ดังนั้นปัญหาตึกหรืออาคารที่ใช้หลักการ Rigid Diaphragm นั้น แรงทางพลศาสตร์ที่ได้จึงเกิดที่ Centre of Mass เพียงจุดเดียวในแต่ละชั้น ถ้าเราให้โปรแกรมมันวิเคราะห์แรงภายในให้ มันจะต้องนำการเคลื่อนตัวที่ Retained Nodes ไปทำการ Expansion เพื่อออกไปหาการเคลื่อนตัวของจุดต่อที่ถูก Constraint ไว้ ซึ่งหาได้ความสัมพันธ์ผ่าน Stiffness Matrix ซึ่งผลลัพท์ที่ได้จะเป็น Internal Forces and Moments ที่แต่ละ Element
อย่างไรก็ดี เนื่องจากมันสัมพันธ์กันผ่าน Stiffness Matrix ดังนั้นเค้าจึงบอกว่าให้นำแรง Dynamic Inertia ที่ตำแหน่งของ Centre of Mass มากระจายตาม Stiffness ไปยังจุดต่ออื่นๆ เป็น External Force ได้ด้วย ซึ่งเรียกว่า Equivalent Static Force
เช่น ในรูปเราต้องการวิเคราะห์โครงสร้างส่วนล่าง โดยไม่สนใจโครงสร้างส่วนบน เราสามารถที่จะเลือก Dynamic Retained Nodes ไว้ที่จุดต่อหลักๆ ของโครงสร้างส่วนล่าง และ ส่วนบน เนื่องจากโครงสร้างส่วนล่างมีผลจาก Total Force และ Total Moment ที่กระทำเท่านั้น ดังนั้นที่โครงสร้างส่วนบน เราจึงเลือกที่จุดต่อหลักๆ ก็เพียงพอ เนื่องจาก Total Force และ Total Moment ที่กระทำต่อโครงสร้างส่วนล่างนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
ซึ่งการกำหนดแบบนี้นั้นไม่เหมาะสมสำหรับนำมาใช้วิเคราะห์โครงสร้างส่วนบน เนื่องจากแรงมันเข้าที่ Main Support ที่เป็นเสา โดยไม่เข้าคานเลย
ถ้าเราเพิ่ม Retained Nodes หรือ Lumped Mass Nodes ที่จุดกึ่งกลางคาน ทำให้มันถึงมวล 2m มาไว้กลางคาน ทำให้หลังจากการวิเคราะห์ทางพลศาสตร์ จะเกิดแรง 2ma ที่กึงกลางคานด้วย ทำให้เกิด Maximum Moment ที่คานตัวที่มี Retained Nodes ซึ่งผลลัพท์ที่ได้จะแตกต่างจากรูปทางซ้ายมือทันที เนื่องจากรูปทางซ้ายมือไม่มีแรงกระทำกลางคานทำให้ไม่เกิด Maximum Moment
อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าทั้งสองโมเดลให้ Reaction ที่ฐานเท่ากันคือฝั่งละ 2ma ดังนั้นทั้งสองโมเดลจึงสามารถจะนำไปใช้วิเคราะห์โครงสร้างส่วนล่างได้เหมือนกัน เนื่องจากให้ Total Lateral Force และ Moment เท่ากัน แต่รูปทางซ้ายมือจะใช้เวลาในการวิเคราะห์น้อยกว่าเพราะจำนวน Retained Nodes ต่ำกว่า