22 ส.ค. 2020 เวลา 10:00 • การศึกษา
ดอกเบี้ยในอิสลาม (อัร-ริบา)
ถ้าจะอธิบายดอกเบี้ยในอิสลามง่ายๆ ก็คือการเกินเลยในการแลกเปลี่ยนซื้อขายกันที่ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการทำธุรกรรมใดๆ แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ศาสนาอิสลามห้ามเด็ดขาด(ฮารอม)และถือเป็นบาปใหญ่
ในอัลกุรอ่านได้กล่าวว่า “ บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย! พึงยำเกรงอัลลอฮฺเถิด และจงละเว้นริบา(ดอกเบี้ย) ที่ยังเหลืออยู่เสีย หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา และถ้าพวกเจ้ามิได้ปฏิบัติตาม ก็พึงรับรู้ถึงสงครามจากอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ และหากพวกเจ้าสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวแล้วสำหรับพวกเจ้าก็คือต้นทุนแห่งทรัพย์ของพวกเจ้า โดยที่พวกเจ้าจะได้ไม่อธรรม และไม่ถูกอธรรม ” (อัลกุรอ่าน 02:278-279)
และท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล.)ได้กล่าวว่า ” ผู้ใช้ ผู้ให้ ผู้บันทึก และผู้เป็นพยาน ในเรื่องของริบา (ดอกเบี้ย) ทั้งหมดนั้นย่อมเป็นผู้ที่ได้รับการสาปแช่งและเป็นผู้ที่ล้มเหลว “ (รายงานโดยมุสลิม, อบูดาวุด, อิบนุมาญะฮฺ, นาซาอี, อะหมัด)
“อีกทั้งท่านรอซูลยังสั่งให้ออกห่างจากสิ่งที่เป็นบาปใหญ่ทั้ง 7 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การกินริบา(ดอกเบี้ย) “(บันทึกโดย อัลบุคอรีย์ 2766 และ มุสลิม 89)
ประเภทของริบา
1. ริบานะสีอะฮฺ คือ ดอกเบี้ยจากการยืดเวลาชำระ เช่นการให้ยืมเงิน 1000 บาท และในอีก 1 ปีข้างหน้า เราเก็บเพิ่มเป็น 1200 บาท และเพิ่มขึ้นทุกๆปี
หรือการผันหนี้ให้แก่ผู้ขัดสนในเชิงที่ว่าเขามีหนี้สินที่ยังค้างกับบุคคลหนึ่ง เมื่อครบกำหนดเวลาจ่าย แต่เขายังไม่มีเงินที่จะชด บุคคลนั้นจึงกล่าวว่า “ท่านค่อยมาจ่ายก็ได้ แต่จะขอคิดดอกเบี้ยเพิ่ม” ทำให้จำนวนที่ต้องจ่ายของลูกนี้คนนี้นมีมากขึ้น สิ่งนี้แหละคือรากฐานของริบาหรือดอกเบี้ยในสมัยญาฮิลิยะฮฺที่อัลลอฮฺทรงห้ามไว้ ซึ่งริบาประเภทนี้ถือเป็นริบาที่อันตรายที่สุด เพราะมีผลเสียมากมายตามมา
และอัลลอฮฺได้กล่าวไว้อีกว่า “และหากเขา (ลูกหนี้) เป็นผู้ยากไร้ก็จงให้มีการรอคอย(ให้ผ่อนผัน) จนกว่าจะถึงคราวสะดวก และการที่พวกเจ้าจะให้เป็นทานนั้นย่อมเป็นการดีแก่พวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้” (อัล-กุรอาน 02:280)
2. ริบาฟัฎล์ คือ การแลกเปลี่ยนเงินกับเงิน หรืออาหารกับอาหาร โดยมีการเพิ่มเป็นส่วนต่าง เช่นการนำทอง 2 บาท มาแลกกับทอง 3 บาท ถือเป็นสิ่งที่ฮารอม โดยอิสลามได้ห้ามริบาประเภทนี้ซึ่งมี 6 สิ่งที่เข้าข่าย ได้แก่ ทองคำ เงิน ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ อินทผลัม และเกลือ
หากจัดกลุ่มในสาเหตุแห่งริบา(อิลละฮฺ)ทั้ง 6 ชนิดที่กล่าวข้างต้น จะได้
-อิลละฮฺเงินตราคือ เงินและทอง
-อิลละฮฺสิ่งที่ใช้ชั่งตวงและอาหารคือ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี อินทผลัม และเกลือ
โดยถ้ามีการแลกเปลี่ยนในอิลละฮฺ(สาเหตุของริบา)กลุ่มเดียวกัน เช่น อิลละฮฺเงินตรา คือทองคำกับทองคำ อิลละฮฺอาหาร คือข้าวสาลีกับข้าวสาลี มีเงื่อนไขว่า ต้องแลกเปลี่ยนในจำนวนที่เท่ากัน และส่งมอบในทันที หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ว่าแล้ว ถือเป็นสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนา
ถ้าอิลละฮฺกลุ่มเดียวกันแต่คนละชนิด เช่น แลกเงินกับทองคำ ที่อยู่ในอิลละฮฺเงินตราแต่คนละชนิดกัน หรือข้าวสาลีกับอินทผลัมซึ่งอยู่ในอิลละฮฺสิ่งชั่งตวงและอาหารแต่คนละชนิดกัน มีเงื่อนไขคือ อนุญาตให้แลกเปลี่ยนในจำนวนที่ไม่เท่ากันได้ แต่ต้องส่งมอบกันในทันที
และถ้าอิลละฮฺคนละกลุ่มกัน อนุญาตให้แลกเปลี่ยนในจำนวนที่ไม่เท่ากัน และค้างชำระได้ เช่นข้าวสาลี 1 กระสอบแลกกับเงิน 500 บาท (อิลละฮฺเงินตราแลกกับอิละฮฺอาหารหรือสิ่งตวง)
หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วการแลกเงินตราระหว่างประเทศล่ะ มันถือเป็นเงินแล้วงี้ก็ต้องแลกในจำนวนที่เท่าๆกันด้วยสิ่ ซึ่งต้องขออธิบายก่อนว่าเงินระหว่างประเทศถือเป็นอิลละฮฺกลุ่มเดียวกัน แต่คนละชนิด ดังนั้นแล้วการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศจึงอนุญาตให้มีการเกินเลยเรื่องจำนวนได้ แต่ยังคงต้องส่งมอบในทันทีอยู่ เช่น แลก 100 เหรียญสหรัฐกับ 3000 บาท หรือ 3200 บาท ตามแต่อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา
3. ริบาเงินกู้ คือ การที่บุคคลหนึ่งทำการให้กู้ยืมสิ่งใดสิ่งหนึ่งแก่ผู้อื่น แล้วมีข้อตกลงว่าต้องจ่ายคืนมากกว่าที่กู้ไป หรือเขาต้องให้ประโยชน์หนึ่งประโยชน์ใด เช่นให้เขาได้อยู่อาศัยในบ้านของผู้กู้ครึ่งเดือน ซึ่งริบานี้ถือว่าต้องห้าม แต่ถ้าหากเจ้าหนี้ไม่ได้วางเงื่อนไขไว้แล้วผู้กู้ได้ให้ประโยชน์หรือจ่ายสิ่งที่ดีกว่าด้วย(ความสมัครใจ)ตัวเองถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาตและได้ผลบุญ
แล้วจะทำยังไงกับดอกเบี้ยล่ะ
- หากยังไม่ได้รับริบามา ก็เอาเฉพาะต้นทุนแล้วปล่อยส่วนเกินไป
- เมื่อได้ริบามาแล้ว อย่าใช้มัน ทางที่ดีคือเอาไปบริจาค หรือใช้กับโครงการสารธารณะ เช่น สร้างเสาไฟฟ้า สร้างถนน และแนะนำอีกว่าให้รีบนำดอกเบี้ยออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะอาจจะเกิดกรณีที่มีการผสมกับระหว่างดอกเบี้ยกับเงินของเรา หรือการลืมว่ามีดอกเบี้ยอยู่
และอยากตักเตือนพี่น้องมุสลิมรวมถึงตัวแอดเองว่า สำหรับมุสลิมที่ทำงานกับธนาคารหรือองค์กรใดๆที่มีการรับหรือให้หรือข้องเกี่ยวกับริบาถือเป็นสิ่งต้องห้าม และค่าตอบแทนที่ได้จากสิ่งนั้นก็ถือว่าต้องห้ามด้วยเช่นกัน ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงมันให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
Wallahualam
ติดตามแบลงได้ที่ Ekonomi
บทความธุรกิจ การเงิน การลงทุนในโลกอิสลาม
โฆษณา