้สัมภาษณ์)
“การหัดเล่นกีตาร์ของผมเนี่ย เริ่มต้นเลย เพลงแรกที่เริ่มเล่นก็คือ ‘Hotel California’ ของวง Eagles แล้วคือ เพลงนี้มันเป็นเพลงระดับโลกอะ แต่เราต้องมาเริ่มเล่นเพลงนี้ให้เป็น และก็ต้องเล่นให้ทันกำหนดวันโชว์ด้วยครับ เพราะตอนนั้นมีงานโชว์งานแรกที่ต้องเปิดตัววงลูกหิน เราก็เลยต้องใช้เพลง ‘Smells Link Teen Spirit’ ของ Nirvana อีกเพลงครับ”
นี่นึกว่า คนหัดเล่นดนตรี เพลงแรกๆ ที่เค้าเริ่มหัดเล่นกันน่าจะเป็นเพลง “หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว” ซะอีก - ผู้สัมภาษณ์ถามเก่งกลับไป ปนเสียงหัวเราะ
เก่งหัวเราะเสียงดังกว่ากลับมา แล้วตอบว่า “นั่นนะสิครับ เคสของผมนี่ดูจะข้ามขั้นไปมากเลยครับ 555”
“หลังจากที่ผมใช้เวลาอยู่กับกีตาร์ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน… ผมก็รู้สึกคุ้นเคยกับกีตาร์มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นความรักเลยครับ”
“ตรงนี้เองครับ ที่ทำให้ผมนึกถึงคำโบราณที่ว่า ‘เกลียดสิ่งไหนได้สิ่งนั้น’ เป็นสิ่งที่ผมเห็นชัดเจนมาตั้งแต่เด็กครับ 5555” เก่งหัวเราะพร้อมแววตาที่สดใส
เราชวนเก่งคุยต่อ ถึงเรื่องราวการออกอัลบั้มในยุคนั้น (ช่วงปี 2544) ซึ่งวงลูกหิน ถือเป็นวงของศิลปินดูโอเด็กวงแรกของไทยที่เล่นกีตาร์ด้วยตัวเอง และสื่อมวลชนในสมัยนั้น ได้ให้ฉายาสองหนุ่มน้อยวงลูกหินว่า “คู่หูดูโอมหัศจรรย์”
เก่งเล่าให้ฟังต่อว่า “สำหรับการเริ่มต้นทำเพลงวงลูกหินเนี่ย มันเป็นอะไรตื่นเต้นและก็ท้าทาย มากๆ (เก่งเน้นเสียงคำว่า มาก-มาก เพื่อเพิ่มอรรถรสในเรื่องเล่าของเขา) … สำหรับเด็กคนนึงในช่วงเวลานั้น เพราะว่า ผมรู้ล่วงหน้าก่อนเวลาจะออกอัลบั้มเพลงประมาณไม่ถึง 4- 5 เดือนเลยครับ”
มินิซีดี ซีดีเพลงของวงลูกหิน ที่ออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดเท่าบัตร
“ตอนนั้น โปรดิวเซอร์ของผม คือ พี่รงค์ - ณรงค์ เดชะ ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องร็อค คู่หูทางดนตรีของผม บอกกับผมและคุณพ่อคุณแม่ว่า ‘น้องจะต้องออกเพลงในอีก 3-4 เดือนนี้แล้วนะครับ แล้วจะต้องออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ ในตอนนั้น เราต้องไปออกรายการน้าเหลือม-พี่ไก่ สมพล รายการเกมฮอต เพลงฮิต แล้วแบบ… จะดังเปรี้ยงไปเลยครับ ในยุคนั้นคือ จะเปลี่ยนชีวิตไปเลยครับ เค้าบอกให้เราตั้งหลักดีๆ เพราะว่าน้องจะมีชื่อเสียงตั้งแต่เด็กๆ เลยนะ ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ นึกภาพไม่ออกเลยครับว่า ตรงนี้มันคืออะไร…”
เราชวนเก่งคุยต่ออีกนิดหน่อยเกี่ยวกับเพลงในอัลบั้มลูกหิน ซึ่งเราจำได้ว่า เก่งร้องเพลงช้าชื่อเพลง “ฮือ… ฮือ” ที่มีเนื้อร้องว่า
“ฮือๆๆ ฮือๆๆๆๆ ฮือๆๆ ฮือๆๆๆๆ ฮือ… ร้องไห้มันออกมา
ฉันถอยแล้วเธอ ฉันไม่ดึงเธออีกแล้ว เธอไม่ต้องห่วง
ฉันรู้ว่าเธอ ต้องไปตามแรงโน้มถ่วง ที่เกิดจากเธอรักเขา…”
และการที่เราชวนคุยถึงเพลงนี้ ด้วยความเป็นคนอารมณ์ดีของเก่ง เขาจึงร้องเพลงท่อนแรกให้เราฟัง พร้อมรอยยิ้ม
เมื่อฟังเพลงย้อนอดีตกันไปแล้ว เราก็สัมภาษณ์เก่งต่อ เราถามเขาว่า จำได้มั้ยว่า หลังจากที่เล่นกีตาร์ จนรักกีตาร์ และรักเสียงดนตรีไปด้วยแล้ว เขามีกีตาร์อยู่กี่ตัว
เก่งตอบมาว่า “กีตาร์ตัวแรกในชีวิต คือยามาฮ่า โปร่งไฟฟ้า จำได้เลยว่าตอนนั้น คุณพ่อซื้อให้ ยังจำราคาได้อยู่เลยครับ คือ 17,000 บาทในสมัยนั้นครับ เพื่อที่ว่าจะได้เอาไปฝึกเพลง Hotel California ครับ แล้วตัวต่อมาก็คือ ต้องซื้อกีตาร์ที่ใช้ออกอัลบั้มวงลูกหินครับ คือตัวสีแดงครับ เป็นตัวที่ 2 (ในภาพที่ 2 ด้านบน) กีต้าร์สีแดงตัวนี้ ยี่ห้อ Musicman รุ่น Albert Lee ครับ“
“แล้วต่อมาตัวที่ 3 ก็เป็น Taylor ครับ ตัวนี้เก่งเก็บเงินซื้อเอง ส่วนตัวที่ 4 ก็เป็น Martin คือตัวที่ใช้อยู่ทุกวันนี้… แล้วนอกจากนี้ ยังมีตัวเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมซื้อมาเก็บสะสมไว้อยู่ครับ แต่จริงๆ ไม่เยอะครับ มีประมาณ 6 ตัวครับ 6 ตัวในชีวิต… แต่ทุกวันนี้เก็บอยู่น้อยแล้วครับ”
เราเลยตอบเก่งกลับไปว่า “ใช้กีตาร์แค่ 6 ตัวเองหรอ อยู่ในวงการดนตรีมาเกือบ 20 ปีแล้ว แสดงว่า เก่งต้องเป็นคนรักและเห็นคุณค่าของสิ่งของที่ใช้มากๆ เลยนะนี่”
เก่งตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มว่า “ครับ”
คำถามต่อไปที่เราถามเก่งคือ ช่วงที่ซ้อมกีตาร์นานที่สุด กี่ชั่วโมงต่อวัน?
เมื่อฟังคำถามจบ เก่งหัวเราะเสียงดัง “ฮาๆๆ…” แล้วตอบว่า “พูดไปแล้วเหมือนตัวเองเห็นภาพในอดีตย้อนกลับมาครับ คำตอบคือ เกิน 12 ชั่วโมงครับ เพราะว่า… เก่งจับกีตาร์ แล้วตอนนั้นได้ซื้อแอมป์ (amplifier หมายถึง เครื่องขยายเสียง หรือลำโพง) ตัวเล็กๆ ยี่ห้อ Washburn รุ่น Bad dog มาครับ นี่ผมยังจำชื่อรุ่นได้อยู่เลย เรากำลังเห่อมากเลย แล้วเราก็ต่อกีตาร์ไฟฟ้าตัวสีแดงเล่นครับ เล่นไป เล่นมา เล่นอยู่บนเตียง เอาข้าวขึ้นมาทานบนห้อง จับอยู่อย่างนั้นวนไปวนมา”
“จำได้ว่า ฟังเพลงของพี่ปราโมทย์ วิเลปะนะ ตอนนั้น ก็แกะคอร์ดทั้งอัลบั้มเลยครับ อัลบั้มที่มีเพลง คืนที่ดาวเต็มฟ้านะครับ ก็หลับไป แล้วกอดอยู่กับกีตาร์เลยครับ แล้วก็ตื่นขึ้นมาเล่นอีกครับ เป็นอยู่อย่างนั้น เป็นวันๆ คืนๆ เลยครับ คือนานสุดก็ประมาณ 12 ชั่วโมงครับ”
เมื่อถามคำถามเกี่ยวกับการเล่นกีตาร์นานที่สุดไปแล้ว เราเลยถามต่อเก่งอีกว่า ช่วงที่ไม่ได้เล่นกีตาร์นานที่สุด นานแค่ไหน และรู้สึกยังไง
เก่งอมยิ้มแล้วตอบกลับมาว่า “น่าจะเป็นช่วงที่โตแล้ว ก็คือช่วงนี้เลยครับ ช่วงประมาณ 2-3 ปีหลังๆ นี้ครับ คือเรามีภาระหน้าที่อย่างอื่นที่เข้ามา ไม่ว่าจะงานด้านต่างๆ หรือธุรกิจต่างๆ ที่ผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบครับ… คือเราก็จะมีเวลาในการซ้อมกีตาร์น้อยลง แต่ว่า… มันทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เพราะเราไม่ได้เล่นกีตาร์เพราะบทเรียน ไม่ได้เล่นมาจากแบบฝึกหัด แต่เราเล่นแบบ learn by heart เล่นด้วยใจแล้วครับ”
“อย่างเวลาเรานั่งอยู่ในรถ เราฟังเพลงอะไร ก็ไม่ต้องจับกีตาร์ครับ แต่คอร์ดมันจะประมวลผลในหัวเอง คอร์ดมันจะหลุดออกมาเลย เพราะฉะนั้น มันจึงทำให้ผมแต่งเนื้อเพลงสดๆ ได้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครับ”
เก่ง อธิป กับกีตาร์ ซึ่งเปรียบเป็นอวัยวะที่ 33 ของเขา
คำถามอีกคำถามที่เราถามเก่ง คือ เคยหลับคากีตาร์มั้ย?
เก่งหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง แล้วบอกว่า “นี่เป็นคำถามที่ดีมากๆ ถูกใจผมมากๆ เลยครับ… คือเมื่อกี้ที่ผมเล่าไปแล้วครับว่า ผมเคยซ้อมกีตาร์เกิน 12 ชั่วโมงแล้วก็กอดกีตาร์ หลับคากีตาร์ไปเลยครับ พอตื่นมาก็มาเล่นกีตาร์ต่อ ประมาณแบบ… เกินครึ่งวันไปเลยด้วยซ้ำครับ”
“อีกเรื่องครับ… คือผมก็เป็นครูมาตั้งแต่เด็กๆ ใช่มั้ยครับ มีช่วงนึงที่ผมสอนอยู่ที่ Superstar Academy (ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น Superstar College of Arts) คือเราก็ทำงานไปด้วย เป็นนักพากย์ไปด้วย และไปสอนที่ทองหล่อด้วย ตอนนั้นคือ เรารู้สึกว่า เราหมดแรงมากเลย เรากลับบ้านดึกๆ แล้วก็ต้องตื่นเช้ามาสอนตอน 10 โมงครับ สอนลูกศิษย์จับกีตาร์ แล้วมีช่วงนึงที่ผมเผลอหลับไปเลยครับ หลับแบบทั้งๆ ที่มือยังเล่นกีตาร์ต่อหน้าลูกศิษย์ คอร์ดมันไปเอง ลูกศิษย์ก็ร้องเพลงอยู่ พอสุดท้าย… ลูกศิษย์เป็นคนสะกิดไหล่ ปลุกผม แล้วบอก ‘ครูครับ…ครูครับ… ตื่นครับ!’
