19 ส.ค. 2020 เวลา 11:40 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา ธนาคารออมสิน กำลังดิสรัป ธุรกิจนอนแบงก์
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา..
หนึ่งในความท้าทายของสถาบันการเงินในประเทศไทย
ก็คือการที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ
เริ่มผันตัวเข้าสู่ธุรกิจการเงิน
3
ซึ่งมันก็เริ่มเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้
ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยสินเชื่อจากแอปเรียกรถ เช่น Grab
หรือบริการผ่อนสินค้าแบบคิดดอกเบี้ยจาก Shopee
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่เป็นสถาบันการเงินเดิมเองก็จะพยายามรุกเข้าไปสู่ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องเช่นกัน
และหนึ่งใน ผู้เล่นเหล่านั้นมีชื่อว่า ธนาคารออมสิน..
โดยธนาคารออมสิน จะรุกเข้าสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งปกติสินเชื่อเหล่านี้จะมีสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือที่เราเรียกกันว่า นอนแบงก์ เป็นผู้เล่นหลัก
แล้วธนาคารออมสินสร้างความท้าทายอะไรขึ้นมากับผู้เล่นรายเดิม
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เมื่อไม่นานมานี้..
ธนาคารออมสินเพิ่งแต่งตั้งผู้อำนวยการธนาคารคนใหม่
คือ คุณวิทัย รัตนากร ซึ่งถือเป็นผู้อำนวยการธนาคารคนที่ 17
ตั้งแต่ธนาคารก่อตั้งมา 107 ปี
หลังจากขึ้นรับตำแหน่ง คุณวิทัย รัตนากร
ก็ได้วางกลยุทธ์ให้ธนาคารออมสินเป็น Social Bank
หรือ ธนาคารเพื่อสังคมอย่างเต็มรูปแบบ
2
โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่ถูกประกาศขึ้นก็คือ การนำธนาคารออมสินเข้าสู่ธุรกิจนอนแบงก์
ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
และเมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารออมสินก็เพิ่งเปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์
ที่น่าสนใจก็คือ ทางธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาให้ต่ำกว่าที่เป็นอยู่ในตลาด
ซึ่งมีแนวโน้มจะลดลงมากถึงครึ่งหนึ่ง หรือราว 10 - 14% ต่อปี
สำหรับสาเหตุที่ต้องปรับลดลง ธนาคารให้เหตุผลว่าสินเชื่อประเภทจำนำทะเบียนรถเป็นแหล่ง
เงินกู้อีกรูปแบบหนึ่งที่ประชาชนฐานราก หรือคนที่มีรายได้น้อยนิยมใช้บริการ
ในขณะที่ สิ่งที่ยังเป็นปัญหามาตลอดก็คือประชาชนฐานรากเข้าไม่ถึงเงินกู้ในระบบ
และต้องกู้จากนอกระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยราว 40 - 50% ต่อปี
1
และแม้ว่าประชาชนบางกลุ่มจะเข้าถึงเงินกู้ในระบบ เราก็จะพบว่าอัตราดอกเบี้ยนอนแบงก์
ยังสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ค่อนข้างมาก
แล้ว เพดานอัตราดอกเบี้ยธุรกิจนอนแบงก์ สูงขนาดไหน?
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต 16%
ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด 25%
ดอกเบี้ยจำนำทะเบียนรถ 24%
ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีการเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไป
ยกตัวอย่างเช่น
MTC และ SAWAD ที่ทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเพดานสูงสุดเล็กน้อย
Cr. ข่าวหุ้น
ในขณะที่ บริษัทบัตรเครดิตอย่าง KTC และ AEONTS คิดอัตราดอกเบี้ยที่เพดานสูงสุด
แน่นอนว่าหากธนาคารออมสินออกสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด
มันก็จะกดดันให้ผู้เล่นรายอื่นในระบบ มีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อแข่งขันกับธนาคารออมสิน
นั่นหมายความว่ากำไรของบริษัทเหล่านี้จะลดลงในระยะยาว
และนั่นก็จะนำไปสู่การประเมินพื้นฐานมูลค่าบริษัทที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
Cr. ไทยรัฐ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังน่าคำนึงถึงก็คือการบริหารความเสี่ยงภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
ว่าทางธนาคารออมสินจะมีเกณฑ์ในการคัดเลือกลูกหนี้ และควบคุมปริมาณหนี้เสียอย่างไร
เรื่องนี้ก็ถือเป็นหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
เพราะเดิมทีธุรกิจนอนแบงก์เป็นธุรกิจที่เอ็นจอยกับอัตราดอกเบี้ยปล่อยกู้ที่สูง
ในขณะที่ ต้นทุนการเงินต่ำ เพราะดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำมานาน
ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าลดดอกเบี้ยที่เก็บจากลูกค้าเท่าไรนัก
จะมีก็แต่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีหน้าที่กำกับดูแล ต้องสั่งให้ลดเพดานดอกเบี้ยลง
และแน่นอนว่าการเข้ามารุกธุรกิจนอนแบงก์ของธนาคารออมสินในปีนี้
ก็จะกลายเป็นอีกความท้าทายที่บริษัทเหล่านี้ต้องเผชิญ ไม่มากก็น้อย..
References
-เว็บไซต์ทางการของธนาคารออมสิน
-ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฆษณา