Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ย้อนรอย คดีดัง
•
ติดตาม
23 ส.ค. 2020 เวลา 16:13 • ประวัติศาสตร์
สงครามเวียดนาม: ฝันร้ายที่ยังตามหลอกหลอนเหยื่อผู้รอดชีวิต
ชายคนนั้นเข้ามาซื้อซอสถั่วเหลืองที่ร้านของจัน ทิ ไหง หญิงสาวชาวเวียดนามใต้ ปกติแล้วเธอทำงานเป็นพยาบาลและผดุงครรภ์ แต่เช้าวันนั้นเธอมาช่วยพ่อแม่เฝ้าร้านขายของชำของครอบครัวชั่วคราว ระหว่างที่พวกเขาไม่อยู่
ชายคนนั้นเป็นทหารชาวเกาหลีใต้ เขามีระเบิดมือห้อยอยู่ที่ชุดเกราะและมีปืนพกที่เข็มขัด ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนของปี 1967 ที่สงครามเวียดนามกำลังยกระดับทวีความรุนแรงขึ้น โดยกองทัพสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกำลังปะทะกับเวียดกง หรือกองกำลังคอมมิวนิสต์จากเวียดนามเหนืออย่างดุเดือด
เมื่อทหารเกาหลีใต้คนนั้นยื่นเงินค่าซอสถั่วเหลืองให้และหญิงสาวยื่นมือไปรับ เขากลับคว้าแขนและจิกกระชากผมของเธอ ลากตัวเธอเข้าไปข้างหลังร้าน ก่อนจะลงมือข่มขืนอย่างทารุณ
จันย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า "ฉันรู้สึกเหมือนชีวิตจบสิ้นแล้ว" สิ่งเดียวที่เธอทำได้เพื่อลืมเรื่องเลวร้าย ก็คือการทุ่มเทพลังกายใจทำงานให้หนักยิ่งขึ้นกว่าที่เคย
เมื่อจันพบว่าหน้าท้องของเธอบวมโตขึ้น เธอคิดว่าอาจเป็นแค่เพราะตัวเองเริ่มอ้วนกว่าเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งเธอรู้สึกถึงแรงดิ้นถีบของทารกในครรภ์ จึงได้รู้ตัวว่าตั้งท้องอย่างแน่นอนแล้ว
พ่อแม่ของจันรับไม่ได้ที่ลูกสาวมีครรภ์ทั้งที่ยังไม่ได้สมรส เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างร้ายแรงสำหรับสังคมที่หลักศีลธรรมของลัทธิขงจื๊อยังมีอิทธิพลอย่างสูง ในยุคนั้นผู้หญิงถูกคาดหวังให้รักษาความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงาน
พ่อแม่ของจันหยุดตบตีลงโทษเธอ เมื่อเธอคลอดลูกในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 1968 จันดีใจมากที่ลูกสาวเกิดมาหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่ความปลื้มปีติยินดีนั้นอยู่ได้เพียงชั่วครู่ ก่อนที่ความห่วงกังวลสารพัดจะเข้ามาแทนที่ "ฉันกลุ้มใจมากว่าจะเลี้ยงลูกให้เติบโตได้อย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย จะกลับไปทำงานอย่างเดิมเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและลูกได้เมื่อไหร่"
จันตั้งชื่อลูกสาวว่า "อ๋วนห์" แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้ชื่อกลางของลูกแสดงถึงชาติกำเนิดที่มาจากแดนไกลด้วย ชื่อกลางของทารกน้อยจึงเป็น "คิม" ตามชื่อสกุลของทหารเกาหลีใต้ที่ข่มขืนเธอ
หลังคลอดลูกได้ไม่นาน ทหารคนนั้นได้กลับมาหาจันอีกครั้ง เขายืนมองเธออยู่ครู่หนึ่งโดยไม่พูดอะไรสักคำ ก่อนจะเดินจากไปดื้อ ๆ สองสามวันต่อมาเขาส่งเพื่อนทหารอีกคนหนึ่งมารับจันกับลูกไปอยู่ด้วยกันในฐานที่มั่น ซึ่งก็คือค่ายของ "กองพลม้าขาวเกาหลี"
ความอ้างว้างโดดเดี่ยวและความรู้สึกอับอายต่อสังคม ทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมตามไปอยู่กินกับอาชญากรที่ข่มขืนเธอเป็นเวลานานถึง 2 ปี ทั้งยังมีลูกสาวกับเขาเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง
ฉันกลัวและระแวงพ่อของลูกตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน กลัวว่าตัวเองและลูกจะตกอยู่ในอันตราย ไม่มีความรักอยู่ที่นั่น มีเพียงการบังคับข่มขืนใจเท่านั้น เขาทิ้งพวกเราไปเมื่อต้องย้ายไปประจำการในฐานที่มั่นแห่งใหม่"
จันกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองฝูเหียบ พยายามทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงลูก ๆ จนกระทั่งทหารเกาหลีใต้อีกผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นในชีวิตของเธอ เขาบอกว่าชื่อ "พัก" เป็นเพื่อนทหารที่คิมส่งมาดูแลเธอกับลูก
ดูเหมือนว่าเขาพยายามจะช่วยฉันเลี้ยงลูกจริง ๆ เขาอุ้มเด็ก ๆ ไว้ในอ้อมแขน ป้อนอาหารและเฝ้าดูแลให้ตอนที่ฉันไปทำงานข้างนอก" แต่วันหนึ่งพักก็จู่โจมข่มขืนเธอจนได้ คราวนี้จันตั้งท้องอีกและคลอดออกมาเป็นลูกชาย
ครอบครัวของจันมาถึงจุดที่หน้าตาและฐานะทางสังคมเสียหายอย่างหนัก โดยไม่สามารถจะทำให้ฟื้นคืนมาได้อีกแล้ว การอยู่ในหมู่บ้านเดิมเป็นเรื่องที่ต้องลำบากใจมากขึ้นทุกที เพราะชาวบ้านพากันเมินหน้าไม่คบหาเธอ ซ้ำยังด่าทอว่า "มีผัวเกาหลี" กล่าวหาว่าจันชักนำให้ทหารเกาหลีใต้มาฆ่าคนเวียดนามถึงในหมู่บ้าน
หลังจากนั้นจันและพ่อแม่ต้องย้ายไปอยู่อีกอำเภอหนึ่ง แต่เรื่องราวฉาวโฉ่ของเธอก็ยังคงติดตามไปถึงที่นั่น "ถ้าฉันแนะนำตัวเองว่าชื่อจัน ทิ ไหง ผู้คนก็จะพูดกันว่า อ๋อ คนนี้เองนางสาวไหงคนสวย แต่เธอไม่มีสามีนี่นา"
บางคนถามเธอว่าเหตุใดจึงไม่ทำแท้งเด็กที่เกิดจากการข่มขืนไปเสีย จันตอบทั้งน้ำตาว่า "ฉันเป็นพยาบาลผดุงครรภ์ งานของฉันคือการช่วยผู้หญิงให้กำเนิดลูก ฉันยังดูแลและอุ้มกอดทารกด้วยตัวเอง อาบน้ำทำความสะอาดให้ ตัดสายสะดือให้ แล้วฉันจะคิดฆ่าลูกของฉันเองได้อย่างไร"
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย