ในฐานะผู้เล่น ฮันซี ฟลิค ลงสนามให้ทีมเสือใต้ 104 นัด ระหว่างปี 1985-1990 จะว่าไปแล้วเขาไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไรนักตอนเป็นนักฟุตบอล ไม่เคยติดทีมชาติเยอรมนีด้วยซ้ำ กระทั่งปี 1996 เขาเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมให้กับทีมเล็กๆ อย่างวิคตอเรีย บามเมนทัล โดยควบตำแหน่งผู้เล่นผู้จัดการทีม
.
.
ต่อมาในปี 2000 เขารับบทผู้จัดการทีมเต็มตัวให้กับ 1899 ฮอฟเฟนไฮม์ แต่ก็ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร ก่อนไปเป็นผู้ช่วย โยอาคิม เลิฟ ในทีมชาติเยอรมนีเมื่อปี 2006 แล้วเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 ก็ถูกดึงตัวมาเป็นผู้ช่วยของ นิโก้ โควัช ที่ตอนนั้นเป็นผู้จัดการทีมบาเยิร์น มิวนิก สุดท้ายเมื่อผลงานไม่เข้าตา เสือใต้กับโควัชตัดสินใจแยกทางกัน และในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2019 ฮันซี ฟลิค รับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวให้บาเยิร์น มิวนิก ระหว่างนั้นเสือใต้ก็มองหาผู้จัดการทีมคนใหม่ไปทั่ว
.
.
ทว่ากุนซือขัดตาทัพทำผลงานดีเกินคาด เขาพาทีมแพ้ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2019 ในเกมบุนเดสลีกากับโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค 2-1 ประตู หลังจากนั้นทีมก็ชนะรวดมาตลอด มีหลุดเสมอนัดเดียวกับไลป์ซิก ขณะทุกอย่างกำลังไปได้ดี ไวรัสโควิด-19 ก็ทำให้ฟุตบอลบุนเดสลีกาหยุดแข่งขันในวันที่ 12 มีนาคม 2019 แต่ด้วยผลงานที่เข้าตา ลูกทีมหนุนหลัง อดีตกองกลางของทีมก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายใหญ่ของบาเยิร์น มิวนิกถาวรในเดือนเมษายน 2020
.
.
“อาชีพของผมไม่ค่อยปกติ ผมดูแลร้านขายเครื่องกีฬามากว่า 20 ปี ทำงานในร้านเองเลยนะ ผมใช้เวลาเหล่านั้นเพราะผมต้องการที่จะมีอนาคตที่ดี แต่ผมก็รู้เสมอว่าผมอยากเป็นผู้จัดการทีม ผมเรียนรู้มากมาย และนั่นแสดงออกในวิธีการทำงานของผม” ฮันซี ฟลิค เผย
.
.
“หัวใจสำคัญสำหรับผมคือ แนวคิดของทีมถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ ความซาบซึ้งในกันและกัน และความเคารพในกันและกัน มันก็ยากที่จะพัฒนาไปสู่ความสำเร็จและมีความหมาย มันสำคัญมากสำหรับผมที่จะวางใจในผู้คน มีการสื่อสารกัน และแสดงความขอบคุณให้ทุกคน คุณต้องมีความสุขในสิ่งที่ทำ คุณต้องประสบความสำเร็จด้วยกัน”
.
.
ด้วยความที่เคยเป็นทั้งผู้ช่วยโค้ช หรือผู้อำนวยการด้านกีฬา ทำให้ ฮันซี ฟลิค มีโอกาสเดินทางไปยังสโมสรต่างๆ มากมายเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ “ผมไปยังอะคาเดมีของสโมสรหลายแห่ง รวมทั้งเรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา ใช้เวลาที่แมนเชสแตอร์ ซิตี้ และเปแอสเช ผมไม่เคยก็อปปี้มาทั้งหมด แต่ผมได้ไอเดียและนำมาปรับใช้”
.
.
การเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมทำให้เขาเข้าใจผู้เล่นมากกว่าการเป็นนายใหญ่ เพราะในฐานะเบอร์สอง เขาต้องคลุกคลีกับนักเตะในทีมมากกว่า
.
.
โดยทั่วไปการเข้ามารับงานต่อจากคนอื่นอย่างกะทันหัน จะทำให้ไม่มีเวลาปรับจูนทีมให้เข้ากับวิธีการเล่นของตนเอง แต่เมื่อบุนเดสลีกาหยุดแข่งเพราะไวรัสโควิด-19 กลับกลายเป็นผลดีกับกุนซือวัย 55 ปีอย่างชัดเจน โค้ชคนใหม่มีเวลาเตรียมทีมมากขึ้น ผลที่ตามมาเมื่อฟุตบอลกลับมาลงสนามต่อ บาเยิร์น มิวนิกในยุคของ ฮันซี ฟลิค ยังไม่แพ้ใครเลย ทำสถิติใหม่ของสโมสรด้วยการพาทีมชนะถึง 28 นัดใน 31 เกมแรกในการคุมทีม
.
.
หนึ่งในหัวใจหลักของการปรับเปลี่ยนทีมคือ โทมัส มุลเลอร์ ได้กลับมาเป็นตัวจริง รวมทั้งการนำผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง เจอโรม บัวเต็ง กลับมาสู่ทีม ซึ่งในรายของอดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนีก็เข้าขากับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ได้เป็นอย่างดี มุลเลอร์ทำสถิติจ่ายบอลเป็นประตูในบุนเดสลีกาได้ถึง 21 ลูก ส่วนกองหน้าฟอร์มดีที่สุดอย่างเลวานดอฟสกีก็ยิงเกิน 50 ลูกไปแล้วในซีซั่นนี้ การช่วยกันทำประตูเป็นเป็นสิ่งที่ ฮันซี ฟลิค คิดว่าสำคัญ “สามอย่างที่สำคัญมากสำหรับผมคือ ความเชื่อใจในผู้เล่น, คุณภาพของผู้เล่น และทั้งทีมต้องสนุกในการทำประตูร่วมกัน”
.
.
ถ้าดูเปอร์เซ็นต์ชนะของทีมต่างๆ ที่ฟลิคเคยคุม เขาพาทีมวิคตอเรีย บามเมนทัล ชนะแค่ 36.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากนั้นดีขึ้นเล็กน้อยที่ 1899 ฮอฟเฟนไฮม์ ด้วยสถิติชนะ 44.90 เปอร์เซ็นต์ แต่ก้าวกระโดดที่บาเยิร์น มิวนิก เมื่อเขาพาทีมคว้าชัยได้ถึง 91.43 เปอร์เซ็นต์ แถมยังทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ในบุนเดสลีกาเสือใต้ทำไป 100 ประตู ส่วนในยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก พวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยในการทำประตูสูงที่สุด และเป็นทีมแรกที่ชนะรวดทุกนัดในรายการนี้
.
.
จะว่าไปแล้วการคุมทีมบาเยิร์น มิวนิก ก็เหมือนรับเผือกร้อน แรงกดดันมหาศาล การไม่ได้แชมป์คือความผิดหวัง ถ้าคุณพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้นั่นคือเสมอตัว การได้แชมป์ด้วยสไตล์การเล่นที่สนุกทำให้คนดูตื่นเต้นและยิงประตูได้เยอะทำให้คนหันมาสนใจ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค ทำได้เหนือกว่านั้น คุมทีมเต็มตัวไม่ถึงปี เขาพาทีมชนะบาร์เซโลนา 8-2 ประตู และคว้าสามแชมป์มาครองได้สำเร็จ
.
.
ไม่แย่เท่าไรนักสำหรับผู้จัดการทีมขัดตาทัพ