Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ออฟฟิศโลกแตก
•
ติดตาม
18 ส.ค. 2020 เวลา 09:24 • ความคิดเห็น
รีวิวการไปสัมภาษณ์งาน “สุดเงิบ”
ไปสัมภาษณ์งานยังไงให้ หงายหลังกลับบ้าน
ออฟฟิศโลกแตก by matthewpooju
เรื่องสุดเงิบในการไปสัมภาษณ์งานของคุณ มิว นามสมมุติ ( เจ้าของเรื่องราวไม่อยากให้ออกนาม เพราะเขิล) ฮ่าๆ
เรื่องราวของคุณมิว ( นามสมมุติ )ที่เข้ามาพูดคุยกับผมนะครับ
เป็นเรื่องสั้นๆ ที่ได้ฟังก็รู้สึกเงิบไปตามๆกัน
คือคุณมิว ปัจจุบันทำงานที่ ร้านขายของ ปลอดภาษี ชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเนื้องานและรายได้ ก็ถือว่าโอเคดีเลย
คุณมิวได้เข้ามาพูดคุยกับผมพร้อมแชร์ประสบการณ์เรื่องราวนี้ เริ่มขึ้นเมื่อ ช่วงหลังจากโควิดนี้ เศรษฐกิจก็ย่ำแย่
นักท่องเที่ยวก็ไม่มี สายการบินต่างๆก็ยังไม่ค่อยเปิด
ซึ่งค่อนข้างกระทบงานของคุณมิวโดยตรงเลย เลยเป็นเหตุที่ต้องโดนขอลดเงินเดือน
แต่ด้วยรายจ่ายที่เท่าเดิม แต่รายได้กลับลดลง จึงทำให้คุณมิวของเรา อยากลองหางานใหม่ๆ ทำ
คุณมิวเข้ามาปรึกษาผมก่อนในช่วงแรกว่า อยากลองทำงานแบบนู้น ทำงานแบบนี้ ช่วยแนะนำหน่อย ว่าควรทำอะไรแบบไหนดี
ผมก็ให้คำปรึกษาเบื้องต้นไปคุณมิว คุณมิวก็โอเครเดียวลองหางานที่แบบคุณมิว ชอบและมีประสบการณ์ ลองดู
2-3 วันต่อมา คุณมิว ส่งข้อความมาบอกผมว่า ได้งานที่อยากทำแล้ว!! เป็นสายงานที่คล้ายๆกัน แต่ บริษัทนี้เป็นองค์กรต่างชาติ เป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่และดังมากๆ
คุณมิวก็มาปรึกษาผมเรื่องเกี่ยวกับ background ของบริษัทนี้ คือทำอะไรบ้าง เกี่ยวกับยังไง เสถียรภาพบริษัท มั่นคงมั้ย โชคดีที่ผมค่อนข้างรู้จักและคุ้นเคยกับ กลุ่มบริษัทที่นี้ เพราะเป็นองค์กรใหญ่ เลยพอให้คำปรึกษาได้เบื้องต้น
หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทนี้ ก็ส่งอิเมลตอบมาหาคุณมิว ให้เข้าไปสัมภาษณ์
คุณมิวดีมากจนแทบเสียอาการ ด้วยความที่บริษัทที่คุณมิวทำอยู่ และ บริษัทใหม่ที่คุณมิว ต้องการไปทำ เป็นรูปแบบคล้ายๆกัน และแถมคุณมิว ก็มีประสบการณ์มาแล้วด้วย แถมดีกรี บริษัทที่ทำอยู่ก็ดีซะด้วย
คุณมิวจึงมีความมั่นใจอย่างมาก ในการไปสัมภาษณ์และ หาข้อมูลเรื่องบริษัทใหม่ไว้เป็นอย่างดี
พอถึงวันที่ต้อง ไปสัมภาษณ์ คุณมิวเล่าว่า โอ้วโห้ คนมาสมัคร คือเยอะมากและแต่ละคนคือ รูปร่างหน้าตา บุคลิก ดีๆทั้งนั้น แต่คุณมิวก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าคนอื่นๆ
และเมื่อถึงคิวการสัมภาษณ์ของมิว
คุณมิวเล่าว่า ใช้เวลาเพียงแค่ 45 นาที ในการสัมภาษณ์
ผู้สัมภาษณ์มี 3 คน ความรู้สึกคือ 3 รุ่ม 1
หลังจากสัมภาษณ์ คุณมิวได้บอกผมว่า ถ้าจะมาสัมภาษณ์นี่ โยนตำราการไปสัมภาษณ์งานแบบที่คิดไว้เลย
เรื่อง จุดเด่น จุดด้อย ในตัวน้อง ไม่ต้อง พี่ไม่อยากรู้
ความสามารถพิเศษ ไม่ต้องบอก ที่นี่ไม่ต้องใช้ ใช้แค่ที่พี่ต้องการให้ใช้
ความฝัน คติประจำไว้ อนาคตอีก5ปีวางแผนยังไง เอาเก็บไว้ ไม่ต้องพูดพี่ไม่ได้อยากรู้
คือ อะไรต่างๆที่เราคิดว่า การสัมภาษณ์งานในรูปแบบเดิมๆ ตามที่ต่างๆ ที่เราเคยโดนถาม อันนี้เค้าบอกเลยว่า ไม่อยากรู้ ไม่ต้องพูด
( คิดในใจ โว้ยยยย5555555555)
ผมได้ถามกลับคุณมิวว่า ตลอดเวลา 45 นาทีที่เค้าสัมภาษณ์คุณมิว เค้าพูดอะไรบ้าง
คุณมิวตอบ เค้าให้เราพูด เรื่องที่ทำงานเก่า
เราทำอะไร เกี่ยวกับอะไร หน้าที่ประจำวัน ขายยังไง
มีอะไรพิเศษในการทำงานที่นั้น คือถามเกี่ยวกับที่ทำงานเก่าเราล้วนๆ
คุณมิวบอกว่าพูดจนไม่รู้จะพูด อะไรแล้วอ่ะ เหลือแต่บอกเลขประจำตัวพนักงานกับ ยอดทศนิยม ในเงินเดือน แล้วจริงๆ เค้าก็ยังให้พูด ต่อไปเรื่อยๆ
หลังจากที่คุณมิวหมดเรื่องที่จะพูดพี่เค้าก็ยิงคำถามมา
น้องอยากทำงานแบรนด์อะไร ในองค์กรเรา
คุณมิวก็ตอบไปแบบ เซฟๆ คือแบรนด์เครื่องสำอางดังจาก ปารีส เพราะงานเก่าก็คลุกคลีกับ แบรนด์นี้ด้วย
แล้วพี่เค้าก็ถามต่อ ทำไมอยากทำแบรนด์นี้ รู้อะไรบ้างเกี่ยวกับแบรนด์นี้
คุณมิวก็เข้าทางเลยเพราะ ค่อนข้างคลุกคลีแบรนด์ด้วย ตอนทำงานที่เก่า
คุณมิวก็ ได้บอกทั้งที่มา ของแบรนด์จากประเทศอะไร ตัวไหนยอดฮิต ในไทย ลูกค้าชอบตัวไหนสุด
แต่พี่เค้าก็พูดสวนขึ้นมา ไม่ๆน้อง พี่ถามว่า รู้อะไรเกี่ยวกับแบรนด์นี้บ้างคือ ใครเป็นผู้บริหารปัจจุบัน แบรนด์นี้
ใครก่อตั้ง ฐานการผลิตที่ไหน ส่งออกกี่ประเทศ ในไทยมีขายกี่ที่ กี่สาขา ตัวไหนเลิกผลิตแล้ว ตัวไหนที่เป็นตัวพิเศษ ของรุ่น
ตบท้ายประโยคด้วยคำพูดที่ว่า
“ น้องไม่มีพลังอ่ะ น้องยังไม่มีแพสชั่น”
“ เอนเนอร์จี่ ( energy) น้องไม่ได้ อ่ะ “
คุณมิวบอก เงิบจ๊ะ! 55555555555555
แล้วเค้าก็พูดต่อ ว่า ถ้าน้องทำแบรนด์นี้ แล้วไหนน้องลองเปลี่ยนใจพี่สิว่า จะทำยังไงให้พี่ เปลี่ยนเครื่องสำอางที่ใช้ไปใช้แบรนด์น้อง
คุณมิวก็ปลุกวิญญาณนักขาย ขึ้นมา ซัดกลับด้วยความมั่นใจ ในการขาย
หลังขายเสร็จ พี่เค้าก็พูดขึ้น “ น้องเหมาะนะ เหมาะกับที่เก่า”
เงิบอีกรอบ แต่รอบนี้หงายหลังไปเลยจ้าาาา
55555555555555555
หลังจากนั้นคุณมิวเล่าให้ฟังว่า ก็พูดทำไรไม่ถูก หน้าเสียอยู่ พี่เค้าก็เข้ามาปลอบแล้วบอกว่า
“น้องหน้าตาดี จีนโอเค สำเนียงได้ แต่พี่ว่าน้องไม่มีแพสชั่น น้องคงอยู่ได้แค่ ที่ทำงานเดิมนะ”
เงิบ!! เงิบแบบทริปเปิ้ลเงิบ ไปเล๊ยยย!!
5555555555
ผมฟังไปก็รู้สึกเงิบไปตามๆกัน อดขำไม่ได้กับความใจกล้าสู้เสือของคุณมิว
ออฟฟิศโลกแตกก็ขอขอบคุณเรื่องราวตลกร้ายในการไปสัมภาษณ์ของคุณมิวนะครับ
ถือว่าเป็นข้อคิดให้เราอีกอย่างหนึ่งก็คือ นี่มัน2020 แล้ว เลิกเตรียมมุกการสัมภาษณ์แบบเดิมๆไปได้แล้ว
ถ้าไม่อยากเงิบเหมือน คุณมิว ฮ่าๆๆๆ
ปัจจุบันคุณมิวก็ยังคงทำงานอยู่ที่เดิม มีความสุข กินอิ่ม เหมือนเดิม
ออฟฟิศโลกแตกขอบคุณมากครับ
ถ้าเพื่อนๆชอบบทความเงิบนี้ ก็อย่าลืมคอมเม้นปลอบใจคุณมิว และ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
4 บันทึก
26
17
7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บทความเรื่องปัญหาในออฟ
4
26
17
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย