17 ส.ค. 2020 เวลา 04:05 • ดนตรี เพลง
VJ นักสังเกตุการณ์ความเหงา
บนดวงดาวคู่ขนาน
EP.2 การเผชิญหน้ากับ สายเปย์
อาชีพหลักของฉันคือการเล่นดนตรี
นี่จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลง
แต่โควิท เปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยนทุกสิ่ง ความจริงที่ต้องยอมรับคือ ฉันจะหาเงินอยู่รอดได้อย่างไรในช่วง ที่ไม่มีรายได้ จากการเล่นดนตรีทางไหนเลย "ตรงนี้ ตอนนี้" คือมีแต่งาน Application แล้ว---จริงๆ ใช่แล้ว งาน VJ นั่นแหละ---
บางคนเรียกมันว่า New Normal แต่จากการอยู่เป็นผู้สังเกตการณ์ ความ Normal นั้นไม่ New
ในโลกใบเดียวกัน ที่ผู้คนใช้เวลากับสาระ ในชีวิตจริง แต่ที่นั่นมีสาระ อันตั้งอยู่เป็นสารณะ เลยว่าได้
งานวีเจ เป็นอย่างไรน่ะเหรอ มาฉันจะเล่าให้ฟัง
ถ้ากระแสในสังคมที่พอจะหลุดออกมาให้คุณรับรู้หรือได้ยินบ้าง
คุณเคยรับรู้ถึงการ "เขียนหน้า ครางชื่อ"
อะไรแบบนี้บ้างไหม ที่จริงมีช่วงหนึ่งที่ มีกระแสบางส่วน ที่ฮิตในเฟสบุ๊คน่ะ ในหัวคุณจะกำลังตั้งคำถามว่า
"ทำไมต้องเขียนหน้า ทำไมต้องครางชื่อ"
"ทำทำไม แล้วยังไงต่อ"
นั่นน่ะสิทำไม? มนุษย์ต้องการอะไรจากเรื่องนี้ ขอให้รู้สัจธรรมข้อนึง ธุรกิจทุกอย่างเกิดจากความต้องการของมนุษย์
มนุษย์ต้องการความสนุก
จึงต้องมี เกมส์
มนุษย์ต้องการเงิน
จึงต้องมีการแลกเปลี่ยน
เกมส์ ให้ความรู้สึกทดแทนอะไรบางอย่าง
เช่น สังคม ความภาคภูมิใจในตัวเอง การที่เรา คอนโทรลหรือบังคับอะไรบางอย่างได้ มีอะไรบางอย่างที่จับต้องได้ ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วอะไรในเกมส์มันดูจะจับต้องได้ กว่าโลกความจริงด้วยซ้ำ คิดดูอย่างเราพูดกันถึง ความรู้ ปัญญา คุณค่าในตนเอง
ไม่เห็นจะจับต้องได้ หรือพูดง่ายๆ ว่ามันจับต้องยากด้วยซ้ำ แต่การเล่นเกมส์ คือ คุณจะเห็น ผลงานของคุณทั้งหมด ผลความเพียรพยายามของคุณ ผลจากการลงทุนของคุณ จะกลายเป็น ฟาร์มขนาดใหญ่บนหน้าจอ เป็นชุดสวย เป็นอาวุธบนโลกของเกมส์ เป็นตัวเลขกำไร ละเอาจริงๆ นี่เป็นยุคที่ผลกำไรบนเกมส์ กลายเป็นเงินได้จริงๆ ได้แล้วด้วยซ้ำ
แล้วแบบนี้ โลกใบไหน กันแน่ที่เป็นจริง
แล้ว เกมส์ ของงาน VJ คืออะไร
มันมีเกมส์ ซิมูเลชั่น เกมส์จีบสาว
อันนี้คุณรู้ใช่ไหม
