Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าเป็นเรื่อง | พงษ์ บาติก
•
ติดตาม
28 ส.ค. 2020 เวลา 06:58 • นิยาย เรื่องสั้น
Ep.01 บ้านที่แสนอบอุ่น
กลิ่นควันไฟไม้ฟืนที่ลอยมาแตะจมูกทำให้ผมรู้สึกตัวตื่น มองผ่านมุ้ง เห็นเงาแม่ขยับวับวาบตัดกับแสงตะเกียงกับการสาละวนหุงข้าวอยู่ในครัว เสียง ไก่ขันแว่วมาแต่ไกล ผมดึงผ้าห่มกระชับขึ้น เพราะอากาศค่อนข้างหนาวในยามเช้า
ผมมักจะตื่นเช้าเสมอ แต่ชอบนอนอ้อยอิ่งสูดกลิ่นควันอ่อน ๆ จากเตาถ่านของแม่ ฟังเสียงหม้อข้าวเดือดและกลิ่นข้าวสวยร้อนๆ ตอนยกน้ำข้าวเทลงใส่กะละมัง
พ่อตื่นออกจากบ้านตอนไหนผมไม่รู้เพียงแต่ว่าปืนที่ข้างฝาบ้าน หายไป ยิ่งทำให้ผมใจจดใจจ่อที่จะนอนฟังเสียงปืนแก๊ปของพ่อ ผมนอนนิ่ง ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น จนเริ่มมีแสงเรืองๆค่อย ๆ ส่องทะลุฝาบ้าน ไม่นานเสียง ปืนก็ดังก้องมาจากราวป่า ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สลัดผ้าห่มออกจากตัวเปิดมุ้งแล้วเดินมานั่งตรงขอบประตูที่บันไดเพื่อรอลุ้นว่าวันนี้พ่อจะได้ตัวอะไรกลับมา
แสงแดดอุ่นๆ เริ่มสาดส่องไปทั่วหมอกขาวค่อยๆ สลายไปทีละน้อย เสียงชะนีดังมาแต่ไกล นกนานาพันธ์น้อยใหญ่ส่งเสียงกันเจื้อยแจ้ว ผมลงมานั่งรอพ่อที่บันไดขันสุดท้าย ไม่นานร่างของพ่อก็โผล่พ้นจากราวป่าเดินฝ่าดง หญ้าคาบนทางแคบๆ
น้ำค้างยามเช้าบนยอดหญ้าทำให้ชุดสีน้ำเงินอมเทาตัวเก่งของพ่อเปียกชุ่ม บนบ่าขวาแบกปืนแก๊ป มือซ้ายก็หิ้วไก่ป่าตัวอ้วนพีมาด้วย พ่อเป็นคนรูปร่างสันทัด แข็งแกร่งตามแบบชาวป่า และเป็นพรานที่ยิงแม่น จนเลื่องชื่อในละแวกนั้นประมาณถ้ามีเสียงปืนพ่อดังก็ต้องได้สัตว์อะไรติดมือกลับมาด้วยแน่นอน
ผมรีบลงบันไดไปรับถือไก่มาจากพ่อเอามานั่งมองพลิกดูซ้ายทีขวาที พ่อเอาปืนไปเก็บแล้วจัดแจงก่อไฟต้มน้ำถอนขนไก่แล้วส่งให้แม่จัดการต่อ ผมก็ตามมองจนเสร็จขั้นตอน จนพ่อไล่ให้ไปล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวเช้าแล้วจะได้ไปสวนกัน
ตอนนั้นนผมมีพี่ชายหนึ่งคน พี่ชายของผมคุณยายขอไปเลี้ยงตั้งแต่เด็กจนได้เรียนหนังสือและอยู่ห่างไกลกันมากต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวัน ผมกับพี่จึงไม่ค่อยได้เจอกัน ฉะนั้นที่บ้านนี้ผมเลยกลายเป็นลูกชายคนเดียวไปซะงั้น
บ้านผมเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงป้องกันสัตว์ร้ายเพราะอยู่กลางป่า ฝาบ้านกั้นด้วยไม้ไผ่สับสานขัดกันอย่างแข็งแรง พื้นบ้านก็เช่นกัน หลังคามุงด้วยใบสิเหรงหรือใบทั้งเป็นพันธุ์ไม้ใบใหญ่ประเภทปาล์ม ทนฝนทนแดด เป็นอย่างดี ข้างบ้านมียุ้งข้าวยกเสาสูงเหมือนตัวบ้านแต่เล็กกว่า ไม่มีห้องนอนและห้องครัว
ผมเกิดตอนพ่อกับแม่มาหักร้างถางพงสร้างบ้านอยู่ตรงนี้ก่อนแล้ว เมื่อประมาณ พ.ศ. 2517 บริเวณบ้านเป็นป่าโปร่ง มีสัตว์ป่าชุกชมุมากมายครบเกือบทุกชนิด บางครั้งก็เดินมาเฉียดเสาบ้าน หรือแม้กระทั่งพ่อยังเคยนั่งล่าสัตว์บนบันไดบานเลยที่เดียว
สายมากแล้วผมเดินแบกมีดพร้าอันเล็กที่พ่อทำให้เป็นพิเศษ เดินตามพ่อกับแม่ไปสวนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก สวนของผมอยู่ติดกับลำคลอง ตลอดทั้งสวน คนแถวนี้เรียกคลองบางทรายนวล ซึ่งถือเป็นเส้น แบ่งเขตแดนกับสวนคนอื่นๆ เช่นสวนน้าพรและสวนตาเอิบ
ในสวนของผมมีเงาะกับส้ม เขียวหวานปลูกสลับผสมกันไป บางวันต้องไปถางเอาเถาวัลย์ที่เลื้อยพันโคนต้นส้มออก บางวันก็ต้องไปใส่ปุ๋ยต้นเงาะ บางวันพ่อก็ไปพ่นยาฆ่าแมลงที่มากัดกิน พอถึงหน้าส้มสุก ผมก็ต้องปีนขึ้นไปสอยผลส้มในบางต้นที่พ่อกับแม่สอยไม่ถึง โดนหนามส้มตำเอาคราวละหลายแผล แต่ผมจะชอบตอนหน้าเงาะสุกมากกว่า ช่วงหน้าฝนประมาณเดือนพฤษภาคมเงาะจะสุกแดงอร่ามไปทั้งต้น ดูแล้วสวยมาก
การเก็บเงาะก็ไม่ลำบากเหมือนเก็บผลส้มเพราะไม่มีหนาม เก็บไปกินไป ช่วงที่เงาะสุกจะมีนกมาจิกกินผลเงาะเสียหายมาก เป็นนกตัวเล็ก ๆ สีเขียวสดคล้ายนกแก้วตัวเล็ก บินมาจับที่ต้นเงาะกับเป็นกลุ่ม ผมต้องคอยเอาหนังสติ๊กไล่ยิง ส่วนพ่อก็ดักตาข่ายระหว่างต้นเงาะบริเวณที่มันบินผ่านประจำ นกติดอวนครั้งละหลายๆ ตัว จับมาได้ก็เอาไปขังไว้ หรือไม่ก็มีคนมาขอไปเลี้ยง ผมเองก็เคยลองจับมาเลี้ยง แต่มันเป็นนกที่ไม่เชื่องและมีจงอยปากที่คมมาก
กรงที่เลี้ยงก็ต้องทำจากลวดเท่านั้น นานเข้าก็เริ่มเบื่อที่จะเลี้ยงจนต้องปล่อยมันไป ตรงกลางสวนมีขนำเล็กๆ ที่พ่อปลูกไว้หลบแดดหลบฝนตอนไปทำสวน เก็บอุปกรณ์เครื่องครัว เตา กระทะ เก่า ๆ เผื่อหุงต้ม ในบางวัน และอุปกรณ์หาปลาพวก เบ็ด สวิง และอวนไว้หาปลาตอนน้ำหลาก
บางทรายนวลเป็นคลองที่ไหลผ่านแบ่งเขตสวนผลไม้ มีน้ำใสไหลผ่านตลอดปี ไม่เคยแห้งน้ำใสจนมองเห็นจำนวนปลาที่แหวกว่ายอยู่ในคลอง ได้ ทั้งปลาเสือปลาซิว ริมคลองจะร่มรื่นไปด้วยกอไผ่กอใหญ่ๆ ส่วนริมน้ำก็จะ มีต้นบอนขึ้นตลอดคลอง บางครั้งน้ำดื่มที่นำมาจากบ้านหมด ก็ใช้ใบคล้าหรือใบกล้วยแถวๆ ริมคลองทำเป็นกรวยตักน้ำในคลองดื่มได้เลย
คลองแต่ละช่วง จะเป็นบึงกว้างและลึก มีการตั้งชื่อบึงตามชื่อบ้านที่ลงไปใช้น้ำ อย่างเช่น บึงตาเอิบจะอยู่ด้านบนก่อนถึงสวนของผม ถัดมาที่เป็นบึงที่ผมใช้อยู่ ส่วนท้ายสวนเป็นบึงน้ำพร เป็นเจ้าของสวนฝั่งตรงข้ามกัน ซึ่งบึงน้ำพรนี้แหละจะ เป็นบึงใหญ่และลึกกว่าบึงอื่น ทำให้พวกเด็ก ๆ ชอบไปเล่นน้ำที่บึงน้ำพรกันแทบทุกคน แถมเล่นกันทุกวัน จนเจ้าของบึงบ่นอุบเรื่องน้ำในบึงข้นตลอด ไม่เคยว่างให้น้ำใสสักที
สวนตาเอิบอยู่เหนือสวนของผมไป มีลูกชายชื่อเดี่ยว ซึ่งอายุก็ไล่เลี่ยกับผม และต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ไม่ผมก็ไปขลุกอยู่บ้านเขา เขาก็มาขลุก อยู่ที่บ้านผม ยิงนกตกปลาไปตามเรื่อง ยังมีโมทย์อีกคนที่บ้านอยู่ห่างออกไปตรงถนนกลางหมู่บ้าน แต่เราก็จะนัดมารวมตัวกันหากิจกรรมทำเป็นประจำจึงไม่แปลกที่คนแถวนั้นจะเห็นเราสามคนไปเป็นทีมเป็นประจำจนชินตา
แต่ละคนมีหนังสติ๊กคู่กายคนละอุ่น พร้อมด้วยย่ามบรรจุกระสุนพร้อม ทั้งก้อนหินที่เก็บมาจากคลอง และกระสุนดินเหนียวที่ปั้นตากแดดจนแข็งเป๊ก เดินลุยหญ้า บุกป่ายิงนกตกปลาไปเรื่อย เดี่ยวเป็นคนยิงแม่นที่สุด รองลงมาก็โมทย์ และก็ผมน่าจะฝีมือห่วยสุด บางวันได้นกเปล้า นกบวช นกเขียว และอีกหลายชนิด กลับบ้านเป็นพวง บางวันโชคดีก็มีกระรอก บางทีก่อไฟย่างกินกันตรงริมคลอง และเอากลับบ้านให้แม่ผัดเผ็ดหรือทอดได้แถบทุกวัน
ส่วนวีรกรรมต่างๆ จากความซนของเราสามคนก็เลื่องชื่อไม่เบา แล้วจะทยอยเล่าให้ฟังในตอนถัดไป
ตะวันกำลังจะลับทิวไม้ไปแล้ว เสียงจั๊กจั่นหรีดหริ่งเรไรก้องระงมป่า สลับกับเสียงนกตบยุงจุ๋ง ๆ อยู่ไม่ไกล แม่เร่งให้ผมไปอาบน้ำในคลองแล้วรีบกลับบ้านก่อนจะมืดจนมองทางไม่เห็น ผมรีบแก้ผ้าแล้วกระโดตูมลงกลางคลอง คว้าก้อนหินก้นคลองมาถูตัวแข้งขาลวก ๆ
ที่จริงผมไม่ค่อยชอบอาบน้ำคนเดียวตอนค่ำๆ สักเท่าไหร่ เพราะกลัวตัว กง ที่ตัวคล้ายกบ ตัวแบนมีผิวขรุขระเหมือนคางคง และเสียงร้องก็ฟังดูวังเวงชอบกลในตอนใกล้ค่ำ อาบแป๊บเดียวผมก็รีบขึ้นจากน้ำ ใส่แต่กางเกงวิ่งแจ้นกลับบ้าน แซงหน้าพ่อแม่ แข่งกับไอ้ดำหมาไทยแสนรู้ตัวเขื่อง
ความมืดโรยตัวเข้าปกคลุมไปทั่ว แม่จุดตะเกียงน้ำมันก๊าดตั้งไว้ตรงกลางเรือน พ่อไปจูงม้ามาผูกใกล้กับยุ้งข้าวพร้อมกับก่อไฟไล่เหลือบริ้นให้มัน ไม่นานเราก็ล้อมวงกินข้าวกันบนบ้านสามคนพ่อแม่ลูก
ยังไม่ดึกมากนัก ผมนอนคลุมผ้าห่มตาแป๋วอยู่ในมุ้ง แม่นั่งเย็บปลอกหมอนตรงมุมบ้าน ขณะที่พ่อนั่งสูบใบจากพร้อมขัดลำกล้องปืนแก๊ปประจำกายอยู่ตรงประตูข้างหัวบันได เสียงม้าสีนิลสะบัดแผงขนทำจมูกพรืด ๆ ไล่แมลงรบกวน ในราวป่ารอบบ้านเริ่มเงียบเสียงจั๊กจั่น แต่มีเสียงสัตว์อื่นร้อง มาเป็นครั้งคราว
บางคืนพ่อก็จะคอยบอกว่าที่ร้องดังมาคือเสียงของตัวอะไร ไกลหรือใกล้ ผมคอยนอนฟังเสียงสารพัดสัตว์ผลัดกันร้องระงมในราวป่า พร้อมกลิ่นหอมควันไฟที่พ่อสุมไล่แมลงให้กับม้าสีนิล ลอยมากับสายลม ยามค่ำคืน ยามนั้นช่างสดชื่นสุขใจ จนกระทั่งผมหลับไปในราตรีแห่งความอบอุ่น...
พงษ์ บาติก Story
บันทึก
3
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย