สลายผู้ชุมนุม 38,000 ต่อต้านสวมหน้ากากในเยอรมนี เพราะริดรอนสิทธิเสรีภาพมนุษย์ เชื่อโควิดเป็นเรื่องหลอกลวง
การชุมนุมใหญ่ใจกลางกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อต่อต้านการสวมหน้ากากอนมัย ที่มีผู้ร่วมชุนุมกว่า 38,000 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้กองกำลังพลมากถึง 3,000 นาย เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น
การประท้วงอย่างสงบเริ่มพัฒนาไปสู่ความรุนแรงในบางจุด เนื่องจากมีกลุ่มหัวรุนแรงขว้างปาก้อนหิน ขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องมีการจับกุมผู้ประทวงบางส่วนไปดำเนินคดี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 7 นาย
เยอรมนียังคงพบการแพร่ระบาดของไวรัสเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีผู้ติดเชื่อโควิด-19 สะสมเป็น 242,825 ราย อยู่อันดับที่ 20 ของโลก และเสียชีวิตสะสมเป็น 9,363 ราย
การชุมนุมในเยอรมนี และหลายๆ ประเทศในยุโรปทั้งที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ กรุงปารีส ประเทฝรั่งเศส กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และนครซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการจำกัดในทุกรูปแบบ รวมทั้งการยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งผูประท้วงมองว่าเป็นการจำกัดและริดรอรสิทธิเสรีภาพของประชาชน อีกทั้งไม่เชื่อว่าการแพ่ระบาดของไวรัสจะเป็นเรื่องจริง มองเป็นเรื่องหลอกลวงที่รัฐบาลสร้างขึ้นเพื่อบังคับประชาชนให้อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการ
อย่างไรก็ตามสถานการณ์กระแพร่ระบาดของไวรัสใรยุโรปยังคงไม่ลดลง
โดยสหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อสะสม 332,752 ราย เสียชีวิต 41,498 ราย อยู่อันดับที่ 13 ของโลก
ฝรั่งเศส มีผู้ติดเชื้อสะสม 272,530 ราย เสียชีวิต 30,602ราย อยู่อันดับที่ 17 ของโลก
- 35
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
