27 ส.ค. 2020 เวลา 04:04 • ไลฟ์สไตล์
#บ้านฉัน
บ้านฉันอยู่ที่ ตรอกสาเก ด้านหลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ เป็นบ้านชั้นเดียวยกใต้ถุนสูง บริเวณบ้านมีคลองเล็ก ๆ ที่ตัดมาจากคลองหลอด เวลาน้ำขึ้นใต้ถุนบ้านจะมีน้ำน้ำท่วม แต่ละบ้านต้องสร้างสะพานเดินยาวเพื่อทะลุออกมาทางอาคาร 5 เพื่อออกมาทางถนนราชดำเนินกลาง (ปัจจุบันได้ตัดเป็นถนนแล้ว)
ช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง พ่อจะทำเบ็ดให้ฉันนั่งตกกุ้งที่สะพานหน้าบ้าน บางครั้งฉันก็จะได้กุ้ง 1-2 ตัว ก็ดีใจมากมาย เอาไปให้แม่ทำกับข้าว
พ่อมีเพื่อนมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นศิษย์ที่บวชจากวัดมหาธาตุ รักใคร่นับถือกันดุจดังพี่น้อง และเพื่อนพ่อมักจะมาตั้งวงกินเหล้าที่บ้านเป็นประจำ อาหารโปรดที่ชอบกินแกล้มเหล้า คือ ผัดเผ็ดปลาไหล จำได้ว่าเพื่อนพ่อ ชื่อพุฒ ชอบมุดลงไปใต้ถุนบ้าน หาปลาไหลมาให้แม่ผัดเผ็ด
พ่อจะตอกตะปูตัวโต โต เอาปลาไหลคล้องเชือกห้อยให้ฉันทำหน้าที่รูดเมือกปลาไหล โดยใช้ใบข่อย ฉันจำไม่ได้ว่ามีปลาไหลจำนวนเท่าใดที่ฉันต้องทำหน้าที่รูดเมือกปลาไหล และภาพที่จำติดตา คือ เวลาฉันรูดเมือก ปลาไหลจะดิ้นบิดตัวไปมา จนเป็นภาพติดตา ที่ฉันฝังใจจำ จนไปขอแม่ว่าจะไม่ทำอีกแล้ว เพราะทนไม่ไหว สงสารปลาไหล แล้วฉันก็ร้องไห้ พ่อมาได้ยิน ก็เลยยกเลิกผัดเผ็ดปลาไหล และฉันไม่เคยกินปลาไหล เวลาเห็นปลาไหลฉันจะเมินหน้าหนีทุกครั้ง จนถึงปัจจุบัน
ในวัยเด็ก เราใช้น้ำจากคลองมากวนสารส้ม ไว้อาบ ซักผ้า ส่วนน้ำกิน แม่จะรองน้ำฝนใส่ตุ่มมังกร และโอ่งน้ำสีเขียว
ใกล้บ้านจะมีวังตรอกสาเก บริเวณกว้างขวางมาก ที่วังนี้ไม่มีประตูรั้ว สมัยเด็ก ๆ ฉันชอบชวนเพื่อน ๆ วัยเดียวกันเข้าไปวิ่งเล่น และชอบไปเก็บลูกพิกุลที่แก่ ๆ มากิน เป็นประจำ
บางวันมีเจ้านายเรียกแม่ไปเล่นไพ่ตองบ้าง ไปวัดตัวตัดเสื้อบ้าง ฉันก็จะได้ตามแม่ขึ้นไปชั้นบนตำหนัก เป็นห้องโถงใหญ่ มีหม่อม นั่งบนตั่ง ลูก ๆ ท่านมียศหม่อมเจ้า นั่งอยู่หลายคน ฉันจำชื่อได้คนเดียว คือท่านปิ๋ว ท่านสนิทกับแม่มากเรียกใช้ให้ตัดเย็บเสื้อผ้าประจำ ท่านใจดีมาก
