Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Puccoโลกสวย
•
ติดตาม
18 ส.ค. 2020 เวลา 13:48 • ดนตรี เพลง
VJ นักสังเกตุการณ์ความเหงา
บนดวงดาวคู่ขนาน
EP.3 การกลั่นแกล้ง
ฉันเป็น วีเจ หรือเปล่า?
คำถามนี้ผู้คนควรถามฉัน หรือฉันควรตั้งคำถามนั้นกับตัวฉันเอง งานวีเจทำอย่างไร ก็รู้ ทำอย่างไรให้ได้ยอดของขวัญก็รู้
แต่เพราะรู้ใจหนึ่ง ก็ตั้งคำถาม และต่อต้าน เรียกว่า ตั้งปณิธานว่า จะไม่ทำงานวีเจ เพื่อสนับสนุน
ค่านิยมการกลั่นแกล้งมนุษย์ให้กลายเป็นเรื่องสามัญธรรมดา
มันเป็นค่านิยมฝังลึกในสังคมไทย จนน่ากลัว รักหรอกจึงหยอกเล่น เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก เวลาเด็กทะเลาะกัน มีการรังแกกัน ผู้ใหญ่จะบอกว่า
"โธ่ ก็แค่เด็กเล่นกันปกติ พี่เค้ารักก็เลยแกล้ง"
"น้องยังเด็กน้องยังไม่รู้เรื่อง'
โตมาหน่อย เด็กผู้ชายจะแกล้งผู้หญิงที่ตัวเองชอบ ข้ออ้าง คือ แกล้งเพราะชอบไง
จิตวิทยาที่ผู้ชายจะแกล้ง ผู้หญิงที่ตัวเองชอบนี่มันเรื่องในวัยอนุบาล แต่กลายมาเป็นโครงสร้างธุรกิจ และเกมส์บนโลก Application
กลายเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
จะแกล้งได้ต้องจ่ายมาก่อน จากผู้ล่าผู้ถูกล่า จริงๆ กลายเป็นผู้ล่ากันทั้งคู่ อยู่ที่ใครถือไพ่เหนือในขณะนั้น
แล้วเกมส์การกลั่นแกล้ง ที่กลายเป็นการละเล่น บน Application เป็นเกมส์แบบไหนน่ะเหรอ
เริ่มการหยอกที่การเขียนหน้า การเขียนชื่อคนจ่ายของขวัญลงบนหน้า เขียนหน้าให้ตลก มัดผมจุก บอมแป้ง โดยทางฝั่งวีเจอาจมีการตั้งราคาในการยอมทำตามคำสั่ง ด้วยจำนวนของขวัญที่มีมูลค่าตามแต่ที่ตัวเองต้องการ
วีเจจะเรียกพฤติกรรมแลกเปลี่ยนเหล่านี้ว่า
" โปร " ย่อมาจากโปรโมชั่น เป็นการตั้งราคาของระดับการออกคำสั่ง หากเป็นคำสั่งง่ายๆ จ่ายน้อย หากเป็นคำสั่งยากๆ ราคาอาจมากขึ้นมาหน่อย
อะไรยาก อะไรง่ายสำหรับบางคนก็ต่างกันไป สำหรับบางคนการครางชื่อ เป็นเรื่องง่ายๆไม่ต้องลงทุนอะไร กระโดดตบ วิดพื้น เต้น เป็นเรื่องสนุกสนานไม่ได้แปลกอะไร
และสำหรับบางคนแค่การเปลื้องผ้า ถอดเสื้อผ้า ก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ต้องคิดอะไร เพราะมันเป็นงาน และเป็นเรื่องที่ทำได้เป็นธรรมดา
คนที่เป็นฝ่ายตั้งราคา อาจคิดว่าอยู่เหนือกว่า ฉันแค่ทำแค่นี้เอง ก็ได้เงินได้รายได้แล้ว เรื่องแค่นี้เองของแต่ละคนแตกต่างกันไปตามรูปแบบ ไลฟ์สไตล์ และ ระดับความจำเป็นในการหารายได้
เกมส์นี้จริงๆ มีผู้ล่าและถูกล่า ไม่มีใครคงอยู่ในฐานะผู้ล่าเสมอไป วีเจตั้งราคาให้กับสิ่งที่ตัวเองคิดว่า ทำได้เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ฉันเคยอยู่ในเหตุการณ์ที่ ยูส *ย่อมาจากคำว่า User เป็นฝ่ายเสนอข้อตกลงให้กับทางวีเจ ด้วยระดับของขวัญที่ เป็นมูลค่า เงินที่สูงขึ้น
นี่คือราคาคร่าวๆ เช่น น้องวีเจคนนั้นตั้งโปร ไว้ราคา 100 บาท ต่อการเขียนชื่อบนหน้า จู่ๆ ก็มี ยูส คนหนึ่งบอกว่า ให้ 5000 แลกกับการ โกนคิ้วออก 1 ข้างเอาไหม?
เดี๋ยว!!!! ฉันมีอาชีพนักดนตรี แต่ก็เข้าใจได้ว่า คิ้ว หรือความสวยงาม สำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน จำได้ว่าพิมพ์คำว่า "อย่า" แต่คอมเมนต์ต่างๆ ก็เลื่อนเร็วเหลือเกิน
น้องคนนั้นบอกว่า "ถ้าพี่ให้จริงหนูก็กล้าโกน" แล้วน้องก็ไปหยิบมีดโกนมารอ ยูสคนนั้นโยนของขวัญมาเป็นมูลค่าประมาณ 3000 บาท สร้างความแตกตื่นกับของคนในห้อง และพิมพ์บอกว่า ใครจะเอาด้วยขาดอีก 2000 และไม่นานนัก ของขวัญจากผู้คนมากมายในนั้นจับไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ก็ถูกโยนมาจนครบ 5000 ตามที่กำหนด
"และน้องวีเจคนนั้นก็โกนคิ้วของตัวเองออก"
เธอหัวเราะ ขำให้กับเรื่องนั้น ผู้คนสนุกสนานและเข้ามาดูกันจนล้นหลาม และที่พีคที่สุดคือ ในที่สุดก็มีคนเสนอให้โกนคิ้วอีกข้าง ในราคา อีก 5000 บาท แน่นอนจากนั้นของขวัญมาจากใครต่อใครที่ฉันไม่อยากรู้เลยว่าเป็นใคร ช่วยกันจ่ายจนครบ
สำหรับฉัน มันเหมือนเหตุการณ์ในภาพประวัติศาสตร์นี้ ผู้คน หัวเราะสนุกสุดขีดกับการ โกนคิ้ว ของผู้หญิงตรงหน้า ไม่มีใครเหนี่ยวรั้งหรือมองว่าเรื่องนี้ผิดปกติ รวมถึงน้องคนนั้นด้วย
เงิน 10000 บาท ของคนหาเช้ากินค่ำ กับเงิน 10000 บาทของเศรษฐี เงิน 10000 บาทของ นักศึกษา กับเงิน 10000 บาทของนักพนัน
ทำไม คุณค่า ของมนุษย์ ถึงไม่เท่าเทียมกัน
เงินตั้ง 10000 บาท เงินแค่ 10000 บาท
เรารู้สึกว่าการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่ายเป็นเรื่องธรรมดาได้อย่างไร
แต่กลับ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือพิเศษอะไรเลย เมื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นไปเช่นนั้น
ฉันอยู่ในกลุ่มไลน์ของ สาวๆ จำนวนมากที่รวมตัวกันตั้งสังกัด *สังกัดคือกลุ่มคนที่จัดหาวีเจให้กับทาง Application ในกลุ่มนั้นเต็มไปด้วยสาวสวย ทั้งที่เซ็กซี่ น่ารัก เป็นนักศึกษา มีทั้งสาวแท้ ทั้งสาวประเภทสอง ทั้งหมดนั่นส่วนมากเป็นวีเจอาชีพ
วันหนึ่งใครบางคนเปิดบทสนทนาหัวข้อว่า กว่าจะเป็นตัวท็อปในวงการ เจออะไรมาบ้าง
คนหนึ่ง พิมพ์มา "อมหัวแม่ตีนก็อมมาแล้ว"
ฉันที่ถือโทรศัพท์ดูไลน์ผ่านๆ เห็นข้อความนี้ถึงกับต้องไปเปิดดู จากนั้นก็มีข้อความจากคนอื่น คุยในแนวเกทับกันเอาสนุกสนาน
"หนูเจอตัดผมแหว่ง"
"เอาถาดตีหัว"
"โอ๊ย เด็กๆ พี่ หนูเคย โดนเอาค้อนทุบหัวตัวเอง"
ฉันอ่านข้อความด้วยความตกใจ และนั่นยังไม่พอ จากน้องคนนั้น พิมพ์ข้อความต่ออีกประโยคว่า
"จนเลือดอาบมาแล้ว"
เธอชนะในบทสนทนาการเกทับถึงการกลั่นแกล้ง ว่าใครเจอแรงกว่ากัน เพื่อแลกกับการเป็นวีเจตัวท๊อป "โห อันนี้สุดว่ะ" มีสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูน ตกใจ บ้าง บทสนทนาเรื่องนี้จบลงด้วยการคุยเรื่องอื่นๆ กันต่อว่า ช่วงนี้มีงานให้ส่งแคสที่ไหนอย่างไรบ้าง
"นี่เป็นเรื่องจริง ฉันขอย้ำว่านี่คือเรื่องจริง"
ผู้หญิงในกรุ๊ปไลน์เหล่านั้น น่ารัก สวย บอบบาง คุณไม่มีทางรู้เลยว่า พวกเธอเจอเรื่องแบบนี้ แต่ที่น่ากลัวจริงๆ คือเธอเจอเรื่องแบบนี้จนไม่มีความรู้สึกอะไรกับสิ่งเหล่านี้แล้ว...
ในโลกของฉันอาชีพนักดนตรีน่ะเหรอ เต็มไปด้วยผู้คนที่น่ารัก การทำอาชีพให้ความสุขกับผู้อื่น ก็ได้รับตอบแทนเป็นความสุขกลับมา ได้ทานของอร่อย ได้ไปในที่สวยๆ พบคนหลากหลาย คนส่วนมากติดต่องานพูดคุย กับฉันด้วยคำว่า "คุณ" หลายคนเป็น คนร่ำรวย หลายคนเป็นคนหล่อคนสวย คนมีชื่อเสียง เป็นคนอายุมาก เป็นคุณตา คุณยาย แต่ทุกคนล้วนให้เกียรติ อาชีพดนตรี
แบบที่เรียกว่า ได้รับการโอบกอด ต้อนรับด้วยด้วยความอบอุ่นเสมอ
หนุ่มๆ วง Gypsy Jazz ของฉัน ตอนนั้นทำงานในร้านที่สวยเหมือนในฝัน ชื่อ Wall Flowers
ฉันจึงเป็นวีเจ ที่ไม่เคยต้องเป็นวีเจ ฉันมาทำงานนี้เล่นๆ ได้เงินการันตีที่บริษัทเป็นคนจ่ายให้ หมดระยะเวลาก็ย้าย App ไปเรื่อยๆ ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครรู้จัก ไม่เป็นตัวท็อป ไม่เป็นคนดัง
แต่คนจำนวนน้อยที่มารู้จักฉัน หลายคนตามมาเป็นเพื่อนพี่น้องกันในชีวิตจริง
ก็ฉันมีแฟนเพจ และก็ไม่เคยปิดบังตัวจริงด้วยซ้ำ
แค่ไม่บอกถ้าใครไม่ถามก็เท่านั้น
ฉันใช้ชื่อ Pucco ในทุกแห่ง นี่ไม่ใช่นามแฝง นี่เป็นนามในการสร้างผลงานต่างๆ ทั้งผลงานเพลง แฟนเพจ หรือที่กำลังเขียนงานตอนนี้ด้วย ( อย่างเช่นตอนนี้คุณเอาชื่อนี้ไป เสิร์ช หาใน YouTube คุณก็จะเจอเพลงของฉัน )
ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ในชีวิต ฉันจะไม่มาเป็นวีเจอาชีพ เด็ดขาด
แต่แล้วในที่สุด เวลาแห่งความจำเป็นนั้น ก็มีขึ้นมาได้จริงๆ เมื่อ โควิท มาเยือน โลกใบนี้
ฉันทำงานดนตรี มาเกือบ 20 ปี ไม่มีเวลาไหนเลยที่ถึงกับไม่มีงานให้ทำ ถ้าไม่ร้องเพลง ก็ยังมีงานสอน มีสถานะการณ์ใดๆ ที่ผ่านมา จะน้ำท่วม การเมือง การสูญเสีย ก็เพียงแค่ชะลอตัว หรือรออะไรเข้าที่เข้าทางนิดหน่อย ก็ยังมีงานให้ทำเสมอ
ตอนนี้ฉันเหลือแค่งานวีเจให้ทำเพียงอย่างเดียว
สถานะการณ์คือ เงินการันตี ของ App นี้เข้าเดือนสุดท้ายที่ตกลงกันไว้ ในขณะที่ ข่าว พรก กำลังจะต่อออกไปอีกเดือน เงินการันตีที่ App ให้ในตอนนั้น ก็เท่า กับที่ รัฐบาล ให้มานั่นแหละ
แต่ก็เพราะจู่ๆ มีคนมาโยนของขวัญ ที่เปลี่ยนเป็นเงินใช้จ่ายได้มากกว่าที่ฉันคาดเอาไว้ หลายพันบาท ใช่ๆ ตอนนั้นฉันเพิ่งเคยสัมผัส ประสบการณ์พบกับสายเปย์ บน Application เป็นครั้งแรก
มาทราบทีหลังว่า จำนวนของขวัญที่เค้าโยนให้ฉันก็เป็นจำนวนที่มาก ผิดวิสัย ไม่ธรรมดา คือ เค้าโยนของขวัญเป็นมูลค่าเงิน 5000 บาท ในครั้งเดียว จะขอบคุณก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร จะว่ารู้สึกขัดใจก็ไม่เชิง แค่แผนที่วางไว้ว่าจะเลิกทำงานที่ Application แห่งนั้น ต้องเลื่อนออกไป แล้วฉันมาทำงานวีเจเหรอ ไม่ใช่ ก็บอกแล้วไง
"ตั้งใจมาซ้อมเปียโน"
1 บันทึก
2
3
2
1
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย