17 ส.ค. 2020 เวลา 14:04 • ไลฟ์สไตล์
“ความประทับใจแรกที่เข้าทำงาน”
พอนึกถึงประเทศญี่ปุ่นในแง่ของการทำงาน ภาพแรกที่เด้งมาในหัวคนส่วนใหญ่เลยก็คือ “ความรับผิดชอบที่สูงมาก” “ความถูกต้องต้องมาก่อน” “ความเข้มงวด” “ความกดดัน” และอื่นๆอีกมากมาย ที่สะท้อนทั้งข้อดีและข้อเสียของการทำงานที่สุดโต่ง บ้างานเอามากๆ
พอลองนึกดูแบบนี้แล้ว การทำงานที่บ้านเรา สังคมที่ทำงานก็กลายเป็นอบอุ่นไปเลย(แล้วแต่มุมมองนะคะ)
 
ในเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่แตกต่างจากบ้านเราขนาดนี้ แล้วทำไมถึงตัดสินใจมาทำงานที่ญี่ปุ่น??
1
ในตอนนั้นแอดมินเองก็เป็นแค่เด็กจบมหาลัยใหม่ๆ มีประสบการณ์ทำงานที่ไทยก็น้อย แต่มีความเชื่ออยู่อย่างนึงค่ะว่า “อยากเห็นตัวเองเป็นแบบไหน ให้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมแบบนั้น” คำพูดที่ติดหูเกือบทุกๆคนค่ะ ตอนแรกก็ไม่เชื่อนะคะ คนอื่นจะมาเปลี่ยนตัวเราได้ยังไง แต่พอมาที่นี่สักพัก เชื่อแบบสนิทใจเลยค่ะ!!
เพราะสิ่งที่เราได้จากการทำงานกับคนญี่ปุ่นมีข้อดีเยอะมากๆ!
1
ก้าวแรกที่มาถึงและก้าวขาเข้าไปในบริษัท!!
เด็กใหม่ทุกคนใส่สูทผูกไท รองเท้าเงาวิบ กระเป๋าเนี๊ยบสีดำ โทนเดียวกันทุกคนเลยค่ะ เหมือนทุกคนนัดกันมายังไงยังงั้น
นอกจากเรื่องการแต่งกายที่เนี๊ยบขั้นเทพเหมือนดาราชายเดินพรมแดงแล้ว มารยาทในการฟัง ในห้องเรียนยังดีมาก ดีระดับไหนหรอคะ?? ระดับที่ทุกคนไม่หลับ นั่งหลังตรงเด๊ะ แอดมินช่วงแรกๆหลังเรียนเสร็จก็แอบเป็นตะคริวอยู่หน่อยๆค่ะ55555 ยังมีเรื่องของการแสดงความคิดเห็นที่มีมารยาท ถึงแม้ว่าเราจะแสดงความคิดเห็นที่แบบว่าคิดได้ยังไงเนี่ยออกไป เค้าก็จะไม่พูดหักหานน้ำใจเรา แต่อ้อมไปอ้อมมาจนเราคิดได้เองว่า เอ้อ มันยังมีความคิดเห็นอีกหลายๆด้านนะที่ดีต่อการตัดสินใจนะ
การแต่งกายมาทำงานบริษัทที่ญี่ปุ่น
“ความขี้อายของคนญี่ปุ่น”
พอช่วงพักเบรคทุกคนก็พูดคุยกันตามปกติค่ะ
แต่ผู้ชายจะขี้อายมากๆ เค้าจะไม่กล้าทัก หรือพูดกับผู้หญิงก่อน ซึ่งผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็จะไม่ทักก่อน เอ้า!! แล้วจะได้คุยกันตอนไหน? บอกได้เลยค่ะว่า ที่เค้าไม่กล้าทักก่อนแบบโต้งๆ เพราะเค้าจะหาจังหวะได้ดีมาก เช่นตอนทำงานกลุ่มเป็นต้น ถ้าเป็นที่ไทยเรานะ!! แค่เจอหน้ากัน ก็พูดคุยเป็นเพื่อนกันได้เร็วมากเลย เนื่องจากแอดมินมาญี่ปุ่นครั้งแรกก็เริ่มทำงานเลย เราก็จะไม่รู้รายละเอียดอะไรแบบนี้เลยค่ะ เราก็โต้งๆเข้าไปทักทายทุกคน ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ชวนเค้าคุย ตอนนั้นผู้ชายญี่ปุ่นก็ดูตกใจนะคะ 5555 เวลาคุยกับเราเค้าก็ไม่จ้องตา แต่ก็นี่แหล่ะค่ะข้อดีของการมีการมีกิจกรรมหลากหลายในมหาลัย ซึ่งวิศวะส่วนใหญ่ก็จะเป็นสายเฟรนลี่ ทำกิจกรรมเยอะ ถือเป็นข้อดีที่ต่างชาติอย่างเราได้ทำลายกำแพงการเริ่มการสื่อสารก่อนได้อย่างง่ายดาย!!
นี่เป็นเพียงบรรยากาศและความรู้สึกในวันแรกๆที่แอดก้าวเข้าสู่บริษัทในญี่ปุ่น เส้นทางยังอีกยาวไกล เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้ พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ออกจาก Comfort Zone ของตัวเองเสมอ อยากเป็นคนที่ดีกว่าวันนี้เสมอ ไฟเราก็จะมอดช้าลงค่ะ...
เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้า😆
โฆษณา