30 ส.ค. 2020 เวลา 16:34 • หนังสือ
EP-13 Ray Dalio คือใคร?
(ตอนที่ 1 Ray Dalio คือใคร+หลักการชีวิต)
เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือ……
อันนี้ประโยคที่ได้ยินมาจากที่คนในสังคมพูดๆ กัน
ถ้าอ่านหนังสือ The Principles เขียนโดย เรย์ เดลิโอ (Ray Dalio)
เราอาจจะได้อีกมุมมองคือ "เจ็บ(ปวด) แล้ว ฉันจะไม่ทนจ้าา" แต่จะหา "วิธีแก้ไข" เพื่อไม่ให้เกิดความเจ็บปวดซ้ำๆ นั่นอีก
.
.
ความเจ็บปวด+การทบทวน = การพัฒนา
ประโยคเด็ด ประโยคหนึ่งในหนังสือ The Principle
แต่ถ้าเจ็บปวด แล้วก็ไม่คิดจะทบทวน เราก็จะเจอปัญหานั้น ซ้ำแล้ว..ซ้ำเล่า..ซ้ำแล้ว..ซ้ำอีก
.
.
หนังสือเรื่องนี้ของ Ray Dalio แบ่งเป็น 3 ตอน
ตอนแรกประวัติเขาเอง ตอนสองหลักการชีวิต ตอนสามหลักการทำงาน
.
.
อ่านยังไม่จบ เพราะหนามาก แม้จะยังอ่านไม่จบ
ทั้งเล่มเจอแต่ message ที่ว่า เจ็บปวดๆๆๆๆๆๆๆๆ
ประมาณว่ากว่าจะมีวันนี้ เรย์ เค้าเจ็บมาเย๊อะ!!😫
.
.
สมัยก่อนนี่ก็นักเลงไม่เบานะ เค้าเล่าเองว่า "เคยต่อยหน้าเจ้านาย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมผมถึงถูกไล่ออก" 😱
ตอนที่ 1 นี้ ดิฉันจะเล่าประวัติย่อๆ ของ Ray dalio
เพราะปลายทางของความสำเร็จ มันเห็นๆ กันอยู่ แต่ต้นทางมันน่าสนใจยิ่งกว่า!
.
.
ปัจจุบัน Ray Dalio มีอายุ 71 ปี ถ้าเป็นแถวบ้านเราคงเรียก "คุณตา"
เขาเกิดในปี พ.ศ 2492 ที่ลองไอร์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อเป็นนักดนตรีแจ๊ส แม่เป็นแม่บ้าน
.
.
"จุดอ่อน" ของเรย์ คือเป็นคนที่ท่องจำสิ่งต่างๆ ได้ไม่ค่อยดี
แต่จุดเด่นของเขา คือ เป็นคนที่อยากรู้อยากเห็น รักที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เรย์ เป็นคนที่ชอบความเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตอบแทน เขาลองทุกอย่าง
.
.
เขาไม่ชอบเลยก็คือความน่าเบื่อ อะไรที่มันธรรมดา พื้นๆ เขาจะไม่ชอบ
สู้ให้เขาทำอะไรสักอย่างแล้วล้มเหลว เขายังจะรู้สึกดีมากกว่าการที่ไม่ทำอะไรเลย
.
.
นี่คือคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นของ เรย์ ซึ่งเป็นมาแต่เล็กแต่น้อย
.
.
เขาเป็นคนที่ไม่ชอบไปโรงเรียน เพราะเขาไม่เข้าใจว่าการเรียนได้ดีจากโรงเรียน จะได้อะไรมากไปกว่าการที่ทำให้แม่เขายอมรับ
.
.
แม่เขาเสียชีวิตตอนเขาอายุ 19 ปีจากนั้นเขาก็อยู่กับพ่อมาตลอด
เรย์ ไม่ได้อยู่เฉยๆ เขาชอบทำงาน เขาเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 8 ขวบหลายอย่าง
.
.
"ทั้งส่งหนังสือพิมพ์ กวาดหิมะ เป็นแคดดี้ในสนามกอล์ฟ เป็นเด็กเช็ดโต๊ะ เป็นเด็กล้างจานในร้านอาหาร เป็นเด็กจัดของในห้างสรรพสินค้า"
.
.
จุดที่ทำให้ได้รู้จักกับหุ้น คือตอนอายุ 12 ปี ตอนนั้นเป็นแคดดี้ และเป็นยุคที่อเมริการุ่งเรืองมาก เศรษฐกิจดี ตลาดหุ้นเฟื่องฟูใครๆ ก็พูดถึงหุ้น ไม่เว้นแม้แต่คนที่มาเล่นกอล์ฟ
.
.
วันหนึ่งเขาได้ยินคนที่มาเล่นกอล์ฟในสนามคุยกันเรื่องหุ้น เขาก็เลยหูผึ่ง สรุปก็เอาเงินจากค่าแบกถุงกอล์ฟไปเริ่มลงทุนในตลาดหุ้น ตัวแรกที่ซื้อคือ Northeast Airlines แล้วบังเอิญโชคดีกำไรอื้อซ่า จึงมองว่าตลาดหุ้นนี่หมูนัก
.
.
ปี 1996 (2509) เป็นปีสุดท้ายของ ม.ปลาย และเป็นปีที่ตลาดหุ้นเฟื่องฟูมาก เขาทำเงินได้อย่างมากจากตลาดหุ้น
.
.
แต่หลังจากนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนั้นก็คือในช่วงปี 1967 ถึง 1979 ที่เศรษฐกิจเริ่มแย่ลง (2510-2522) และเขาขาดทุนจากหุ้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาเข็ด แต่กลับเป็นบทเรียนให้เขาได้พัฒนา
.
.
ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีนี่แหละที่เขา เริ่มเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ท้องถิ่น C.W.post และเขาเรียนวิชาการเงินเป็นวิชาเอกเพราะว่าเขารักในตลาดหุ้น ทำให้ตอนนั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับฟิวเจอร์ส
.
.
เขาสำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยท้องถิ่น C.W.post ด้วยเกรดเฉลี่ยที่น่าจะดีพอสมควร ทำให้เขาได้เข้าสู่ โรงเรียนธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดหรือ Harvard Business School และจบ MBA จากฮาร์วาร์ด
.
.
เรย์ ทำงานประจำอยู่ 2 บริษัท คือ Dominick&Dominick ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ที่มีายุมากกว่า 100 ปี เรย์ มาฝึกวิทยายุทธ์ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายโภคภัณฑ์
.
.
ต่อมา Dominick&Dominick ปิดตัวลง เขาก็ย้ายมาทำที่ Shearson เค้าบอกว่าเค้ารักงานที่ทำและรักเพื่อนร่วมงานอย่างมาก แต่เค้ารู้สึกว่าเค้าไม่เหมาะกับที่ Shearson
.
.
และเขาซ่าส์ไม่เบา ในที่สุดก็ถูกไล่ออก ดังที่เขาเขียนบรรยายไว้ว่า "ผมรักงานที่ทำและรักเพื่อนร่วมงานอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเหมาะกับ Shearson ผมเหมือนคนป่ามากเกินไป....ผมเองยังเคยต่อยหน้าเจ้านายด้วยซ้ำ ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมผมถูกไล่ออก"
.
.
เขาจึงมาเปิดบริษัทของตัวเองที่ชื่อ Bridgewater ในปี 1975 (พ.ศ.2518) จากอพาร์ตเม้นท์ 2 ห้องนอน กระทั่งเกิดความสำเร็จเป็นเฮดจ์ฟันด์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในวันนี้
.
.
👉เป็นบริษัทเอกชน ที่สำคัญที่สุด เป็นลำดับที่ 5 ในสหรัฐ (อ้างอิงจาก Fortune)
👉เรย์ เดลิโอ เป็น 1 ใน 100 คนที่รวยที่สุดในโลก (อ้างอิงจาก Forbes)
👉เรย์ เดลิโอ เป็น 1 ใน 100 คนผู้มีอิทธิพลมากที่สุด (อ้างอิงจาก Time)
.
.
เส้นทางแห่งความล้มเหลวและความสำเร็จ เขาถ่ายทอดไว้ในหนังสือเล่มนี้ เพื่อแบ่งปัน หลักการ ให้กับผู้คนทั่วไป นำไปประยุกต์ใช้
สำหรับหลักการใช้ชีวิต ที่ชอบเป็นพิเศษคือ
.
.
เรย์ กล่าวว่า ไม่มีทางใดที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรากำลังไล่ตามเป้าหมายที่ทะเยอทะยานของเรา
.
.
หากคุณสามารถใช้ความเจ็บปวดสะท้อนความคิด แทนที่จะหลีกเลี่ยงมัน สิ่งเหล่านี้จะพาคุณไปสู่การเรียนและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
.
.
ถ้าคุณไม่ล้มเหลว แปลว่าคุณยังก้าวไม่ผ่านขีดจำกัดของคุณ และถ้าคุณไม่ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดคุณก็ไม่สามารถไปได้จนสุดทางของศักยภาพของคุณ
.
.
ส่งท้าย แบบเจ็บจี๊ด!
.
.
"คนส่วนใหญ่มักจะอาย เมื่อปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากการขาดความรู้ความสามารถของตัวเอง จงข้ามมันไปให้ได้ การเข้าใจจุดอ่อนของตัวเอง ไม่เหมือนกับการยอมจำนนต่อมัน มันเป็นขั้นแรกในการเอาชนะจุดอ่อนต่างๆ เหล่านี้ ความเจ็บปวดที่คุณรู้สึกคือ "ความเจ็บปวดเพื่อการเติบโต" ที่มันจะทดสอบความเป็นตัวตนของคุณ และให้รางวัลแก่คุณถ้าคุณสามารถผ่านมันไปได้" เรย์ กล่าว
.
.
ทิ่มหัวใจหลานทุกบรรทัดจริงๆ คุณตาเรย์ เดลิโอ!!
.
.
(ตอนที่ 2 ซึ่งจะเป็นตอนจบ จะมาเขียนต่อ หลักการทำงาน)
#RAYDALIO #เรย์เดลิโอ #ThePrinciples
โฆษณา