24 ส.ค. 2020 เวลา 03:49 • ไลฟ์สไตล์
“ขาพี่มันยาว” (My Long Legs)
ระหว่างเดินทางกลับจากหาดใหญ่
ที่นั่งประจำไม่ว่าจะใช้บริการสายการบินไหนคือ ทางออกฉุกเฉิน (Emergency exit) หรือไม่ก็แถวหน้าสุด (First class/1st row) ติดประตูเข้าออกปกติเลย ก็ลำบากอยู่นะถ้าไม่ได้นั่งที่นั่งแถวดังกล่าว เพราะผมเจ็บเข่ามากเวลาต้องย่อหรือห่อเข่านานๆ เวลาเดินทางกลับบ้านหรือไปทำงานต่างจังหวัด ขึ้นเครื่องบินไปไหนมาไหนไม่ใช่น่ากลัวแค่ความสูง เวลาเดินทางก็นานอยู่พอสมควร ผมอยากวาร์ปได้เหมือนในนิยายหรือการ์ตูนแฟนตาซีจริงๆ คือหายตัววูปไปยังตำแหน่งที่เราต้องการได้เลย แต่เชื่อเถอะครับว่าผมคงอยู่ไม่ถึงเทคโนโลยีการวาร์ปหรือการหายตัวได้ เร็วสุดก็แค่นี้ละ ขนาดรถไฟความเร็วสูงประเทศไทย ผมก็ไม่รู้จะได้อยู่ใช้รึเปล่า เพราะผมเองก็ไม่ได้อยากอยู่นานขนาดนั้นเหมือนกัน ผมแค่อยากอยู่ในโลกใบนี้สักอายุ 50 ปีเท่านั้นเอง ใครจะต่ายก่อนหรือตายทีหลังก็เรื่องของพวกมัน (พูดแบบนี้ให้ลูกเมียฟัง ผมโดนรุมด่าทั้งครอบครัวครับ 555+)
ตอนนี้ผมอายุ 35 ปียังไม่บริบูรณ์ครับ โน่น!วันที่ 4 ตุลาคมจะบริบูรณ์ ผมชอบนะ เวลาได้พูดคุยเรื่องตัวเองหรือเขียนเรื่องราวตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี 5ปี 10ปี ผมได้กลับมาอ่าน ผมได้พบเจอความเปลี่ยนแปรงหลายๆอย่างของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความคิดความอ่านความเห็นของตัวเองมันเปลี่ยนไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ตอนนี้ผมกลับไปอ่านเว็บบล็อกเก่าที่เคยเขียนไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆไม่ได้แล้ว Exteen blog ที่ผมเคยเขียนอะไรไว้มากมาย อยู่ๆก็หายไปกับกาลเวลา ผมรู้ว่าสักวันมันก็ต้องมีจากและก็ทำใจไว้บ้างแล้วละครับ เช่นเดียวกับชีวิตคนเราที่มีเกิด แก่ เจ็บและตาย
ผมว่าการก้าวเดินของคนเรา มันเป็นการใช้ชีวิตที่ยาวนานมาก และมีเรื่องราวอะไรๆเยอะแยะมากมายให้ต้องพูดคุยและเล่าถึง วันนี้ผมจึงเล่าเรื่องขายาวๆของผมว่ามันโคตรแสนจะธรรมดาเลย เราดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ เราสร้างจินตนาการไปกับเวลาที่เหลือ ต่อจากนี้คุณจะทำอะไร คุณอยากจะใช้ชีวิตอย่างไร บางคนต้องการอิสรภาพ ส่วนผมต้องการความเป็นส่วนตัว น้อยมากที่ผมอยากเดินออกไปข้างนอก ไปเจอผู้คน ไปเจอความวุ่นวาย อย่างตอนนี้การเมืองไทยกับคนรุ่นใหม่ ผมเห็นด้วยกับคนรุ่นใหม่นะ และชอบความคิดของพวกเขา รุ่นผมก็ไม่ห่างจากพวกเขามากนักหรอกแต่ความกล้าแสดงออกมันชั่งผิดกัน เด็กยุคนี้มีความคิดสร้างสรรค์กว่าพวกผมเยอะ
สมัยที่ผมเรียนมัธยม ผมก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่มีความกล้าที่สุดของรุ่นนะ กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ แต่ผมก็โดนปิดสวิชต์ด้วยผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรัก และด้วยความอัตคัดของชีวิตทุกข์ยากลำบากตั้งแต่เด็ก เนื่องจากฐานะยากจน ความจนมันปิดกั้นคนเราได้หลายๆอย่าง ความเหลื่อมล้ำทางสังคมมันกรีดกันมันแบ่งแยกความเท่าเทียมของเราออกจากโลกความเป็นจริงมาก ทุกวันนี้ต้องใช้แรงผลักดันส่วนตัวสูงจนขีดสุดถึงจะได้มาอยู่อีกระดับที่ดีขึ้นมาหน่อย จะเรียกตอนนี้ก็คือผมเริ่มได้อยู่เป็นชนชั้นกลาง ได้ทำงานดี มีลูกเมีย มีอนาคตระดับหนึ่ง แต่ก็แค่นั้นละ เมื่อเราถูกบ่มเพราะมาอย่างหนึ่งที่ให้เรียนรู้ทุกๆอย่างด้วยขีดจำกัดของสมองปลาล้าหรือความคิดปลาจ่อม เราจะทำได้ดีแค่คนที่อยู่ในบ้านเรามองเห็นเท่านั้น
ถ้าเป็นรุ่นลูก ผมจะเปิดอิสระให้เขาได้คิดพูดทำตามใจเขา และจะไม่ขัดขวางการพัฒนา ความเจริญก้าวหน้าของพวกเขา ผมอาจจะเป็นพ่อที่ไม่ได้ดีมาก แต่คนที่สมบูรณ์แบบไม่มีจริงๆหรอก ขนาดผมยังรู้สึกเบื่อความดีมีน้ำใจของตัวเองเลยนะบางครั้ง แต่มันก็สุดๆแล้ว
อาจจะเป็นเพราะว่าเราเบื่อความยาว เราไม่ชอบความเชื่องช้าของตัวเอง ชีวิตขายาวๆของผมจึงไม่สนุกสนาน ไม่ได้สดชื่นเหมือนตอนวัยเด็ก ซึ่งมองผ่านจากแววตาลูกชาย ผมเห็นตัวเองอยู่ในนั้น เด็กที่วิ่งเล่นด้วยความเพลิดเพลิน พูดคุยกันกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ผมไม่เดือดร้อนอะไรเลยถ้าเขาจะไม่ได้ทำในสิ่งที่ผมอยากให้เขาทำ แต่ผมจะมีความสุขมากถ้าเขารู้ตัวเองว่าเขาจะต้องเป็นอะไร แค่นี้ละครับ
โฆษณา