23 ส.ค. 2020 เวลา 07:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Paycheck (แกะรอยอดีต ล่าปมปริศา)
**คำเตือนเรื่องนี้เล่าโคตรละเอียดเหมือนเดิม ยาวมากกกกกกกก**
เป็นเรื่องที่วางปมปริศนาได้อย่างประทับใจ ตัวเรื่องล้ำอนาคต ต่อให้มาดูตอนนี้ก็ยังพบเรื่องที่ว่าแบบ เชี่ยยยย คิดได้ไงอะอยู่ :)
บทความนี้เล่าเรื่องทั้งเรื่อง ถ้าจะอ่านคำวิจารณ์อยู่ล่างสุดจ้า
ข้ามส่วนสปอยล์ไปยาวๆเลย
หนังเก่าของปี 2003 สร้างมาจากเรื่องสั้นของปี 1953 ในชื่อเดียวกัน เขียนโดย Philip K. Dick นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ กำกับภาพยนตร์โดย John Woo ดารานำได้แก่ Ben Affleck, Uma Thurman และ Aaron Eckhart
Paycheck (2003)
เรื่องมีอยู่ว่า
คำเตือน : เพื่ออรรถรสในการชม แนะนำให้ไปดูหนังเรื่องเต็มอย่างมาก **
******มีสปอยล์เนื้อหาทุกส่วน******
หนังเปิดมาที่งานแสดงโชว์สินค้า ที่กำลังเปิดตัวสินค้าล้ำยุคตัวใหม่ คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ฉายภาพ 3 มิติ เป็นลักษณะของ AI สาวที่โผล่หน้าออกมาจากจอแล็ปท๊อป (ครึ่งหน้า)เพื่อสนธนากับผู้คนที่ผ่านไปมา
ไมเคิล เจนนิ่ง(Micheal Jennings) รับบทโดย Ben Affleck ซื่อแล๊ปท๊อปต้นแบบไป 1 เครื่อง แล้วเดินทางไปที่สำนักงานแห่งหนึ่ง มีหญิงสาวผมบลอนด์นำทางเค้าไปยังห้องทำงาน พลางสนธนากันว่า เค้าจะจำเธอไม่ได้ถ้างานนี้จบลง เจนนิ่งบอกว่าเค้าน่าจะอยู่ที่นี่ไปอีกหลายเดือน
ผ่านไป 3 เดือน เจนนิ่งพรีเซ้นงานต้นแบบ ที่เหมือนกับ แล๊ปท๊อป AI สาวที่เค้าไปซื้อมา เว้นแต่ว่าคราวนี้เค้านำจอออกไปจากตัวเธอ และทำให้เธอเหมือนภาพโฮโลแกรม 3 มิติ ที่สามารถมองได้จากทุกมุม (ล้ำไปกว่าของที่ซื้อมา)
ภาพตัดมาที่ห้องควบคุม เจนนิ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้ผ่าตัด (ลักษณะเหมือนเก้าอี้ไฟฟ้า) พร้ออุปกรณ์สวมบนหัว อีกฝั่งนึงเพื่อนของเค้า Shorty (นำแสดงโดย Paul Giamatti) เป็นผู้ควบคุมเครื่องผ่าตัดสมองเค้า เครื่องมือนี้ search หาความทรงจำช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และยิงลบเซลล์สมองส่วนความจำนี้ทิ้งทั้งหมด โดย shorty ต้องควบคุมเครื่องไม่ให้อุณภูมิสมองของเจนนิ่งสูงเกินไป
เครื่องลบและตรวจสอบความทรงจำ
เจนนิ่งตื่นขึ้นมา พร้อมคำถามจากทุกคนที่มุงดูเค้าอยู่ สิ่งที่เค้าจำได้คือเรื่องเมื่อ 3 เดือนก่อน สิ่งแรกที่จำได้คือทีมเบสบอลทีมโปรด red sox ชนะการแข่งขัน
เจนนิ่งกลับบ้านดูทีวี และพบว่า บริษัทเน็กซิม ที่เค้าเข้าไปทำภารกิจ เปิดตัว AI สาวแบบ 3 มิติ ตัดหน้าคู่แข่งอย่างบริษัทอาร์คที่เปิดตัวแล๊ปท๊อปต้นแบบไป 3 เดือนก่อน เจนนิ่งรู้ได้ในทันทีว่านั่นฝีมือเค้าเอง
เค้าได้รับจดหมายจากเพื่อนเก่าอย่าง James Rethrick (นำแสดงโดย Aaron Eckhart) CEO ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จาก Allcom ให้ไปร่วมงานเลี้ยง และบอกเจนนิ่งว่า ทีม red sox แพ้
เจนนิ่งไปร่วมงานเลี้ยง และได้พบกับสาวสวยอย่าง ดร.เรเชล พอตเตอร์ (นำแสดงโดย Uma Thurman) ที่เค้าปิ๊งเธอในทันที และเข้าไปคุยอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องปิ้ว เจนนิ่งดูจะตัดใจ แต่ ดร.พอตเตอร์ ก็บอกเค้าว่า เค้าไม่เชื่อในหนที่ 2 หรอ เค้าและเธออาจจะได้เจอกันอีกก็ได้
เจนนิ่งเข้าไปคุย กับ เจมส์ (Ceo Allcom) อย่างสนิทสนมแบบเพื่อนเก่า เจนนิ่งเรียก เจมส์ว่า จิมมี่ และ จิมมี่เรียกเค้าว่า ไมค์ // จิมมี่ เสนอภารกิจให้เค้าเข้ามาจัดการ เนื่องจากรู้สถานะ และอาชีพที่แท้จริงของเจนนิ่ง พร้อมกับการเป็นหุ้นส่วนโปรเจ็ค และการันตีรายได้ 8 หลัก แต่แลกกับการที่เค้าจะต้องทำโปรเจคนี้ยาวนานกว่าทุกโปรเจค ด้วยระยะเวลา 3 ปี
จิมมี่ และ ไมค์
เจนนิ่งตาโตกับเงินก้อนใหญ่ ที่เค้าเองจะไม่ต้องทำไรแล้ว ได้อยู่อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงจากการถูกลบความทรงจำ เพราะเป็นความทรงจำที่ยาวนานที่สุดที่จะถูกลบ
ในที่สุด ไมค์ ตกลง และเดินทางไปยังสถานที่ตั้งบริษัท AllCom (บริษัทขนาดใหญ่ความปลอดภัยแน่นหนา) เค้าไปเจอจิมมี่ ที่นั่นเอง จิมมี่รออยู่กับ วูล์ฟ (นำแสดงโดย Colm Feore) มือขวาของจิมมี่ วูล์ฟฉีดยาเพื่อตรึงความทรงจำของไมค์ และบอกว่าเค้าจะฉีดอีกครั้งหลังจบภารกิจ เพื่อลบความทรงจำทั้งหมด นับจากวินาทีนี้
จิมมี่พาไมค์ เดินทางผ่านห้องต่างๆ จนไปถึงห้องทดลองเกี่ยวกับพืชพันธุ์ และลมฟ้าอากาศ ไมค์ถูกแกล้งด้วยการเปิดโหมดพายุ เค้ายอมแพ้ และได้พบว่าคนที่แกล้งเค้าคือ ดร.เรเชล พอตเตอร์ นักชีววิทยา ที่ทำงานให้กับจิมมี่ ไมค์และเรเชลพบกันอีกครั้ง (แต่คราวนี้ไมค์รู้ดีว่า เค้าอาจจะลืมเธอในอนาคต)
Dr. Rachel Porter