ภาพประกอบจาก เว็บ Thai PBS
เกมส์จีบสาว บนเกมส์ ตัวละครตรงนั้น เป็นแค่ ดิจิตอล แต่ในโลก Application คุณมีสาวๆ ที่อยู่หน้าจอนั่น เป็นคนจริงๆ พูดคุยโต้ตอบกับคุณ ได้ Real time. และนั่นแหละเป็นที่มาของ ธุรกิจขนาดใหญ่ จากจิตวิทยาที่ว่า มนุษย์ต้องการเกมส์ เกมส์ที่พวกเค้าควบคุมได้ และการควบคุมนั้น
"มนุษย์ต้องการแม้แต่จะควบคุม มนุษย์ด้วยกัน"
ลึกลงไปอีก แล้วทำไมเราต้องการ ควบคุมมนุษย์ด้วยกัน
เพราะเราต้องการ รู้สึกถึงการ "มีอำนาจ"
และทำไม เราต้องการความรู้สึกมีอำนาจ
ตรงนี้ คำตอบของแต่ละคนนั้นคงแตกต่างกัน แต่รูปร่างโดยทั่วไปของบุคลิก ของผู้คนที่แสวงอำนาจ
เพราะเค้าอาจขาดความมั่นใจในตนเอง ขาดความเคารพในตนเอง จนต้องการให้คนอื่นมาแสดงความเคารพ เพื่อเติม ความขาดเหล่านั้นแบบเร่งด่วน Self Esteem การเข้าใจและรู้จักตนเองนั้น ในโลกความเป็นจริงเราต้องค้นต้องหา ต้องยอมรับ ต้องเปิดใจกว้าง และไปถึงขนาดต้องพบกับนักจิตบำบัด มันยุ่งยากเนอะ
"เติมเงิน บน Application เลย ง่ายกว่าเยอะ'
ได้เงิน แล้วเอาไปทำอะไรน่ะเหรอ เอาไปสร้างตัวตนไง ตัวตนนั้นจะเสร็จภายใน 5 4 3 2 1
คุณกลายเป็นคนดัง เป็นคนรวย เป็นคนที่ผู้คนนับหน้าถือตา จากการใช้จ่ายเงินของคุณ ให้คนอื่นๆ เห็น ใช้จ่ายปุ๊บ Application Support การแสดงออกเหล่านั้น ทันทีด้วยการ มี Function ในการแสดงสถานะทันที ว่าคุณ เป็นคนรวย บ้างเป็นมงกุฎ บ้างเป็นรถ บ้างเป็นเอฟเฟ็ก ในการปรากฎตัว อย่างที่เล่าไปในตอนที่แล้วค่ะ
แล้วอำนาจนี้ ไปทำงานอย่างไรกับ VJ
เพื่อแลกเปลี่ยนกับของขวัญบางอย่างที่ แต่ละที่กำหนดไว้ ของขวัญนั้น VJ จะนำไปเปลี่ยนเป็นเงิน พูดง่ายๆ มันคืองาน คือ อาชีพ บางคนทำงานนี้เป็นงานเสริม บางคนอาจเป็นรายได้หลักเลยทีเดียว
นำมาสู่การแลกเปลี่ยน วีเจต้องแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างเพื่อแลกกับของขวัญที่จะนำไปสู่รายได้
ย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน ฉันได้รับการทาบทามจากพี่นักดนตรีท่านหนึ่ง ที่ให้จัดหาคนมีความสามารถทางดนตรีให้กับ Application ใช่ๆ เวลานั้น ฉันยังตั้งคำถามเลยว่า มันคืออะไร?
ระบบ Facebook Live เพิ่งจะตั้งไข่
แล้ว Application ไลฟ์สดคืออะไร?
ตอนนั้นรู้แต่ว่า แค่ตั้งกล้องเล่นดนตรี เราจะได้เงินเดือนการันตีจากบริษัทนั้น ถึงเดือนละ 10000 บาท อะ.. อย่างนี้ใครจะไม่สนใจ
ฉันก็เลยเริ่มต้นงานที่นั่น ทำงานอย่างสบายใจเพราะทาง App เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้ บริษัทมาจากประเทศจีน และที่ประเทศจีนเนี่ย การร้องเพลงทำเงินให้ใน Application ไลฟ์สดเป็นเงินจำนวนมาก เริ่มที App นั้นก็เลย เริ่มต้นจากเสียงดนตรีค่ะ แต่ธุรกิจแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ตามนิสัย พฤติกรรม ของแต่ละพื้นที่
และอยากบอกเลยว่า การทำงานกับคนไทย น่าจะปราบเซียนที่สุด การทำไลฟ์ให้คุณภาพ ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
บริษัทนั้นจึงพึ่งพา สังกัด และวีเจมืออาชีพ มาจัดหาคอนเทนต์เพิ่มเติมบนที่แห่งนั้น
ฉันที่กำลังเล่นดนตรีอย่างสบายใจ พูดคุยกับคนนั้นคนนี้จนสนิทสนมเป็นก๊วนเป็นแก๊งค์ พบว่า มีเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นเยอะไปหมดในจัดนวาลเดียวกัน
จู่ๆ มีผู้หญิง โชว์อาบน้ำ มีคนไปดูมากมาย และผู้คนใช้จ่ายโยนของขวัญกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
มีผู้หญิง ถอดทีละชิ้น แล้วเพื่อแลกกับการถอดทีละชิ้น ผู้คนก็โยนของขวัญกันมากมายใช้จ่ายเงินอย่างน่าตกใจ อื่นๆ อีกในด้านสีเทา ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ที่จริงต้องขอบคุณ Application แห่งนั้นที่พยายามแล้วให้ คนมีความสามารถอยู่ได้ ตอนแรกฉันไม่ต้องทำยอด ต่อมามีการทำยอดแต่ก็ไม่มากเท่าสายอื่นๆ
**ทำยอดคือการที่เราต้องเก็บของขวัญที่ซื้อด้วยเงินของผู้คนมาเป็นมูลค่าเพื่อวัดระดับเงินเดือนที่เราจะได้รับค่ะ
ที่ชัดมากเลย คือถ้าเป็นเรื่องของเพศ การโชว์ ความเซ็กซี่ ผู้คนให้ความสนใจชนิดที่เรียกว่าแตกตื่น
แต่ก็มีสาวๆ น่ารัก ธรรมดา ที่มาไลฟ์เพื่อพูดคุย ใช้ชีวิตประจำวันให้ดู พวกเธอไม่ได้แลกเปลี่ยนด้วยการโชว์ หรือร้องเพลง แต่ก็มีรูปแบบการแลกเปลี่ยนที่นำมาสู่ของขวัญได้เช่นเดียวกัน
1. คือความสนิทสนม การจดจำชื่อ การเรียก ทุกคนแบบคนรู้จัก บ้างเรียก พี่ พ่อ
2. พวกเธอแลกเปลี่ยนของขวัญ กับการ
"โดนกลั่นแกล้ง"
การกลั่นแกล้ง อันนำมาสู่เกมส์ที่ มนุษย์ใช้ควบคุมมนุษย์ด้วยกันบนโลกใบนั้น หลายอย่าง กลายเป็นเรื่องธรรมดา และความ ธรรมดานั่นแหละที่ น่ากลัวในความรู้สึกของฉัน
ฉันจึงไปอยู่บนโลกใบนั้น โดยมีเจตนามั่นว่า จะขอรับเงิน ในส่วนสบายใจที่ทาง Application เป็นคนจ้างเท่านั้น พอหมด สัญญา หรือการันตี ก็จะหายตัวไป จากทุกที่ทุกแห่ง
ในขณะที่ พรก. ดำเนินไป ฉันใช้เวลา บนที่แห่งนั้นด้วยการทดลองทำห้อง Piano Therapy โดยเล่นเปียโนบรรเลงและให้ผู้คนสิงนอนหลับ
และฉันสนุกกับการทดลอง มีคนมาทิ้งตัวและหลับไปในห้องของฉันมากขึ้นเรื่อยๆ
*ห้องใน App คือหน้าจอ คือช่องทางในการถ่ายทอดสดของ แต่ละคนค่ะ