เวลาขึ้นไปบนตำหนัก ฉันจะนั่งแอบข้างหลังแม่ ไม่กล้ามอง จำได้ว่าหม่อนท่านเสียดังมาก เวลาท่านเรียกหาข้าทาส ฉันจะกลัวจนหัวหด หม่อมท่านมักจะหัวเราะขำเคยโดนเรียกให้คลานไปหา ฉันกลัวตัวสั่นก้มหน้าตลอด หลัง ๆ ฉันไม่ยอมตามไปกับแม่เพราะกลัวมาก
ถนนที่ตรอกสาเกสร้างมาแค่ครึ่งซอย เวลาฉันเดินไปโรงเรียนที่วัดมหรรณพาราม ต้องเดินมาทางหน้าวังข้ามสะพานแล้วเดินทะลุตรอกสเถียร เพื่อไปโรงเรียน จะต้องผ่านโรงเรียนเอกชน ชื่อ โรงเรียนหงสุรนันท์ บางวันฉันจะแอบมองเข้าไปในโรงเรียน เคยถามแม่ว่าทำไมฉันไม่ได้เรียนที่นี่ ทำไมต้องเรียนโรงเรียนวัด
แม่บอกว่าเราไม่มีเงินมาก เรียนที่ไหนก็มีความรู้เหมือนกัน
ช่วงหน้าหนาว จำไม่ได้ว่าปีใด อากาศหนาวจัดมาก ฉันเดินไม่ได้ขาเขียว ชา จนร้องไห้ แม่ต้องก่อไฟให้ฉันผิงไฟจนคลายหนาวถึงได้เดินไปเรียนหนังสือได้ และช่วงนั้นจะมีน้ำขึ้นต้องเดินเท้าปล่าวไปโรงเรียน จำได้ว่าฉันกลัวใส้เดือนมาก ตัวอ้วนใหญ่ มันหนีน้ำมาอยู่บนถนนมากมาย เวลาเจอฉันจะยืนร้องไห้ ไม่กล้าเดินต่อ จนมีผู้คนละแวกแถวนั้นมาเขี่ยออก แล้วบอกว่าใส้เดือนไม่กัด เอาไปตกปลาในคลองได้ จากนั้นฉันจะเดินผ่านได้โดยไม่กลัว
ตรงรั้วหน้าวัง มีการประปามาตั้งหัวก๊อกประปา ผู้คนตื่นเต้นกันมากมาย พากันมาอาบน้ำ ซักผ้า ต้องต่อคิวกันยาว และแม่ก็พาฉันมาซักผ้า อาบน้ำตรงจุดนี้เช่นกัน กว่าจะเสร็จใช้เวลานานมาก สิ่งที่ฉันชอบมากเวลาไปนั่งอาบนำ้ เปินหัวก๊อกใหญ่น้ำไหลแรง เด็ก ๆ จะนั่งรวมกันหลายคนนั่งเล่นน้ำหัวเราะสนุกสนานจนลืมเวลา ต้องโดนผู้ใหญ่ดุให้เลิกเล่นน้ำ เวลาเลิกอาบน้ำผู้คนจะยืนผลัดผ้ากันแถวนั้น ส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กและผู้หญิง ไม่เคยเห็นผู้ชายมาอาบน้ำ เคยถามแม่ ก็ได้คำอธิบายว่าผลัดกันเป็นรอบไม่มาปนกัน
เมื่อมีน้ำประปา ก็เกิดมีอาชีพรับจ้างหาบน้ำมาส่งคิดเป็นรายเที่ยว แม่ก็จ้างป้านุ่ม มีบ้านตรงข้ามกันหาบน้ำมาส่งเป็นประจำ ทำให้แม่ไม่ต้องพาฉันไปอาบน้ำซักผ้าตรงก๊อกน้ำอีกต่อไป.
ธิดา อักขิโสภา
27 สิงหาคม 2563
โฆษณา