ไมค์ยังยืนยันที่จะทำภารกิจ จิมมี่พาเค้าไปพบกับ ดร.เดคเกอร์ นักวิทยาศาสตร์ที่มาพร้อมกับกระเป๋าทดลอง และเปิดงานทดลองให้ไมค์ และจิมมี่ดู ///
ภาพตัดมาอีกครั้ง ไมค์ถูกวูล์ฟฉีดยารอบที่ 2 ไปแล้ว เค้าจำอะไรไม่ได้เลย จิมมี่บอกเค้าว่า เค้าทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว และมันสุดยอดมาก เค้าจะได้รับค่าตอบแทน ให้ไปรับที่สำนักงานเรดดี้แกรนด์
ไมค์กลับมาบ้านตรวจเช็ค หุ้นของ Allcom และพบว่ามันทะลุเพดาน หุ้นเค้า 5000 หุ้นมีค่าพุ่งไปสูงถึง 98 ล้าน ดอลลาร์ เค้ายิ้มรับเงินก้อนโตที่กำลังจะไปรับในวันรุ่งขึ้น
ไมค์เดินทางไปเรดี้แกรนด์ พนักงานสาวนำซองใส่ของสีน้ำตาลมาให้ แจ้งว่าเป็นของส่วนตัว ยังเล่นมุกว่าเค้าติดแสตมป์มาเยอะเกินนะ เค้าติด 4 ดวงก็พอ แต่นี่เค้าติด 6 ดวง ไมค์บอกว่าอีกแค่ไม่กี่ตังหรอกแสตมป์ เด๋วเค้าก็รวยแล้ว ไมค์ถามถึงเช็ค และเอกสารอื่นๆที่เค้าต้องได้รับเป็นค่าตอบแทน หญิงสาวตอบว่า เค้าสละสิทธิ์ไปแล้ว เมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน แลกกับของส่วนตัวนี้
ไมค์หงุดหงิดมาก เค้าเทของจากในซองออก และพบว่ามันไม่มีอะไรที่เหมือนจะเป็นของเค้าเลย ทั้งแว่นตาเห่ยๆ เลนส์แว่นขยาย คลิปหนีบกระดาษ บุหรี่ และของจิปาถะอื่นๆอีกหลายชิ้น ที่เค้าไม่คิดว่ามันเป็นประโยชน์ ต้องมีใครแกล้งเค้าแน่ๆ เค้าโวยวาย และออกจากบริษัทไป
ระหว่างทางถูกลอบทำร้าย และถูกตำรวจจับไปสอบสวน ณ ห้องสอบสวน ตำรวจ 2 นาย(ดอจด์ และ เคลน) แจ้งว่าเค้ารู้นะ ว่าไมค์ เป็น reverse engineer คือเป็นวิศกรอัฉริยะที่ ทำการทดลองค้นคว้าและต่อยอดจากของที่มีอยู่แล้ว ให้สุดยอดมากขึ้น และเค้าเข้าไปพัวพันกับ นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ดร.เดคเกอร์ ที่ตายอย่างเป็นปริศนาเมื่อ 2-3 เดือนก่อน (ดร.เดคเกอร์ ทำการค้นคว้าลับบางอย่าง ที่รัฐบาลไม่เห็นชอบ)
Special Agent Dodge & Special Agent Klein
ไมค์ บอกว่าเค้าไม่รู้อะไรเลย เค้าถูกลบความทรงจำไปแล้ว เหมือนทุกครั้ง และของในซองน้ำตาลนั่นของใครก็ไม่รู้ ให้ตำรวจทั้ง 2 นายเชื่อ เคลนเอานาฬิกามาใส่ข้อมือไมค์พบว่ามันพอเหมาะพอเจาะ และใช้วิธี ตรวจหาความทรงจำเก่า ที่อาจจะเลือนลาง หรือลบไม่หมดด้วยเครื่องสวมหัว เค้าเจอความทรงจำลางๆที่ประติดประต่อไม่ได้ และเครื่องเกินขีดจำกัดไปแล้วจนเครื่องขัดข้อง
ดอจด์ขอตัวไปสูบบุหรี่ เจ้าหน้าที่พบว่ามีบุหรี่อยู่ในซองเอกสารส่วนตัวที่ได้มาจากไมค์ และโยนให้ดอจ์ดสูบ ทันทีบุหรี่ถูกจุด ควันบุหรี่ลอยไปแตะสัญญาณกันไฟไหม้ ทำให้ปล่อยน้ำและควันต่างๆออกมาเพื่อดับไฟ เก้าอี้ไฟฟ้าของไมค์ปลดล็อค เค้ารีบตรงไปที่ซองของส่วนตัว เค้าจำได้ว่ามีแว่นที่สามารถมองเห็นในสถานการณ์แบบนี้ได้ เค้าหยิบแว่นมาสวม และวิ่งออกไปจากอาคาร
วูล์ฟ และพวก เฝ้ามองเค้าอยู่นอกอาคาร หลังจากเห็นไมค์วิ่งออกมาจากอาคาร ก็ตามตัวไมค์ไปในทันที
ไมค์วิ่งหนีตำรวจไปจนถึง สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เค้าจนมุม แต่ก็พบว่าในซองสีน้ำตาลที่เค้าพกมาด้วยนั้น มีบัตรรถไฟฟ้า ทำให้เค้าเข้าไปในสถานีได้ แต่ไม่ทันแล้วรถไฟไปซะก่อน เค้าหนีกระสุนจากทีมงานของวูล์ฟ ลูกแล้วลูกเล่า จนเข้าไปอยู่ในห้องเครื่อง ไมค์แย่งปืนของนักฆ่าคนนึงมาได้ แต่ตัวเองก็ไปอยู่ที่รางรถไฟ
ไมค์ และวูล์ฟ
ไมค์ไม่ใช่นักฆ่า เค้าไม่ฆ่าใคร เพียงแต่ทำให้สลบเท่านั้น ไมค์ไม่ยิงลูกสมุนของวูล์ฟ และบอกให้เค้าหนีไป แต่เป็นวูล์ฟเองที่ยิง ทั้งคู่จ่อปืนเข้าหากัน รถไฟกำลังจะมา วูล์ฟ ไม่ยิงไมค์ แต่เดินขึ้นไปในช่อง service ทิ้งให้ไมค์อยู่ที่รางรถไฟ และรอรถไฟมาทับ
ไมค์เจอตู้ควบคุมรถไฟขณะเค้าอยู่ที่ราง ไมค์ทุบตู้ให้เปิดออก และใช้คลิปหนีบกระดาษในซองสีน้ำตาลที่เค้าพกมาด้วย เพื่อหยุดรถไฟ แต่ยังไม่สำเร็จวูล์ฟพยายามยิงเค้าทำให้เค้าต้องคาคลิปหนีบกระดาษไว้กับตู้ และวิ่งหนีรถไฟที่พุ่งตรงเข้ามา
ในที่สุดคลิปหนีบกระดาษก็ทำงาน รถไฟหยุดก่อนที่จะชนไมค์ที่สะดุดล้มได้พอดิบพอดี เค้าหนีพ้นจากการตายรอบนี้ไปได้ ไมค์ไปเช่าโรงแรมอยู่ และเทของที่อยู่ในซองสีน้ำตาลออกมาดู พบว่ามีแต่ของที่เค้าไม่เข้าใจ มีกล่องสีแดงแปลกๆจาก ออมสินลิเบอตี้ ที่เค้าโทรไปหาไม่พบว่ามีตัวตน เค้ายังพบเศษกระดาษตัวเลข และข้อความปริศนาให้มองหาในที่แคบที่ไม่มีทางออก ในนั้นจะเจอขุมทรัพย์ เค้าโทรหาช็อตตี้ เพื่อนรักที่สุด ช็อตตี้นัดเค้าออกมาเจอโดยไม่ลังเล ที่ศูนย์อาหารแห่งหนึ่ง
Paycheck 2003
ไมค์เล่าให้ช๊อตตี้ฟังว่า ตำรวจบอกว่าเค้าไปพัวพันกับ ดร.เดคเกอร์ ช็อตตี้บอกว่า เค้าได้ข่าวว่า ดร.เดคเกอร์ กำลังทำการทดลองบางอย่างเกี่ยวกัยแสงเลเซอร์ ระหว่างั้น ทีวี ที่อยู่เหนือหัวของทั้งคู่กำลังประกาศผลรางวัลฉลากกินแบ่ง และตัวเลขที่อยู่ในซองนั้นเอง คือตัวเลขที่ถูกต้อง มันคือเลขฉลากรางวัลที่ 1!!
/// ขณะเดียวกัน จิมมี่ สงสัยมากว่าไมค์หนีจากเรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไร ทั้งที่เค้าควรจะตายไปแล้ว ตั้งแต่การสืบสวนของตำรวจ จิมมี่รีบไปเช็คเครื่องมองอนาคตของเค้า ปรากฎว่า ไมค์วางบั๊ก เอาไว้ทำให้เครื่องขัดข้อง จิมมี่จึงให้นักวิทยาศาสตร์ของตน หาบั๊กเพื่อแก้ไขให้เร็วที่สุด และฆ่าไมค์ให้ได้///
ไมค์ประติดประต่อเรื่องทุกอย่างได้ทันที เค้าบอกกับช็อตตี้ว่า เค้าน่าจะกำลังสร้างเครื่องมือที่สามารถมองเห็นอนาคตของตัวเองได้ ช็อตตี้เหลือเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไมค์ยื่นเลขรางวัลให้ช็อตตี้ดู เค้าทำเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเข้าแล้ว
กระสุนจากมือปืนหลายคนพุ่งไปที่ ไมค์ และช็อตตี้ ไมค์มีกุญแจเข้าห้องไฟ ของอาคารจากในซอง เค้าให้ช็อตตี้เข้าไปปิดไฟ และทั้ง 2 อาศัยช่วยชุลมุนหนีออกมาได้ ไมค์กลับห้อง และพบว่าเค้ายังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อ
ไมค์ไปล้างหน้า และน้ำกระเด็นไปโดนกล่องสีแดง ออมสินลิเบอตี้ สีลอกออกโดยง่าย พบว่าแท้จริงแล้วมันเป็นกล่องของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไมค์รีบโทรไปยังร้านอาหาร และถามพนักงานว่าเค้าได้จองโต๊ะไว้หรือป่าว ปรากฏว่าเป็นไปตามคาด ไมค์จองโต๊ะอาหารไว้ และเค้าตั้งใจจะไปตามนัด..
ตัดมาที่ฝั่งของ จิมมี่ CEO หนุ่มที่อัฉริยะไม่แพ้ไมค์ เค้าไปหาเรเชล แฟนสาวของไมค์เพราะคิดว่า ไมค์ ไม่มีทางทิ้ง เรเชล ทั้งคู่คบกันมาตลอด 3 ปีที่ไมค์ทำงานให้กับ จิมมี่
Paycheck 2003
จิมมี่ไปหาเรเชลเพื่อบอกว่า ไมค์ไปแล้วตลอดกาล เค้าถูกลบความทรงจำไปแล้วเนื่องจากเสร็จสิ้นภารกิจ เรเชลเสียใจมาก จิมมี่รู้ได้ทันทีว่าเรเชลไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับไมค์ในตอนนี้ แต่เค้าก็ยังจับตาดูเธอต่อ ผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ที่บ้าน
เรเชล อาบน้ำไปร้องไห้ไป แต่ทันใดนั้นเองเธอก็ยิ้มออกมาที่หน้ากระจก ขณะกำลังจะแต่งตัว จิมมี่สั่งให้คนไปติดตามเธอทันที และให้ วูล์ฟ ไปค้นบ้านเธอเพื่อหาข้อมูลที่ไมค์ทิ้งเอาไว้ เรเชล สลัดคนของจิมมี่มาได้ และเดินทางไปหาไมค์ตามจุดนัดพบ
วูล์ฟแจ้งจิมมี่ว่า เค้าค้นหาจนทั่วห้องก็ไม่เจอสิ่งผิดปรกติ จิมมี่ จึงให้วูล์ฟไปอยู่ในที่เดียวกันกับตอนที่เรเชลเจออะไรบางอย่าง วูล์ฟไปยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ เค้าฉีดสเปรย์ไปที่กระจก และพบข้อความนัดหมายเรเชล ที่ร้านอาหาร..
จิมมี่ จัดการตลบหลังไมค์ โดยให้ มายา หญิงสาวที่มีลักษณะคล้างกับเรเชล ไปเจอไมค์ที่ร้านอาหารที่จองเอาไว้ พร้อมกับวูล์ฟที่ซุ่มยิงอยู่นอกร้านอาหาร ไมค์ ไม่ไว้ใจเธอในทีแรก แต่ด้วยมายามีจิมมี่คอยสั่งการ จึงโน้มน้าวจิมมี่ ให้เทของในซองให้เธอดู และขอคีย์การ์ดสำหรับเข้าตึกของไมค์มา ไมค์ยืนคีย์การ์ดให้มายา เธอมากล่าวลาและจูบไมค์ส่งท้าย
Maya
ไมค์จำจูบและตาของเรเชลได้ และรู้ว่านี่ไม่ใช่เธอ จึงถามเรเชลว่า ทีมเบสบอลทีมโปรดของเค้าคือทีมอะไร มายา ตอบไม่ได้ และตอบไปว่า ใครสนกันล่ะ ก่อนที่เธอจะถูกฟาดด้วยกระเป๋าของเรเชลตัวจริง ไมค์และเรเชล หลบกระสุนที่พุ่งเข้ามาภายในร้าน
ทั้งคู่หนีไปหลังร้าน ไมค์หยิบกุญแจรถ BMW จากในซองน้ำตาลของเค้าออกมา พร้อมกับบอก เรเชลว่า ต้องมีซักคันนี่แหละที่เป็นของเค้า แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เรเชลเลยบอกว่า เราอาจจะมาหาผิดหมวดก็ได้ /// พวกเค้าก็เจอ BMW แต่ไม่ใช่รถยนต์ แต่เป็นรถมอเตอร์ไซต์คันเท่ ทั้งคู่ขับหนี วูล์ฟและสมุน อย่างดุเดือด รวมไปถึง แก๊งตำรวจ ดอจด์และเคลน ที่ก็จะจับตัวไมค์ด้วยเหมือนกัน /// ทั้งคู่หนีรอดมาได้
เรเชลนำชุดมาให้ไมค์เปลี่ยน พร้อมกับภาพถ่าย และวิดีโอ ช่วงเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ไมค์ขอโทษที่จำอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้ทั้งคู่ยังงง ว่าจะทำอะไรต่อไป ไมค์เหลือบไปเห็น เลนส์แว่นขยาย ที่เค้ายังไม่ได้ใช้ และนึกถึง ของ 20 ชิ้นในซอง แต่เค้าพบว่าในซองจริงๆแล้วมี 19 ชิ้นเท่านั้น ชิ้นที่ 20 อยู่ไหนละ
แสตมป์บนซองนั่นแหละ คือสิ่งที่เกินมา เค้าใช้เลนส์ตรวจสอบดู พบว่ามีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ในดวงตาของ แสตมป์หน้าไอสไตน์ ทั้งคู่นำซองไปตรวจสอบที่โรงเรียนประถมตรงข้ามโรงแรมทันที
ในดวงตาไอสไตน์พบว่ามีพาดหัวข่าวหนังสือพิพม์ เกี่ยวกับการมองเห็นอนาคตของบริษัท Allcom สงครามเกิดขึ้นจากการ เริ่มยิงอีกฝั่งก่อนเพื่อให้เกิดการได้เปรียบ การระเบิดขนาดใหญ่ ที่ทำลายคนทุกคน จากอนาคตที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้
ไมค์ ตัดสินใจทำลายเครื่องมือมองเห็นอนาคตนี้ เค้าจะกันให้เรเชลออกจากเรื่องนี้แต่เธอไม่ยอม และขอช่วยกับปฎิบัติการนี้อย่างถึงที่สุด ทั้งคู่ตัดสินใจบุกบริษัท Allcom...
/// ทางจิมมี่ นักวิทยาศาสตร์ของเค้าก็ยังหาบั๊กที่ทำให้เครื่องขัดข้องไม่ได้ เค้าบอกกำจิมมี่ว่า มันจะง่ายกว่านี้มากถ้าเค้าเป็นคนวางบั๊กเอง จิมมี่คิดว่าถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องให้คนที่วางบั๊กหรือคือไมค์ มาจัดการเอาบั๊กออกก่อน แล้วก็ฆ่าไมค์ทิ้งซะ///
ไมค์และเรเชลเข้าไปยัง Allcom โดยการใช้ลูกเหล็กในซองน้ำตาล ดึงความสนใจจากการ์ดของ Allcom แต่หารู้ไม๊ว่าทุกอย่างอยู่ในการมองเห็นของจิมมี่
จิมมี่ให้การ์ดที่ป้องกัน ห้องเครื่องมองอนาคต ออกไปให้หมดเพื่อเปิดทางให้ไมค์และเรเชลเข้าไปยังห้อง เรเชลจะทุบประตูล็อคด้วยประแจอันใหญ่ แต่ไมค์ห้ามไว้ก่อน แล้วใช้ตัวไขกุญแจ กับเหรียญ จากในซองน้ำตาล จัดระบบประตูล็อคใหม่
เค้าไปลองใช้เครื่องและพบว่ามันติดบั๊ก จึงลงไปหาบั๊ก ด้วยเศษกระดาษอักษรไขว้(cross word) ที่อยู่ในซองน้ำตาล เค้าอ่านคำใบ้ว่ามันอยู่ในแถว 12 และพลิกกระดาษไปมา จนเจอเข้ากับบั๊กที่เค้าวางไว้อย่างง่ายดาย
ไมค์และเรเชลขึ้นไปที่เครื่องมือมองอนาคต ไมค์ใช้มันและพบว่า เค้ากำลังจะถูกยิงบน catwalk ของห้องทดลองภายในอาคาร /// จิมมี่รู้แล้วว่าเครื่องใช้การได้เหมือนเดิม เค้าและวูล์ฟ พยายามพังประตูเข้ามา
Paycheck 2003
ไมค์กับเรเชล หนีออกไปทางช่องงานระบบขนาดใหญ่ด้านล่างอาคาร ก่อนไมค์จะไป เค้าวางกับดักที่ตัวเครื่องด้วยลูกกระสุนที่อยู่ในซองน้ำตาล
ไมค์และเรเชล ต้องสู้กับสมุนของจิมมี่ และโดนจิมมี่ไล่ล่า ภายในอาคาร ในที่สุด ไมค์ให้เรเชลหลบออกไปได้ แต่เค้าจะสละตัวเองอยู่ที่นี่ เค้าบอกให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และไม่ลืมเค้าก็พอ
ไมค์และจิมมี่สู้กันอย่างดุเดือด ภายใต้การจับตามองของตำรวจที่แฝงตัวเข้ามา ไมค์และจิมมี่มาประทะกันในตอนสุดท้าย บน catwalk จิมมี่หวังจะปลิดชีพไมค์ด้วยตัวเอง ทันใดนั้นสมุนของจิมมี่ก็นำเรเชลเข้ามาหาไมค์
/// ในขณะเดียวกัน วูล์ฟ ลองใช้เครื่องมองอนาคต เพื่อดูอนาคตของตัวเอง เค้าพบว่า หลังจากเค้าใช้เครื่องนี้ เครื่องจะเกิดการระเบิดขึ้น และเค้าเองที่กำลังจะถูกระเบิด ตู้ม!!! ทุกอย่างเกิดขึ้นตามภาพที่เค้ามองเห็นแทบจะทันที
เรเชล พูดกับไมค์ว่า เค้าเชื่อในโอกาสครั้งที่ 2 หรือเปล่า? ไมค์ตอบเรเชลพร้อมกับยิ้มไปว่า "รู้อะไรไม๊ครั้งนี้ผมเชื่อแล้วล่ะ"
หัวหน้าของเคลนและดอจด์ ให้ตำรวจที่ซุ่มอยู่ยิงไมค์ จังหวะเดียวกับ ที่จิมมี่กำลังจะยิง ทันใดนั้น นาฬิกาข้อมือ ของชิ้นสุดท้ายที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากในซองน้ำตาล ที่ติดมือไมค์มาตลอด ก็ดังขึ้น หน้าจอเขียนว่า "GO!!" จังหวะนี้แหละ ไมค์และเรเชล หลบกระสุน กระสุนจากตำรวจพุ่งเข้าใส่จิมมี่อย่างจัง
ไมค์ทิ้งนาฬิกาไว้ที่เกิดเหตุ และหนีออกจากที่นั่นพร้อมเรเชล แก๊งตำรวจ เคลน และดอดจ์ มาถึงที่เกิดเหตุ ทั้งคู่แจ้งหัวหน้าว่าข้อมูลทุกอย่างถูกทำลาย ดอดจ์เจอนาฬิกาของไมค์ แต่ก็รายงานหัวหน้าว่า ไมค์น่าจะเสียชีวิตแล้วในที่เกิดเหตุนี่แหละ
/// ตัดภาพมาไมค์และเรเชลกำลังดูแลต้นไม้ ในเรือนกระจกขนาดใหญ่ของช็อตตี้ ช็อตตี้มาหาทั้งคู่ พร้อมกับกรงนกแก้วคู่รักที่เป็นของไมค์และเรเชล ช็อตตี้พูดติดตลกว่า อย่างน้อยนายน่าจะเอาเงินมาบ้าง ไม่ใช่ทิ้งไปหมดเลย ไมค์นึกถึงข้อความปริศนาหลัง เลขล็อตเตอร์รี่ที่อยู่ในซองสีน้ำตาล มันบอกว่า ให้หาในที่อับที่ไม่มีใครออกมากได้ (ซึ่งคือกรงนก) มองไปด้านใต้จะเจอกับขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ /// ไมค์บอกเรเชลว่าเค้ารู้ว่าเราไม่มีทางทิ้งนกแก้ว 2 ตัวนี้ ไมค์เดินไปเปิดฐานกรงนก เค้าพบกับ ตั๋วฉลากกินแบ่ง (หวย) รางวัลที่ 1 ที่เค้าซุกเอาไว้ใต้กรง !!!!!!!
******จบสปอยล์จ้า******
ยิ่งเรารู้อนาคตเราก็จะทำตามอนาคต และไม่กำหนดเส้นทางใหม่ให้กับตัวเอง นั่นคือผลของคนที่รู้อนาคตจากในหนังเรื่องนี้
แต่ไม่ใช่กับไมค์ เค้าหาวิธีทำให้เค้าเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ผ่านของใช้ธรรมดา (ซึ่งว่าไม่ได้เพราะเค้าเป็นวิศวกรอัจฉริยะอะนะ)
1
เราชอบที่ไมค์ไม่ค่อยทึ่งกับความอัจฉริยะของตัวเอง เค้าไม่ใช่คนหลงตัวเอง เค้าทำงานเพื่อเงินเลย ไม่เอาเครดิตผลงาน จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ซึ่งความมุ่งมั่นกับงาน แล้วก็ช่างสังเกตช่างคิดนี่แหละ ทำให้เค้าเอาตัวรอดได้จากทุกสถานการณ์
ดร.พอตเตอร์ สวย กล้าหาญ ฉลาด และพร้อมที่ช่วยคนที่เธอรักอย่างสุดความสามารถ ทำให้ 2 คนนี้ เคมีเข้ากันดีมาก
เรื่องนี้ดูเมื่อนานมาแล้ว แต่พอได้ดูอีกครั้งก็ยังพบว่ามันล้ำมากอยู่ นักแสดงแม่เหล็กหลายคน อย่างเช่น Uma Thurman (Kill bill) และ Aaron Eckhart (ฮาวี่เด้น หรือ 2Faces จาก The dark night)
แนะนำสำหรับคอหนัง Action Sci-fi ต้องไม่พลาด
10/10
Qwa 23.08.2020
โฆษณา