ทบทวน..กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของเส้นประธานสิบ..
- เส้น หมายถึง หลอดเลือด เอ็น กล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มกระดูก พลังประสาท และพลังเลือดลม เส้นเอ็นทั่วร่างกายประมาณ 72,000 เส้น และมีเอ็น 10 เส้น เป็นประธาน
- เส้นเอ็นประธาน 10 เส้นในร่างกายมนุษย์ที่มีต้นกำเนิดบริเวณรอบสะดือแล้วไปยังจุดสุดท้ายที่ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ
1. เส้นอิทา
** แนวเส้นของพลังหรือผลการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตและระบบประสาท ที่มาเลี้ยงบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย อวัยวะเพศและบริเวณขา ลมประจำเส้นคือ สมจันทรกะลา
** จุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากสะดือ ไปทางซ้ายมือประมาณ 2 นิ้วมือ แล่นลงไปที่หัวหน่าว และต้นขาเบื้องซ้ายด้านหน้า จนถึงเหนือหัวเข่า แล้วอ้อมไปทางซ้าย จดกึ่งกลางต้นขาด้านหลัง แล่นขึ้นบนผ่านกึ่งกลางแก้มก้นไปข้างกระดูกสันหลัง ขึ้นไปข้างกระดูกสันคอกระหวัดขึ้นไปบนศีรษะที่หน้าผาก ไปข้างสันจมูก มาประจำอยู่ที่ข้างจมูกซ้าย
** อาการผิดปกติ ทำให้ปวดศีรษะอย่างมาก ตามืดมัว ปากเบี้ยว เจ็บสันหลัง บางครั้งมีกำเดาและลมระคน มีอาการเรียกลมปะกัง บางครั้งท้องมีอาการเรียกว่า ลมพะหิ โทษของเส้นอิทา เรียกว่า ลมจันทร์
2. เส้นปิงคลา
** เป็นเส้นที่มีความคล้ายคลึงกับเส้นอิทา แต่อยู่คนละข้างของลำตัว หากเส้นอิทาและปิงคลาผิดปกติอาจเกิดอัมพาต ปากเบี้ยว ปวดศีรษะรุนแรง ลมประจำเส้น คือ ลมสูญทะกะลา
3. เส้นสุมนา (สุมะนา)
** เป็นเส้นอยู่กลางลำตัว มีความสำคัญมากต่อบริเวณหัวใจ การทำงานของสมอง ระบบประสาทที่เป็นไขสันหลัง หลอดเลือดแดงใหญ่ กลุ่มประสาทที่อยู่กลางตัว ลมประจำเส้น คือ ลมชิวหาสดมภ์
** จุดเริ่มอยู่เหนือสะดือประมาณ 3 นิ้ว อยู่กึ่งกลางระหว่างสะดือกับใต้บริเวณกระดูกอก แล่นขึ้นไปใต้กระดูกอก แล่นผ่านลำคอไปจรดโคนลิ้น
** อาการผิดปกติ เกิดอาการทางจิต จิตคลุ้มคลั่ง ละเมอ นอนไม่หลับ ลิ้นไม่รู้รส มีผลทำให้เกิดอาการพูดไม่ออก (ลมชิวหาสดมภ์) เกิดอาการจุกอก เกิดเอ็นเป็นลำ (ลมดาลตะคุณ) เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เส้นสุมนานี้สำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าเกิดในวันอาทิตย์มีอันตรายถึงตาย
4. เส้นกาลทารี (กาละธารี, กาละทารี)
** เป็นเส้นเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตและระบบประสาทที่ไปเลี้ยงบริเวณแขน ขา ท้อง ใช้รักษาอาการปวดที่ไหล่ แขนขา เอว
** จุดเริ่มต้นที่กึ่งกลางท้อง แตกเป็น 4 เส้น สองเส้นบนเหนือสะดือ แล่นผ่านราวนมทั้งสองข้าง ถึงข้อมือทั้งสองข้าว แล้วไปที่นิ้วมือทั้งสิบ สองเส้นล่างใต้สะดือ 1 นิ้ว แล่นไปขาทั้งสองถึงข้อเท้าทั้งสองข้าง แล้วเลยไปที่นิ้วเท้าทั้งสิบ
** อาการผิดปกติ มีอาการเย็นชาทั้งตัว ให้จับเย็น หนาวสะท้าน เกิดจากอาหารผิดสำแดง บางครั้งเกิดลมเรียกว่า ลมสหัสรังสี คือหมดสติไม่รู้ตัว
5. เส้นสหัสรังสี