คือตอนนั้น เค้าเห็นว่าผมหลับไปแล้ว เค้าเห็นว่าผมก้มหน้าลง แล้วผมเล่นคอร์ดวิ่งไปเรื่อยๆ แล้วนักเรียนเค้าก็งง แล้วบอก ‘ครู…ครูหลับจริงจังมากเลยครับ’ คือตอนนั้น ผมหมดแรงไปเลยอะ… คือพอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา แบบขำมากเลยครับ” เก่งหัวเราะต่อ เราเลยหัวเราะตามเก่งไปด้วย
“ผมเอะใจกับตัวเองเลยครับว่า… แสดงว่า จิตใต้สำนึกของเรามันคือแบบ… by heart แล้วจริงๆ… เราเล่นดนตรีด้วยสัญชาตญาณและจิตวิญญาณ คือเราไม่ได้เล่นด้วยการมองเห็น เราไม่ได้เล่นด้วยความจำ แต่เราเล่นด้วย soul และเล่นด้วย spirit แล้ว มันลึกไปกว่านั้นอีก”
“เพราะฉะนั้น… ผมให้ความเคารพและเชื่อมั่นมากๆ ในการที่เราจะอยู่ในเส้นทางสายนี้ด้วยคำว่า ‘ตัวจริง’ ครับ เพราะว่า… ตัวจริง เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อหลีกหนีจากตัวตน หรือเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองให้ดิบขึ้น ให้เซอร์ขึ้น เพราะแต่ละคนมีปัจเจกของตัวเอง บางคนเซอร์ๆ ดิบๆ มาจากธรรมชาติของเค้า แล้วมันดูจริง และไม่ขัดกับธรรมชาติ เค้ามีความสุขในสิ่งที่เป็น สิ่งนั้นก็จะยั่งยืน และผมว่าสิ่งนี้แหละครับ คือสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อเราเคารพในสิ่งที่ตนเองเป็น ก็เท่ากับว่าเราให้เกียรติคนฟัง และเคารพคนฟังเช่นเดียวกันครับ”
เราวกกลับมาที่คำตั้งต้นของบทสัมภาษณ์นี้ คือวลีที่ว่า “เกลียดสิ่งไหน ได้สิ่งนั้น” เก่งชวนเราคุยว่า “ผมเคยนึกเล่นๆ ครับว่า… เอ๊ะ ถ้าผมเกลียดกีตาร์ ผมต้องเล่นกีตาร์ เล่นเป็นจนรักกีตาร์ และรักเสียงดนตรีไปด้วย ถ้างั้นผมขอเกลียดเงินได้มั้ยครับ เพราะถ้าเกลียดสิ่งไหน ได้สิ่งนั้น เราอาจจะได้บ้างเล็กน้อยนะครับ… แล้วถ้าเกิดว่าใครที่กำลังตามหาความรัก ลองเกลียดความรักดูนะครับ คุณอาจจะเจอความรักก็ได้นะครับ” แล้วเก่งก็หัวเราะแบบอารมณ์ดี
คำถามสุดท้ายของการสัมภาษณ์ในวันนี้คือ หลังจากที่เล่นกีตาร์จนชำนาญแล้ว เคยมีช่วงไหนที่รู้สึกเบื่อกีตาร์มั้ย? แบบ… วางไว้ก่อน ไม่อยากจับแล้ว?
เก่งตอบมาแบบชัดถ้อยชัดคำ ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “คำตอบนี้ คือ ไม่มีครับ 555 (แล้วเขาก็หัวเราะ) เพราะผมรู้สึกว่า… กีตาร์เค้าเป็นส่วนนึงของเราไปแล้วครับ เหมือนอวัยวะที่ 33 ครับ ถ้าขาดเค้าไป เราจะไม่สมบูรณ์ในตัวเองครับ”
“ทุกครั้งที่ผมมีปัญหาหรือเครียดอะไร หรือตอนมีความสุข อยากจะพูดอะไร ผมจะมาลงที่เพลงหมดเลยครับ เค้าเหมือนเป็นตัวแทนในหัวใจและมันสมองของผมครับ”
เก่งทิ้งท้ายบทสัมภาษณ์ไว้ว่า “สำหรับผม… และกีตาร์ มันคือ… ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ ยิ่งเจอก็ยิ่งต้องอยู่ใกล้ ยิ่งอยู่ใกล้ก็ไม่สามารถห่างได้ เลยต้องพยายามที่จะเรียนรู้ เข้าใจและยอมรับ จนกลายเป็น ‘ความรัก’ และ กลายเป็น ‘ตัวตน’ ครับ”
แบบนี้เราจะเรียกว่า “จากเกลียดจนกลายเป็นรัก” ได้มั้ย - ผู้สัมภาษณ์ถามเก่งกลับไป
เก่งยิ้มกว้างและตอบกลับมาว่า “ใช่เลยครับ ได้เลยครับผม”
สำหรับเก่ง อธิป แล้ว กีตาร์คือเพื่อนรู้ใจที่เขาพาไปด้วยในทุกๆ ที่
เจ้าของเรื่องเล่า เรื่องราวดีๆ สร้างพลัง และแรงบันดาลใจ :: เก่ง - อธิป เจริญชัยสกุลสุข
Facebook Fanpage: Atip Official
https://www.facebook.com/atip.keng
Facebook: Atip Keng Charoenchaisakulsuk
https://www.facebook.com/keng.atip
YouTube: Atip Channel
2 บันทึก
5
12
2
5
12
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย