18 ส.ค. 2020 เวลา 12:29 • ประวัติศาสตร์
ตำนานการกำเนิดชา : ชาที่เรากินกันมีที่มาจากไหน?
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งที่เพจ “อยากเล่า” นะครับ
ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่มนุษย์ดื่มกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล รับรองว่า “ชา” ยังไงก็ต้องติดอยู่ในอันดับแรก ๆ แน่นอนครับ
แต่เพื่อน ๆ รู้หรือเปล่าครับ ว่าชาที่เราดื่มกันทุกวันนี้ มีที่มาจากไหนกันแน่?
เดี๋ยววันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังกันครับ
เอาจริง ๆ แล้วชามีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร กินกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครทราบครับ เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่ามนุษยชาติกินชากันมาอย่างยาวนานมาก นานกว่าที่มนุษย์เริ่มมีการจดบันทึกไว้มากโข
แต่อย่างน้อยเราก็พอรู้ถิ่นกำเนิดของชา ก็คือคาดว่ามีต้นกำเนิดอยู่แถว ๆ แถบเอเชียตะวันออก ซึ่งก็คือประเทศจีน และอินเดียนั่นเองครับ
แต่ว่าแม้เราจะไม่รู้แน่ชัดว่าการกินชาเริ่มต้นมาได้อย่างไร แต่ตำนานของการกำเนิดชาก็มีอยู่หลากหลายแบบเลยครับ
โดยแบบที่แพร่หลายที่สุด ก็คือชาเกิดขึ้นที่ประเทศจีนเมื่อประมาณ 2,737 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยในยุคสมัยนั้น กษัตริย์ผู้ปกครองจีนก็คือ เฉินหนง (Shénnóng) เทพแห่งการเกษตรกรรมและการเพาะปลูกครับ
เทพเฉินหนง
เรื่องราวเล่าว่า ในขณะที่เทพเฉินหนงดื่มน้ำร้อนอยู่ ได้มีใบไม้ที่อยู่แถวนั้นตกลงมาใส่แก้วน้ำ และถัดใดนั้นสีของน้ำก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่สีใส ๆ ของน้ำปกติ
และเมื่อเทพเฉินหนงได้ลองชิมน้ำที่เปลี่ยนสีนั้นดู ก็พบว่าน้ำนั้นมีกลิ่นและรสชาติที่ดีกว่าเดิม จนกลายเป็นเหตุให้การต้มชาและกินชาถือกำเนิดขึ้นครับ
หรือบางตำนานก็ว่าเทพเฉินหนงกำลังทดสอบและศึกษาสรรพคุณของสมุนไพรต่าง ๆ (เทพเฉินหนงไม่ใช่แค่เป็นเทพแห่งเกษตรกรรม แต่ยังเป็นคนที่สอนให้ชาวจีนรู้จักสมุนไพรอีกด้วย) เขาได้ค้นพบใบไม้ชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ถอนพิษ ซึ่งใบไม้นั้นก็คือชานั่นเองครับ
และสุดท้าย อันนี้อาจจะแปลกกว่าเรื่องอื่นไปสักเล็กน้อย เพราะตามตำนานอันนี้ ชาไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากเทพเฉินหนง แต่มาจากพระโพธิธรรม หรือ” ตั๊กม้อ” ที่คนไทยเรารู้จักกันดีครับ
พระโพธิธรรมตั๊กม้อ
โดยตำนานเรื่องนี้ เล่าว่า พระตั๊กม้อได้ตัดสินใจจะทำสมาธิในทำ และจะหันหน้าเข้ากับกำแพงโดยไม่พูดกับใครเลยเป็นเวลา 9 ปี แต่ว่าระหว่างที่ทำสมาธิ ท่านได้ง่วงจนทนไม่ไหวและเผลอหลับไปเป็นเวลา 7 ปี
และเมื่อตื่นขึ้นมา ท่านก็โกรธตัวเองที่เผลอหลับไป และด้วยแรงโกรธ พระตั๊กม้อก็ได้เฉือนหนังตาของตัวเองทิ้งไป และเศษหนังตาที่ตกลงสู่ดินก็ได้กลายเป็นต้นชางอกขึ้นมาครับ
และนี้ก็เป็นสาเหตุที่เมื่อเรากินชาจะไม่รู้สึกง่วงนอน และเป็นสาเหตุที่ทำไมในภาพวาดหลาย ๆ ภาพ พระโพธิธรรมตั๊กม้อจะตาเบิกโพลงอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าท่านไม่มีหนังตานั่นเองครับ
พระโพธิธรรมตั๊กม้อที่ไม่มีหนังตา
และขอแถมอีกนิดหนึ่งก็คือ หลังจากที่พระตั๊กม้อนั่งสมาธิครบ 9 ปี ท่าที่ท่านลุกขึ้นมาและขยับบิดร่างกายเพื่อแก้ปวดเมื่อย ก็ได้กลายเป็นต้นกำเนิดของ “มวยเส้นหลิน” ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับต้นกำเนิดของชาในครั้งนี้ สนุกกันหรือเปล่าครับ
เช่นเคยครับ หากชอบบทความแบบนี้ อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามได้ที่เพจ “อยากเล่า” นะครับ
โฆษณา