และมีคนมาโยน ของขวัญประปราย ของขวัญส่วนมากที่ได้รับเป็นค่าเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่เรียกว่า คูปอง แต่กติกาของที่นั่น ของขวัญชิ้นสำคัญที่จะเปลี่ยนเป็นเงินได้ แทนค่าเป็นแมว และแมวตัวนั้น จะต้องซื้อด้วยเงิน ถึง 130 ต่อหนึ่งชิ้น และเราจะสะสมแมวตรงนั้น มากน้อย ไปเปลี่ยนเป็นอัตราเงินเดือนที่ทางบริษัทกำหนด
รู้แหละ... แต่ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
ก็มานั่งซ้อมเปียโน แล้วก็จะไป
แต่จู่ๆ ฉันที่นั่งซ้อมเปียโน ภายใต้ความเงียบ ก็มีผคนเข้ามาพบเจอ และโยน ของขวัญที่ว่า ให้ฉันที่เดียว 50 ชิ้น ใช่ค่ะ "แมว " แมวที่ต้องใช้เงิน 130 บาทต่อ 1 ตัว
ที่คำนวณไว้ ว่ารายได้จากการันตี หรือเงินที่ทางบริษัทให้คือ 6500 บาท แล้วมีคนมาให้เงินเพิ่มกลายเป็น 10000 บาท
"นี่สินะ ตัวละครสำคัญของ Application ทุกแห่ง
ที่เรียกว่า สายเปย์"
ในโลกของผู้สังเกตการณ์ ฉันไม่ต้องการให้ตัวเองไปแทรกแซงอะไรที่มีอยู่ที่นั่น รวมถึง จะไม่แสวงหายอด ของขวัญ ด้วยอุดมการณ์ บางอย่าง
แต่ เอ๊า!!! มีคนให้เฉย และเยอะมากด้วย เยอะแบบที่ตื่นมารุ่งขึ้นกลายเป็นคนดัง น่าอิจฉา ได้รางวัลทำยอดดีเด่น เอ๊า!!!! ช่วยใส่เสียงสูงๆ ให้ด้วย
ทำยังไงดี รับเงินเค้ามาแล้ว มันเกินกว่ารายได้ที่คำนวณไว้ว่าจะได้จากทางบริษัท
ฉันก็เลยตัดสินใจ จะไลฟ์ต่อไปอีกสักเดือน โดยทำห้องบรรเลงเปียโนนั่นแหละ ที่จริงตอนนั้นไม่ได้บรรเลงได้หรอกนะคะเรียกว่ากำลังหัดด้วยซ้ำ แล้วมาอาศัยเวลาบนแอ๊ป หัดเปียโนไปด้วยเก็บเวลาไปด้วย แล้วการทดลองนี้มัน Work ด้วยนะ
ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกฉันก็ไปนั่งสวมบทบาทวีเจ แบบคนอื่นๆ เค้าตอนกลางวัน ตอนเที่ยงบ้าง 11 โมงบ้าง เก็บกิจกรรมที่เค้าให้ทำ เล่นเกมส์ที่มีอยู่บนแอ๊ป
เหมือนแล้วดูเหมือนวีเจทุกอย่าง ต่างแค่นั่งซ้อมเปียโน ผู้คนจะไม่ค่อยอยากอยู่ดูฉันซ้อมเปียโนหรอก แล้วเวลาที่ผู้คนออกจากห้องไปฉันจะยิ่งชอบ เพราะจะได้มาโฟกัสกับการซ้อม แต่ถึงอย่างนั้นเลย ท่ามกลางผู้คนที่ อยู่ในห้องไม่ได้เพราะเสียงเปียโน ฉันกลับมีคนคนหนึ่ง ที่นั่งกับฉันได้หลายชั่วโมง ให้ฉันซ้อมเปียโนไป เค้าใช้ชื่อสั้นๆ
ว่า "Sa"
แต่รายการตอนดึกๆ ที่ฉันแอบไปทำเอาไว้มันเริ่มได้รับความนิยมกว่ามานั่งเล่นบท เป็นวีเจตอนเที่ยงซะแล้ว ก็เลยไม่ได้มาไลฟ์ตรงเวลาตอนเที่ยงเหมือนทุกวัน มาสายบ้างอะไรบ้าง
แต่ก็มานั่งรอ จะบอกคุณ "Sa" ว่า ฉันไม่ได้หายไปไหนแค่ไปเล่นเปียโนตอนดึกๆ แทน แต่ตอนนั้น จู่ๆ คุณ "Sa" ก็หายตัวไป
มันเป็นความเหงาในใจ ที่คนที่นั่งคุยกับเราทุกวันหายตัวไปไม่ร่ำลา แต่โลกแอ๊ปก็แบบนี้ ใครเป็นใครเราไม่รู้ด้วยซ้ำ แล้วเค้าจะเป็นใครจะอยู่จะไปคงเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล
ส่วนคนที่มาโยนของขวัญ
จำนวนมาก คนนั้นเป็นใครน่ะเหรอ
ฉันเพียงทดไว้ในใจ
"นี่ใช่ไหม ที่ใครๆ เค้าเรียกว่าสายเปย์"
โฆษณา