30 ส.ค. 2020 เวลา 15:18 • ธุรกิจ
ลงทุนโซล่าเซลล์ 330,000 บาทผลิตไฟได้วันล่ะ 30-40 หน่วย การไฟฟ้าขายไฟหน่วยล่ะ 4 บาท ตีเป็นราคาวันนึงผลิตได้ประมาณ 160 บาท เดือนนึงผลิตได้ 4,800 หนึ่งปีผลิตได้ 58,000 บาท สามารถทำสัญญาขายไฟให้กับการไฟฟ้าคืนได้ 5 ปี แต่การไฟฟ้ารับซื้อคืนแค่หน่วยล่ะ 1.63 บาท ขายแพงแต่รับซื้อถูก แทบไม่มีโอกาสคืนทุน
แต่ถ้าเราเปลี่ยนจากการขายให้กับการไฟฟ้า เปลี่ยนมาเป็นขายให้บ้านใกล้ๆหรือบ้านใกล้เคียงแทน ประมาณ 3-4 หลัง ปกติบ้านทั่วไป จะซื้อไฟจากการไฟฟ้าหน่วยล่ะ 4 บาท แต่ถ้าเราขายไฟฟ้าให้เขา โดยการลดค่าไฟให้ เป็นขายหน่วยล่ะ 3 บาทแทน จะทำให้เขา ประหยัดเงินไปได้หน่วยล่ะ 1 บาทเลยทีเดียว และก็จะทำให้เขาประหยัดเงินที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ค่าบริการ และค่าภาษีที่จ่ายให้กับทางการไฟฟ้าไปด้วย
ทำให้เขาก็วินที่ซื้อค่าไฟที่ถูกลง ส่วนผมก็วินที่มีเงินปันผลเข้าทุกเดือนจากการขายไฟ และคืนทุนเร็วขึ้น
ถ้าทำระบบนี้ได้ วันนึงผลิตไฟได้ 40 หน่วย ตีเป็นเดือนล่ะ 1,200 หน่วย ที่เราสามารถผลิตไฟขึ้นมาได้
1,200 หน่วย ตีเป็นเงิน 3,600 - 4,800 บาท ต่อเดือน ปีนึงก็จะได้ 57,600 บาท ใช้ระยะเวลาคืนทุน 6 ปี
คือ 345,600 บาท แผงมีอายุใช้งาน 25 ปี แล้วจะเสื่อมสภาพ ถ้าระบบนี้อยู่ได้ 20 ปี จะได้เงินประมาณ
1,152,000 บาท กำไร 8 แสนเลยทีเดียว โดยไม่ต้องทำอะไร ถ้ายืดอายุใช้งานไปถึง 25 ปี จะมีกำไรอยู่ที่ ล้านกว่าบาท โดยไม่ต้องทำงานอะไร
แต่ปัญหามันอยู่ที่ บ้านทุกหลังก็ต้องใช้ไฟฟ้าในตอนกลางคืน แต่ไฟฟ้าที่เราผลิตได้ มันได้แค่กลางวัน ถ้าหากมีบ้านใกล้เคียง ที่ใช้ไฟกลางวันเป็นหลัก จะคืนทุนเร็ว หรือไม่ก็ เปลี่ยนมิเตอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วกลางคืน เราก็เอาไฟจากการไฟฟ้า มาจ่ายให้เขาแทน ก็จะทำให้กำไรเราลดลงนิดหน่อย ทุน 330,000 บาท คือต้นทุนที่พร้อมติดตั้งสำเร็จรูป แต่ถ้าเราติดตั้งเอง เดินระบบเองทั้งหมด มันก็จะสามารถทำให้ต้นทุนของเราถูกลงได้ และก็อาจจะมีปัญหา และอุปสรรคเข้ามาบ้าง ก็ต้องแก้ไขไปทีล่ะขั้นตอน
ลงทุน 330,000 จะคุ้มไหมไม่รู้ แต่โซล่าเซลล์ระบบออนกริด มันลงทุนถูกกว่า ระบบออฟกริดมาก ระบบออนกริด ไฟมันเสถียร ติดตั้งง่าย และถ้าติดตั้งด้วยตัวเอง ลงทุนน้อยกว่า 3 แสนแน่นอน
ถ้าเทียบกับระบบออฟกริด ระบบออฟกริด ถ้าทำให้มีระบบที่สเถียรแบบนี้ ก็ลงทุน 2-3 แสนไม่ต่างเหมือนกัน แต่ใช้ไฟได้แค่บ้านเราหลังเดียว แถมอุปกรณ์ต่างๆ มันก็มีวันเสื่อมสภาพ ทั้งแบตเตอร์รี่ อินเวอร์เตอร์ แผง ต่างๆ ทำให้ยากมากที่จะคืนทุน และไม่ค่อยคุ้ม ถ้าหากบ้านมีไฟจากการไฟฟ้าเข้าถึงอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับระบบออนกริด อุปกรณ์มันน้อย แบตก็ไม่ต้องมี ไม่เสี่ยงขาดทุนที่แบตจะเสื่อมสภาพ
กำไรอาจจะน้อย แต่ถ้ามองในเรื่องของปันผล
มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ปันผลมันได้เยอะ ปีนึงปันผลตั้ง 50,000 บาทเลยทีเดียว
ข้อดีของมัน
1. เราสามารถใช้ไฟฟรีได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟในแต่ล่ะเดือน
2. เราสามารถนำไฟที่ผลิตมา นำไปขายได้ ทำให้เราก็เหมือนมีเงินปันผลเข้าทุกเดือน เดือนล่ะ 2-4 พัน
3. เราลงทุนเสร็จ วางระบบเสร็จ เราแทบไม่ต้องไปนั่งทำงานให้กับมัน วันล่ะ 8 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง
เราสามารถเอาเวลาที่เหลือตรงนี้ ไปทำงานอย่างอื่นได้ ไปหาเงิน หรือศึกษาการลงทุนในช่องทางอื่นได้
เรารันระบบไปให้ได้ 6 ปี ก็คืนทุน และปีที่เหลือ ก็กำไรล้วนๆ หรือคืนทุนแล้ว คืนทุนแล้วเราจะโล๊ะแผง โล๊ะระบบขายในตลาดมือสอง ก็ทำได้
การลงทุนมีความเสี่ยง ทุกอย่างนี้เป็นไอเดียที่ผมพึ่งคิดได้ขึ้นมา ทำจริงอาจจะมีอุปสรรค และปัญหาอะไรหลายๆอย่าง ไม่รู้มันจะเวิร์คหรือปล่าว ก็ศึกษาหาความรู้กันต่อไป เอามาโพส ก็เพราะเผื่อมีใครสนใจและกล้าที่จะเสี่ยงที่จะลงทุน หรืออาจจะได้เพื่อนที่สนใจเรื่องเดียวกัน จะได้ช่วยๆกันศึกษา และหาวิธีการแก้ปัญหา หรือช่วยกันหาทางที่จะทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้ต่างๆไปด้วยกัน
โฆษณา