** เป็นเส้นเกี่ยวกับตาข้างซ้าย และจุดที่อยู่ใบหน้าและคอ เรียกว่า เส้นรากตาซ้าย
** จุดเริ่มต้นอยู่ต่ำกว่าสะดือ 2 นิ้วมือ แล่นลงไปต้นขาด้านใน ไปตามหน้าแข้งด้านในจดปลายเท้าซ้ายด้านใน และกระหวัดมาทางหน้าแข้งด้านนอก ไปต้นขา และกระหวัดกลับทางต้นขาใกล้สะโพก ขึ้นไปตามชายโครงด้านหน้า ผ่านหัวนมไปใต้คางซ้าย ขึ้นไปยังนัยน์ตาข้างซ้าย
** อาการผิดปกติ ลมจักขุนิวาตและอัคคะนิวารคุณ ทำให้เจ็บกระบอกตา วิงเวียน ลืมตาไม่ขึ้น สาเหตุอาจเกิดจากการกินของมัน หวานเกินไป มักเกิดในวันศุกร์
6. เส้นทวารี (ทุวารี)
** เป็นเส้นเหมือนเส้นสหัสรังสี แต่เกี่ยวข้องกับตาข้างขวา รวมถึงคอและใบหน้า เรียกว่า เส้นรากตาขวา
** อาการผิดปกติ ตาลืมไม่ขึ้น วิงเวียน ปวดตามาก ถ้ากำเริบ ปวดตาทั้งสองข้าง บางครั้งทำให้ตาพร่าไม่เห็น ถ้าเกิดบ่อย ๆ จะเกิดโรคปัตคาด เกิดจากรับประทานน้ำมันมะพร้าวอันมันหวานจัดบ่อย ๆ และมักเกิดในวันอังคาร
7. เส้นจันทภูสัง (เส้นลาวุสัง)
** เป็นเส้นเกี่ยวข้องกับหู ส่วนใหญ่อยู่บริเวณคอ ประสาทและหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหู หลังหู ใต้หู ต่อมน้ำลาย มีผลต่อการเบื่อและเจริญอาหาร การนอน เรียกว่า เส้นรากหูซ้าย
** จุดเริ่มต้นอยู่ข้างซ้ายของสะดือประมาณ 3 นิ้ว ลึกลงไปประมาณ 2 นิ้ว แล่นไปราวนมซ้าย ขึ้นผ่านก้านคอ แนบชิดก้านคอ ไปหลังหูเข้าไปในหูข้างซ้าย
** อาการผิดปกติ หูตึง ลมออกหู เกิดลมชื่อ ลมคะพาหุ ทำให้มีอาการหูตึง มักเกิดโรคในวันพุธ เกิดจากการอาบน้ำมากเกินไป
8. เส้นรุชำ (รุทัง)
** เป็นเส้นเหมือนเส้นจันทภูสัง แต่อยู่แนวด้านขวา เรียกว่า เส้นรากหูขวา
** อาการผิดปกติ หูตึง ลมออกหู ปวดหู เกิดจากการชอบกินน้ำมะพร้าว
9. เส้นสุขุมัง (เส้นนันทะกะหวัด)
** เป็นเส้นที่เกี่ยวกับระบบขับถ่ายอุจจาระเป็นส่วนใหญ่ เป็นเส้นบริเวณ ทวารหนัก ฝีเย็บ กระตุ้นประสาทวากัสที่เป็นประสาทสมองคู่ที่ 10 ที่ควบคุมการอาเจียน สะอึก สะอื้น การทำงานของกระบังลม หอบเหนื่อย อาการบวที่เกี่ยวกับไต และหัวใจ
** จุดเริ่มต้นที่กึ่งกลางท้องใต้สะดือ 3 นิ้ว เยื้องไปซ้ายเล็กน้อย แล่นไปที่ทวารหนัก
** อาการผิดปกติ ตึงบริเวณทวาร รับประทานอาหารเล็กน้อยรู้สึกอึดอัดแน่นท้อง มักเกิดวันอาทิตย์ เป็นผู้ที่กินอาหารมันจัด
10. เส้นสิกขินี (เส้นสิขินี เส้นคิชฌะ)
** เป็นเส้นที่เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะที่ประกอบด้วยไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ จุดสำคัญที่อยู่บริเวณท้อง ท้องน้อย
** จุดเริ่มต้นที่กึ่งกลางท้องใต้สะดือ 3 นิ้ว เยื้องไปขวาเล็กน้อย แล่นไปที่ทวารเบา
** อาการผิดปกติ คือ ขัดเบา ปัสสาวะขุ่น เจ็บหัวหน่าว เกิดลมเรียกว่า ลมราทยักษ์ เกิดจากเอ็นขององคชาตร้าวหม่นหมอง เกิดเพราะน้ำกามถูกั้นไม่ตกออกเวลากำหนัด หรือหนองใน สำหรับสตรีเกิดจากปัญหาของโลหิตเกี่ยวกับมดลูก เจ็บท้องน้อย เจ็บสีข้างและเอว..