Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่ารัฐฉาน ล้านนา ล้านช้างและสยามประเทศ
•
ติดตาม
21 ส.ค. 2020 เวลา 18:28 • ประวัติศาสตร์
#พญากือนา ,พญาธรรมิกราช หรือ เจ้าท้าวสองแสนนา อันธรรมิกราช ยุคทองของพุทธศาสนาในล้านนา
เป็นพระมหากษัตริยล้านนา ลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1898 - พ.ศ. 1928 เป็นพระราชโอรสในพญาผายูกับพระนางจิตราเทวี
พญากือนามีศรัทธาในศาสนาพุทธอย่างแรงกล้า จึงโปรดให้อาราธนาพระสุมนเถรจากกรุงสุโขทัยมาประดิษฐานพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในล้านนา ในขณะนั้นมีพระจากลังกาเดินทางมาอยู่ที่เมาะตะมะ คือ “พระอุทุมพรบุบผามหาสวามี”
พญากือนาได้ส่งราชทูตไปนิมนต์มาที่เมืองของพระองค์ แต่พระอุทุมพรบุบผามหาสวามี ก็มีอายุมากแล้วซึ่งเดินทางลำบาก จึงได้ส่ง “พระอานันทเถระ” ผู้เป็นหลานไปแทน และเมื่อไปถึง พญากือนาต้องการให้ทำพิธีบรรพชาอุปสมบท พระอานันทเถระจึงได้ทูลพญากือนาให้ไปนิมนต์ “พระสุมนะเถระ” มาเป็นพระอุปัชฌาย์ และ “พระอโนมทัสสี” มาเป็นพระกรรมวาจา ในการบรรพชาอุปสมบทกุลบุตรชาวเมืองเพื่อสืบทอดศาสนา
หลังจากนั้นพญากือนาก็ทรงสร้าง เจดีย์วัดสวนดอก สำหรับเป็นที่จำพรรษาของพระสุมนเถระ
ในปี พ.ศ. 1914 และจัดทำเวียงสวนดอกให้เป็นเวียงพระธาตุเมื่อ พ.ศ. 1916 ต่อมาทรงโปรดให้สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระสุมนเถระอัญเชิญมาจากสุโขทัย โดยจัดสร้างขึ้น 2 แห่ง คือ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ โดยมีเจดีย์สุเทวบรรพรต
การรับอิทธิพลของสุโขทัยมาสู่ล้านนา
เมื่อพุทธศาสนาจากแคว้นสุโขทัยได้เข้ามาแพร่หลายในล้านนา มีผลทำให้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างล้านนากับอาณาจักรสุโขทัย ทั้งทางศาสนา ศิลปกรรม และประเพณี สมัยต่อมาพุทธศาสนาได้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของคนล้านนา พระสงฆ์ได้รับการยกย่องจากสังคมล้านนามากขึ้น บทบาทของพระสงฆ์มีหลายด้านด้วยกันอาทิเช่น ทางด้านการศึกษา พระสงฆ์มีฐานะเป็นครูของประชาชน
ด้านการเมืองในสมัยพญากือนา
พระสุมนเถระนั้นถือได้ว่ามีบทบาทอย่างสำคัญในการวางรากฐานพระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์ในล้านนา การเข้ามาของพระพุทธศาสนา จากแค้วนสุโขทัยทำให้มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างล้านนากับสุโขทัย ตั้งแต่สมัยพญากือนาเป็นต้นมา พบหลักฐานว่าพระสงฆ์ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินคดีความต่างๆร่วมกับขุนนางของบ้านเมือง และจากหลักฐานตำนานราชวงศ์พื้นเมืองเชียงใหม่เขียนว่า พระสงฆ์มีบทบาทในการว่ากล่าวตักเตือนพระมหากษัตริย์ล้านนาผู้ประพฤติไม่ถูกต้อง และยังเป็นที่พึ่งของราษฎรในยามบ้านเมืองอยู่ในความยุ่งยาก เช่น ภาวะสงคราม
ดังนั้นศูนย์กลางการศึกษาพุทธศาสนาเถรวาทลังกาวงศ์ในรัชสมัยของพระญากือนา พระญากือนาทรงสนับสนุนให้พระภิกษุจากเมืองต่างๆ เช่น เชียงแสน เชียงตุง เดินทางมาศึกษาพุทธศาสนาที่วัดสวนดอก เมืองเชียงใหม่จึงเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระธรรมวินัย นับเป็นความพยายามที่จะให้เชียงใหม่และล้านนาเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาแทนหริภุญชัยซึ่งเคยมีบทบาทมาก่อนหน้านั้น
การรับพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์จากสุโขทัยในสมัยพญากือนา เป็นจุดเริ่มต้นของความตื่นตัวทางด้านภูมิปัญญาศาสนา ซึ่งนำไปสู่ความเจริญของพุทธศาสนาในยุคทองของล้านนา ต่อมาอาณาจักรล้านนาในสมัยพระญากือนาจึงมีเสถียรภาพทั้งด้านการเมืองและการปกครองมากขึ้น
ยกเลิกส่งส่วยให้แก่พวกฮ่อ
ต่อมาพญากือนาได้ทรงยกเลิกการส่งส่วยต่อฮ่อ (จีน) ซึ่งได้เคยปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์มังรายตอนต้น ดังนั้นพอถึง พ.ศ. 1908 พญาฮ่อลุ่มฟ้าจึงทวงถามเอาส่วยข้าว 9000 คาน งาช้าง 20 หาบ ผ้าขาว 400 รำ ถ้วยแช่สัก 1000 ลาย 500 เขียว 200 ขาว 300 เป็นส่วยแก่เจ้าลุ่มฟ้า พญากือนาจึงปฏิเสธไม่ส่งส่วยต่อฮ่ออีก การไม่ทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ทำให้กษัตริย์เชียงใหม่องค์ต่อ ๆ มา คือ พญาแสนเมืองมา และพญาสามฝั่งแกน ก็พลอยไม่ส่งส่วยด้วย ภายหลังกองทัพฮ่อจึงยกมาทวงส่วยในสมัยของพระญาสามฝั่งแกน เมื่อพระองค์ไม่ยอมส่งให้ กองทัพฮ่อจึงเข้าล้อมเมืองเชียงแสน จนเกิดการรบและฮ่อก็พ่ายแพ้ไป
พระญากือนา ทรงสวรรคตขณะมีพระชนมายุ 46 พรรษา ทรงครองราชสมบัติได้ 30 ปี สถานที่ที่ทรงสวรรคตคือคุ้มเวียงบัว อันตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของวัดป่าเป้า ริมคูเมืองเชียงใหม่ด้านเหนือ ต่อมาคุ้มนี้ในสมัยของพระญาสามฝั่งแกน ได้สร้างเป็น “วัดพราหมณ์”
#ข้อมูลจากเพจแป้หม่าเก่า
บันทึก
3
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
กษัตริย์ในราชวงศ์มังราย
3
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย