30 ส.ค. 2020 เวลา 08:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
TENET - เทเน็ท
กำกับและเขียนบทโดย Christopher Nolan
ความยาวภาพยนตร์ 151 นาที
ฟังรูปแบบ Podcast ได้ที่ Blockdit หรือ VDO ผ่านทาง : https://cutt.ly/Gfh7tOa
ภาพยนตร์มาแรงที่สุดในเวลานี้คงหนีไม่พ้นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกเหนือไปจาก TENET หนังของผู้กำกับอัจฉริยะนามว่า Christopher Nolan เจ้าของผลงานยอดเยี่ยมอย่าง Memento (2000), The Dark Knight Trilogy, Inception (2010) และ Dunkirk (2017) ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับความท้าทายครั้งใหม่ ในหนังจารชนที่จะท้าทายประสบการณ์ดูหนังของคุณ ให้ทะเยอทะยานมากยิ่งขึ้นไปอีก มาดูกันเถอะครับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีอะไรเซอร์ไพซ์รอเราอยู่บ้าง
Christopher Nolan ผู้กำกับภาพยนตร์อัจฉริยะ
สำหรับความรู้สึกหลังชมของผมนะครับ พบว่า...โห มันดูฉลาดล้ำมาก เรียกว่าผมรู้สึกว้าวในหลายฉาก มันคือนิยามคำว่าซับซ้อนสูงมาก มันดูงงนะ...แต่ในขณะเดียวกันมันก็เข้าใจไม่ยากเกินไป เรียกว่ามันคงเป็นพรสวรรค์การเล่าเรื่องของผู้กำกับเลยครับ หากเป็นผู้กำกับที่ฝีมือไม่ถึงพอ นี่จะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ดูไม่รู้เรื่อง และมีคนด่ากันเต็มแน่นอน
ในส่วนของจุดเด่นที่โดดเด่นสุด ผมคงต้องบอกเลยว่าเป็นส่วนของไอเดียของเรื่องราวครับ เรียกว่ามันมีการสร้างกฏแห่งความซับซ้อนในตัวของมันเองที่น่าสนใจ การพัฒนาแนวคิดภายในเรื่องให้ดูน่าเชื่อถือและสดใหม่ มันดูแปลกจน...ไม่เคยเห็นภาพยนตร์จารชนเรื่องไหนทำแบบนี้มาก่อน เรียกว่าเขาผสมผสานประสบการณ์การทำหนังในสมัยการทำ Memento กับ Inception ออกมาอย่างลงตัวมากครับ การขายไอเดียที่เรียกว่าคารวะสามจอกเลยก็ว่าได้
TENET ผสมผสาน Memento กับ Inception เข้าด้วยกัน
สิ่งที่พัฒนามากยิ่งขึ้นสำหรับตัว Nolan ผมว่าคงหนีไม่พ้นการสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันที่มีอารมรณ์ร่วมสูงมาก การประสานงานร่วมกับกล้อง IMAX เรียกว่าสมบูรณ์แบบ แม้ส่วนตัวจะยังไม่ได้ดูใน IMAX แต่พอสัมผัสได้อยู่ ต้องบอกเลยว่าเขาพัฒนาจากจุดด้อยที่เคยมีในสมัย The Dark Knight มาขั้นกว่าใน Dunkirk จนกลายเป็นจุดเด่นในเรื่องนี้เลยครับ หากใครยังสงสัยว่า Nolan สามารถทำหนังแอ็กชันได้ไหม เรื่องนี้เป็นคำตอบชิ้นดีเลยละครับ ว่าปัจจุบันเขาสามารถทำได้แล้ว สิ่งนี้มันเหมือนตอกย้ำเลยละครับ ว่าตัว Nolan พร้อมที่จะทำแฟรนไชส์ที่เขารักอย่าง 007 หรือ เจมส์ บอนด์แล้วละครับ
ในส่วนของนักแสดง คงต้องเอ่ยปากชมจากใจจริงว่า แสดงออกมาดีกันหลายคนมากครับ แต่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น Robert Pattinson กับบทบาท Neil ที่เรียกว่าโคตรเท่ หล่อแบบหล่อชิบหาย บางทีขโมยซีนจนกลบคนอื่นมิดเลยละครับ คนอื่นไม่ได้แสดงแย่นะครับ อย่าง Elizabeth Debicki ในบทบาท Kat ก็ออกมาดูน่าสนใจ หรืออย่าง John David Washington ก็ออกมาเนี๊ยบเท่ อย่างกับถอดแบบมาจากเจมส์ บอนด์
Robert Pattinson ในบทบาท Neil
และนั่นคือข้อดีของภาพยนตร์ทั้งหมดครับ ส่วนข้อเสียคงพูดได้ในระดับหนึ่ง ไม่งั้นมันจะสปอยล์ เอาเป็นว่ามันค่อนข้างขาดมู๊ดที่หลากหลายแหละครับ รวมถึงความลึกของด้านอารมณ์ที่ดูจะไม่ค่อยสุดสักเท่าไร มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก มันอาจเป็นข้อเสียของการที่ภาพยนตร์เน้นขายไอเดีย ส่งผลให้มันโฟกัสกับตัวละครค่อนข้างน้อยมาก เราไม่ได้รู้ภูมิหลังของตัวละครเท่าที่ควร ความอินหรือความเป็นมนุษย์จึงลดทอนไปอย่างไม่น่าให้อภัย
หากเปรียบเทียบ TENET ก็เหมือนกับหุ่นยนตร์ปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดโคตรล้ำ แต่มันไร้หัวใจและจิตวิญญาณของมนุษย์ไป
TENET หนังที่ล้ำ แต่ขาดหัวใจ
ส่วนของข้อเสียมันก็มีอีกครับ แต่ถ้าบอกมันจะเป็นการสปอยล์ ฉะนั้นจะมีการกล่าวเพิ่มในอันสปอยล์แล้วกันนะครับ
อันนี้เกือบลืมบอกไปเลย ถ้าคุณงงกับ TENET ไม่แปลกครับ เพราะเรื่องราวมันเล่าเรื่องค่อนข้างซับซ้อนเยอะมาก
แต่ถ้าคุณดู TENET แล้วไม่งง นั่นก็ไม่แปลกครับ เราเป็นเพื่อนกันนะ ฮาฮ่า เพราะหากเราตั้งใจดูมันอย่างจริงจัง จะพบว่ามันไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะเข้าใจในรอบเดียวได้ แค่ต้องตั้งใจดูมากกว่าปกติหน่อยครับ แต่ถึงดูเข้าใจยังไงก็ว่าจะไปซ้ำเก็บดีเทลอีกรอบ หลังเก็บดีเทลอีกรอบมาคุยกับแบบสปอยล์น่าจะเหมาะขึ้นครับ
คะแนน 7.8 หรือ B++ เป็นหนังจารชนที่โคตรล้ำ มีความซับซ้อนในตัวของบทภาพยนตร์ การเล่าเรื่องที่โคตรแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร นี่บเป็นการอัพเกรดความสามารถของ Nolan ไปอีกระดับหนึ่ง ว่าเขาพร้อมจะทำ 007 แล้ว เสียดายที่หนังค่อนข้างแห้งแล้งในส่วนของอารมณ์ตัวละคร ส่งผลให้มันเหมือนหุ่นยนตร์ปัญญาประดิษฐ์ แต่ก็ไร้หัวใจและจิตวิญญาณไป
รีวิว TENET
สรุป TENET - เทเน็ท ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความล้ำชนิดหาตัวจับได้ยาก การเล่าเรื่องที่โคตรทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เคยทำมา ชนิดที่เรียกว่าอัพเกรดให้ Christopher Nolan แทบจะเป็นผู้กำกับที่สมบูรณ์แบบทางด้านไอเดีย การเล่าเรื่อง และฉากแอ็กชันเลยละครับ ทฤษฏีการเล่นกับเวลาที่ค่อนข้างแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร แม้เรื่องราวภายในเรื่องจะมีความซับซ้อนมาก หลายคนอาจจะงงกับเรื่องภายในเรื่องเยอะมาก แต่หากตั้งใจดูดี ๆ มันไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะดูเข้าใจได้ในรอบเดียวครับ ถึงแม้จะดูไม่เข้าใจแต่ก็สามารถบันเทิงกับมันได้ดี ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดคือ Neil ที่รับโดย Robert Pattinson เรียกว่าเขาเป็น MVP ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ แม้เรื่องราวโดยรวมจะอยู่ในคุณภาพสูง แต่ TENET ยังคงมีปัญหาในเรื่องของความสัมพันธ์ตัวละครที่ตื้นเขิน ไม่รู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครเท่าที่ควร ทำให้คุณภาพมันดร็อปลงไปอย่างน่าเสียดาย
หากถามว่าเทียบกับเรื่องก่อนของโนแลนเป็นไงบ้าง ผมคงต้องบอกเลยว่า มันยังไม่ใช่ผลงานท็อปฟอร์มระดับเดียวกับ Inception, The Dark Knight หรือ Memento แต่มันดีกว่าเรื่อง Interstellar และ Dunkirk มากในสายตาของผมนะครับ แต่ในด้านภาพรวมทุกอย่างโดยรวม ผมว่า Dunkirk ทำออกมาได้กลมกล่อมกว่า เพราะการลำดับเรื่องที่ดีกว่าเรื่องนี้ด้วยครับ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าขาด Lee Smith นักลำดับภาพคู่บุญไป รวมถึงบทภาพยนตร์ที่ขาด Jonathan Nolan มาช่วยดูแลให้นับตั้งแต่จบ Interstellar ไป มันทำให้ผลงานดร็อปลงมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด จนผมคิดในใจนะครับ...เสด็จพ่อครับ เรื่องหน้าตามพวกเขากลับมาด้วยนะครับ งานมันจะได้ Masterpiece ครับ
ทีมงานของ Christopher Nolan ซ้ายไปขวา Editor Lee Smith, Sound Designer Richard King, ตรงกลาง Christopher Nolan , Emma Thomas and DP Hoyte van Hoytema
แต่อย่างไรผลงานเรื่อง TENET ก็ยังเป็นผลงานภาพยนตร์ชั้นยอดที่ต้องไปดูในโรงภาพยนตร์อยู่ดี โดยเฉพาะหากได้ดูใน IMAX มันคงจะเป็นประสบการณ์ชั้นยอดในการชมภาพยนตร์แน่นอน ไม่ได้เชิญชวนนะครับ แต่ต้องไปดูเลยละครับ
ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะพลาดภาพยนตร์แห่งยุค ที่คุณไม่เคยลิ้มรสมาก่อนแบบเรื่องนี้ครับ :)
สามารถรับฟังตอนเก่าๆได้ทาง Spotify : shorturl.at/agmU4
โฆษณา