29 ส.ค. 2020 เวลา 17:29 • ท่องเที่ยว
Turkey EP. 1
กุมภาพันธ์ Günaydın Istanbul อ่านว่า "กุไนเดด อิสตันบูล" อรุณสวัสดิ์ตั้งแต่เช้ามืดที่ไก่ไม่ยอมโห่ ลมหนาวปะทะหน้าวูบบ...บ ขนสแตนอัพ ถึงแล้วจ้าเมืองในฝัน เมืองที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
8 โมงเช้า ล้อหมุนออกจากสนามบิน แต่ไรว๊าา..า พระอาทิตย์ยังไม่เผยโฉม ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในกลีบเมฆ ไกด์บอกวันนี้เราจะเที่ยวกันในอิสตันบูล
นั่งรถไปพักใหญ่ๆ ฮั่นแน่!!!พระอาทิตย์มาแล้ว มองซ้าย มองขวา นี่มันภูเขาบ้านชัดๆ ไม่ใช่ภูเขาที่มีต้นไม้ ภูเขาที่นี่ มีแต่บ้านคน ซึ่งสวยไปอีกแบบ แถมมีทะเลฝ่ากลาง ฝั่งนึงยุโรป อีกฝั่งเอเซีย ก็เน๊อะ ดินแดนสองทวีป
ตุรกี...ดินแดนแห่งกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือของจักรวรรดิออตโตมัน
ตุรกี เป็นประเทศมุสลิม ที่ไม่ค่อยจะเป็นมุสลิมแบบเคร่งๆ เหมือนหลายๆประเทศ ไม่ใช่แขกจ๋า และก็ไม่ใช่ฝรั่งจ๋า มีการผสมผสานวัฒนธรรมอย่างลงตัว ระหว่างยุโรป และเอเซีย เลยทำให้ชะนีสวยๆอย่างอิชั้นต้องจ๊ะจ๋า เข่าอ่อนระทวยเมื่อสบตากับหนุ่มๆเตอกิส ในเมือง
ด้วยความที่นั่งเครื่องเตอกิส แอร์ไลน์ บินตรง กรุงเทพ - อิสตันบูล 10 ชม. นิดๆ หลับๆ ตื่นๆ เช้ามากลายเป็นชะนีหน้าเยิน สมองโดนปลุกด้วยอากาศหนาว กระตุ้นการรับรู้ รับฟังเป็นภาคภาษาอังกฤษ โดยไกด์ท้องถิ่น ฉะนั้น ตาต้องดู หูต้องฟัง ใจลอยบ้างบางโอกาส เลยจับประเด็นพอเป็นกระสัยแค่นั้นพอ
ฮิปโปรโดรม จุดแรกที่เราจะได้แวะชม ฮิปโปรโดรม สมัยก่อนเป็นสนามแข่งม้า จะมี เสาโอเบลิสค์ ไว้ให้ม้าแข่งวิ่งอ้อม เสานี้มีความสูงถึง 21 เมตร ฐานของเสามีแผ่นหินอ่อนแกะสลัก เป็นรูปพระจักรพรรดิ ยืนตรงกลาง ล้อมรอบด้วยบรรดาพี่น้อง และประชาชน ที่กำลังยืนชมการแข่งม้า ซึ่งเมื่อเรามองลงไปตรงฐาน เราจะเห็นพื้นดินที่ลึกลงไปนั้นคือระดับพื้นดินที่แท้จริงของฮิปโปรโดมในยุคนั้น
จากนั้นก็เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ถึงบลูมอส (Blue mosque) ที่นี่คือมัสยิด สาวสวยอย่างเราจะเข้ามัสยิด ก็ต้องให้เกียรติสถานที่ โดยการคลุมผ้าฮิญาบ แต่ไกด์บอกว่า เราสามารถใช้ผ้าพันคอ มาคลุมให้เรียบร้อยก็ได้ ชะนีไทยใจงาม ก็ต้องปฏิบัติทันที ที่นี่..เราต้องถอดรองเท้าเพื่อเข้าไปเดินชมภายใน ด้วยความที่ชื่อบูลมอส อิชั้นก็เข้าใจว่า จะเป็นมัสยิดสีฟ้า รึไม่ก็หินอ่อนสีฟ้า แต่ความจริงก็คือเค้าใช้กระจกสีฟ้าในการตกแต่งนั่นเอง
สวยเลยแหละ เดินออกมา ก็มีบริการซุป กับขนมปังแจกฟรี ดีงามสิคะ...อากาศหนาวๆ ซุปร้อนๆ อร่อยๆ เพิ่มพลังในการเดินเที่ยวต่อไป
St. Sophai เซนต์ โซเฟีย อันนี้แหละคือที่ๆอิชั้นใฝ่ฝันอยากจะได้มาเห็นกับสองตาน้อยๆของตัวเอง 5555 สมัยก่อนเป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์ที่ใหญ่และสวยมากๆ มีโมเสทชิ้นเล็กๆสีทอง ตกแต่งเป็นเรื่องราวของพระเยชู พระแม่มารี เป็นศิลปะแบบไบเซนไทม์ แต่เมื่อออตโตมันทำสงครามแล้วชนะ สุลต่าน ก็สั่งเปลี่ยนจากโบสถ์ให้มาเป็นมัสยิดในศาสนาอิสลาม โดยโบกปูนทับเรียบเกือบหมด แต่ยังคงมีร่องรอยความเป็นคริสต์ศาสนาให้เราได้เห็น
เฮ่อ...หนอ น่าเศร้า สงครามมันไม่มีอะไรดีเลยจริงจริ๊ง ยังทำกันอยู่ได้ พังพินาศหมด วันนี้...สองตาน้อยๆ ของอิชั้นก็ ได้มาเห็นความยิ่งใหญ่ งดงาม ในสมัยโรมัน และออตโตมัน พูดได้คำเดียว อลังการงานสร้างโคตรๆ สมแล้วที่ได้รับการยอมรับเป็นมรดกโลก
บ่ายๆ ก็ชมพระราชวังโดลมาบาห์เช่ แต่ไม่ได้คลานหมอบหรอกนะเจ้าคะ เอาแค่ทำตัวเป็นกุลสตรีไทย ที่เรียบร้อยไม่ต้องเหมือนผ้าพับไว้ก็พอ
ที่นี่...เคยเป็นวังเดิมของกษัตริย์หรือสุลต่าน ใหญ่โตมโหฬารมากๆ ชนิดเห็นปุ๊บ คิดได้ทันทีว่าสมัยก่อนที่นี่รุ่งเรือง เฟื่องฟูขนาดไหน ภายในเขาห้ามถ่ายรูป จะแอบถ่ายก็แลไม่เคารพกฎกติกา เราก็ไม่ทำเน๊อะ!!!
เย็นย่ำ...ก็ล่องเรือไปช่องแคบบอสฟอรัส ที่แบ่งตุรกีออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ยุโรป กับเอเซีย
โอ้ยๆๆๆ ได้ใจมาก อากาศหนาวๆ ขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าเรือชมวิว มีนกนางนวลบินโช อวดโฉม ขนาดนอนไม่อิ่ม สติไม่ครบร้อย ตายังลุกวาว ได้ยันเย็นก็แสดงให้เห็นว่า แต่ละที่มันสวดยอด...สุดยอด
จากนั้นก็ไปเดินเล่นตลาดอียิปต์ หรือตลาดสไปร์ส ที่ขายของฝาก หลากหลายแนว ที่มีทั้งเครื่องเทศ ถั่ว หลากหลายชนิด แอลมอนด์ พิททชิโอ ขนมเตอกิซดีไลท์ ที่ไว้ทานกับชา เครื่องจักรสาน ฯลฯ
โอ้ว!!!! บรรดาพ่อค้า พอรู้ว่าฟอร์มไทยแลนด์ ดูจะรักเป็นพิเศษ ต่างบอกไทยแลนด์ไอเลิฟยู สงสัยชอบคนไทย นักช้อประดับพระกาฬ เอ๊ะ! รึของแปลกอย่างอิชั้น 55555
แค่วันแรกที่อิสตันบูล ทำเอาชะนีอย่างอิชั้นหลงรักตุรกีไปแล้ว
โฆษณา